กลเกมแห่งการต่อรอง


ความเรียง ถึงเรื่องราวบรรยากาศแห่งการต่อรองทางการเมือง เพื่อรวบรวมคะแนนเสียงของพรรคการเมือง ก่อนการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ความเข้าใจในอำนาจ และสิทธิโดยชอบธรรม เมื่อได้รับไปจากประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง วันนี้เวทีคือเวทีแห่งการต่อรองผลประโยชน์ ต่อรองอำนาจทางการเมือง เป็นเวทีที่นักการเมืองโดดเด่นโฉบเฉี่ยว ในแต่ละภาพสะท้อนซึ่งประชาชนพลเรือนเช่นเราท่านคนไทยทั้งหลาย พึงจับตามองด้วยความเข้าใจ ในเกมแห่งอำนาจครั้งนี้

กลเกมแห่งการต่อรอง

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

นั่งมองเรื่องราวนักการเมือง

หนึ่งวันหลังรวบรวมไพร่พลและข้ออ้าง

จากผลการเลือกตั้งของประชาชนว่าชอบธรรม

จึงเกิดภาวะฝุ่นควันอบอวล ให้เราประชาชนคนไทยได้อึดอัดใจ เพียงแค่หนึ่งวันหนึ่งคืนที่ประชาชนมอบอำนาจบางส่วน ภายหลังจากคะแนนเสียงเลือกตั้งปรากฎ ยังไม่ต้องนับรวมกับใบเหลืองใบแดง ยังไม่ได้นับศพสหายผู้บาดเจ็บล่มตาย วันนี้เราได้เห็นวิสัยนักการเมือง และกลเกมแห่งอำนาจอีกครั้ง

สรุปรวมด้วยความเข้าใจแต่ดั้งเดิมของสังคมมนุษย์

กล่าวทุกยุคสมัยว่า อำนาจนี้ช่างหอมหวลนัก

ยากนักที่ใครจะก้าวพ้นจากวังวนมายา

ในด้านหนึ่งของความคิด ผู้คนในเกมแห่งการต่อรอง หรือเกมแห่งอำนาจ อาจเข้าใจในบทสรุปชีวิต ถึงแต่ละกระบวนการได้มาซึ่งอำนาจ ว่าสิ่งเหล่านี้คือคุณค่าแห่งความดี ในการได้มาซึ่งอำนาจรัฐ เมื่อได้มาซึ่งอำนาจรัฐแล้ว การจะทำสิ่งใดตามนโยบาย หรือเจตจำนงทางการเมือง ก็ล้วนแต่ได้รับความถูกต้อง มือที่เคยถือดาบ คราบเลือดที่เคยเปรอะเปื้อน มลทินติดตามตัว

ทั้งหมดทั้งมวลล้วนหมดสิ้นไป

ในแต่ละก้าวย่างของการขึ้นสู่อำนาจ

เมื่อได้รับอำนาจ ทุกอย่างจะกลับกลายเป็นถูกต้อง

วันนี้เราท่านทั้งหลาย จึงต้องนั่งมองปัจจัยแห่งการต่อรอง จากอำนาจเงิน คะแนนเสียง ปลายลิ้นนักการเมือง และวาจาต่อรอง ล้วนเป็นดั่งสายลมเย็นของธรรมชาติ ที่พัดผ่านมาให้เราได้เข้าใจ ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของพวกเขา เป็นธรรมชาติแห่งการต่อรอง

สิ่งที่เราจะเห็นจากภาพการต่อรองเบื้องหน้า

เราอาจได้ทราบบุญคุณความแค้นคน

ทราบตัวตนคนจากการพลิกพลิ้ว

หรือคนเจรจาความทางการเมืองแต่ละคนนั้น มีสิ่งใดเป็นเครื่องกำกับ เราอาจได้สังวรณ์ด้วยตัวเอง มากกว่านักการเมืองเหล่านี้ก็เป็นได้ ว่าแท้จริงแล้วศึกสงครามไม่ได้ยุติที่กำลังผู้คน กำลังเงิน แต่เป็นหัวใจของคน หัวใจอันอ่อนนุ่มอ่อนไหวผันแปรไปตามทุกสิ่ง

หัวใจเพียงก้อนกำปั้น

ยอกย้อนและซับซ้อนไปตามปรารถนา

วันนี้อาจนำพาเพียงชื่อเสียง วันหน้าอาจปรารถนาเงินทอง

วันต่อไปอาจปรารถนาแผ่นดิน ยากจนเกินจะคาดเดา ยากเกินกว่าจะเข้าใจได้ถึงวิสัยแห่งปรารถนาในหัวใจผู้คน หากหัวใจดวงนี้อิ่มเกินไป ใหญ่โตเกินไป มองข้ามรอยยิ้ม คราบน้ำตา เสียงร้องไห้ และหน้าที่แห่งความเป็นคน ในยามได้อำนาจในบ้านเมือง

ยากเกินกว่าจะคาดเดาถึงน้ำใสใจคอนักการเมือง

ทำได้เพียงสังเกตุติดตามและเรียนรู้

เก็บบทเรียนดุจลมหายใจ

เก็บไว้ให้ลึกภายในปอด ในสมอง ในหัวใจ และในแต่ละอณูความรู้สึกของชีวิตเรา เมื่อวันเวลาผ่านไป ในวันหนึ่งเราจะเข้าใจได้ว่า จะยืนอยู่ในตำแหน่งแห่งหนใด ท่ามกลางเกมแห่งการต่อรองของอำนาจ หรือกระทั่งว่ายืนอยู่ที่ใดในความหมายของอำนาจการเมือง อยากอยู่อย่างไร อยู่เช่นไรแผ่นดินไทยของเรา

 

วันนี้ไม่ใช่หน้าที่ของขุนศึกขุนทหาร

ไพร่รบและกำลังพลบ้าระห่ำที่แย่งชิงคะแนนเสียง

วันนี้เป็นหน้าที่ของนักเจรจาต่อรอง และประดาฑูตการเมือง

วาจาแห่งการต่อรองวันนี้ และผลแห่งการร่วมรัฐบาลจะทำให้เราเห็นว่า ใครจะลิ้นขาด ปากฉีก หรือหัวขาด ภายหลังการเจรจาที่ล้มเหลว ใครบ้างจะได้ประโยชน์แห่งมูลค่าการตบรางวัล ยามได้ชัยจากการเจรจาผลประโยชน์ เกมแห่งอำนาจและกลแห่งผลประโยชน์ คือบทเรียนของคนไทย

ไพร่พลเลวต่างล้มหายตายจากไปพร้อมเสียงปืน

เมื่อการเลือกตั้งปรากฎข่าวหัวคะแนนตาย

คำอาจหยาบแต่คือความจริง

หากคิดจะอยู่ภายใต้เกมแห่งอำนาจ วันนี้เมื่อต่างยึดเมืองชิงเมืองกันได้ การต่อรองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ คือของจริง เป็นของจริงของนักการเมือง ของขุนทหาร ของกลุ่มอำนาจกลุ่มทุน ไม่ใช่ของเล่นของประชาชน ไม่ใช่วันของเราที่เดินอย่างภาคภูมิใจเข้าไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

หมดสิ้นแล้วสำหรับอำนาจเรา

ขณะที่บางคนบางส่วนอาจยืนยันว่ายังไม่หมด

บางส่วนของผู้คนต้องการต่อสู้เพื่อตรวจสอบนักการเมือง

พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้กลเกมแห่งอำนาจเหล่านี้ แปรเปลี่ยนปัจจัยมากขึ้น เปลี่ยนตัวแปรบางประการ พยายามจะทลายกรงแห่งอำนาจของนักการเมือง ซึ่งพยายามครอบเราไว้ ด้วยกติกาของการเมืองแบบตัวแทน เป็นการเมืองของภาคพลเมือง ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม

จะได้มากได้น้อยยังไม่รู้

รู้เพียงว่าวันนี้ผู้คนต่างมีแรงพยายาม

ผู้คนทั่วไปที่เห็นเหมือนเช่นเราท่านในการต่อรอง

ดั่งนกกานกแร้งกินซาก หลังศึกสงครามจบสิ้น ไพร่พลล้มตายลงไปเป็นอาหารชั้นดี ขณะที่ขุนศึกต่างเสพชัยชนะ นั่งอยู่หอห้องแห่งอำนาจคอยต่อรองเจรจา และนั่งว่าความ จะแบ่งสรรปันส่วนอำนาจ และสมบัติอันละลานตาได้อย่างไร ยามนี้จึงมีผู้คนมองเห็นกติกาอันไม่เป็นธรรม

มีหลายคนพยายามตะโกนบอกเราว่า

สงครามครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุดลง 

อำนาจที่เห็นไม่แน่นอน

เราท่านทุกคนต่างมีหน้าที่ และมีความรับผิดชอบในแต่ละโอกาสเหมาะสม ที่จะสามารถตรวจสอบ ถอดถอน กำกับดูแล วิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียน ติดตามพฤติกรรมตามแต่ความเหมาะสม และโอกาสของชีวิตจะอำนวย วันนี้จึงมีเสียงเหมือนให้กำลังใจกันและกัน

ว่าประชาชนคนไทยอย่าเพิ่งท้อแท้

เรายังมีโอกาสแห่งการตรวจสอบติดตาม

ถึงสันดานพฤติกรรมนักการเมือง

เราคงต้องจับจ้องกันต่อไป

 

หมายเลขบันทึก: 155835เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2007 14:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

พึ่งจะเริ่มต้นเอง..

   นั่งมอง นั่งฟ้งอยู่ทุกวัน  ผมจะรู้สึกดีมากเลย ถ้าเลิกเอ่ยคำว่า พี่น้องครับ, ต้องถามประชาชนก่อน และอีกหลายคำในความหมายที่เอาคะแนนเสียงผมไปเอ่ยอ้าง

      ว่ากันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เปิดประตูการเมืองภาคประชาชนให้ได้ทำไรกันเยอะ เอาเข้าจริงจะติดขัดไรอีกหรือเปล่าไม่รู้

         สวัสดีปีใหม่ครับคุณ kati ไม่ได้เจอกันนานเลย ผมหายไปสักพัก g-to-k เปลี่ยนแปลงไปเยอะ คงต้องกลับมาเรียนรู้อีกครั้ง

  • สวัสดีปีใหม่ครับ คุณฟาร์มฝัน P
  • ยินดีได้กลับมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน
  • ขอให้มีความสุขในปีใหม่ ปี 2551
  • พร้อมกับรัฐบาลใหม่ ที่เราประชาชนคนไทย
  • ยังคงต้องจับจ้องมองดู และพิจารณากันต่อไป
  • ยินดีได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • ยินดีอย่างยิ่ง
  • ขอบคุณมากครับ

dturrsdysuy7

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท