การทำแผล : จากการสังเกตการทำแผลที่ผ่านๆมาในอดีต ได้ลองใคร่ครวญวิธีการทำแผลหลายๆรูปแบบแล้ว พอจะสรุปได้ว่าการทำแผลโดยที่ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่ขอให้งานจบๆไปในแต่ละcase กับการทำแผลแบบใส่ใจในบริการเพื่อหวังให้ผู้รับบริการมีความสุข และมีความคาดหวังว่าแผลจะหายโดยเร็ว
ผู้เขียนได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้รับบริการรายหนึ่งซึ่งบาดแผลเกิดจากถูกเครื่องโม่แป้งบดมือ ได้พบผู้รับบริการในปลายเดือนมิถุนายน 2550 สภาพบาดแผลมีเนื้อตายเป็นสีดำ มีหนองไหลซึมและปวดแผล จากการประเมินบาดแผลและความต้องการของผู้รับบริการ ทำให้ทราบว่าจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษแผลจึงจะหายเร็ว ต้องค้นหาปัญหาว่าที่มีอาการปวดแผลนั้นเกิดจากแผลมีหนองหรือไม่หรือว่าเกิดจากเนื้อตาย สรุปได้ว่าอาการนี้เกิดจากแผลมีหนองและต้นเหตุของการเกิดหนองก็มาจากเนื้อตาย ดังนั้นจึงได้พิจารณาตัดเนื้อตายออกพร้อมทั้งตรวจสอบว่ายังมีบริเวณไหนที่ยังมีหนองอีก นอกจากดูแลบาดแผลต้องดูแลด้านจิตใจด้วย.....ผู้รับบริการจะมีความวิตกกังวล แต่จะไม่ค่อยกล้าสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการเจ็บป่วยของตนเอง ถ้าผู้ให้บริการใส่ใจทำให้ผู้รับบริการไว้วางใจจะพบว่าผู้รับบริการมีความวิตกกังวลมาก เขาจะตั้งคำถามจำนวนมาก เพราะฉะนั้นในขณะที่ทำแผลผู้ให้บริการจะต้องพูดคุย ให้คำแนะนำในด้านต่างๆจะทำให้ผู้รับบริการคลายกังวลได้ ผู้รับบริการรายนี้ใช้ระยะเวลาในการทำแผลถึงเดือนกันยายน 2550 รวมแล้วประมาณ 3 เดือน โดยไม่ต้องตัดชิ้นเนื้อมาปะ
ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าจะ post รูปให้ดูได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าสนใจดูภาพก็เข้าไปดูที่ fileภาพนะคะ เสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพที่สภาพมือมไดมาให้ดู
สัสดีค่ะ
พี่บุญรุ่ง ดีใจมาก ที่น้องเขียนหลายบัญทึกแล้ว เขียนในบล็อกจะดีกว่า ก็อบมาลง จะควบคุม ขนาดบทความไม่ได้ เลยกรอบ แต่บันทึกนี้ อ่านแล้วรู้สึกถึงเมตตาธรรมที่หลั่งไหลเลยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่บุญรุ่ง
สวัสดีค่ะ น้องสุภาพรรณ และพี่บุญรุ่ง
รู้สึกเป็นปลื้ม ในเรื่องที่น้องเขียนถึงเรื่องความใส่ใจ
ทุกอย่างทุกสิ่งต้องใส่ใจเข้าใจด้วยจริงๆถึงจะเป็นผล
จะรออ่านบันทึกต่อไปนะคะ ป้าแดงชอบอ่านแบบนี้ค่ะ บันทึกจากงานประจำ
ขอบคุณค่ะ