“สตินำ ปัญญาตาม”


สติต้องเป็นตัวนำ ปัญญาเป็นตัวตาม

 

"สตินำ ปัญญาตาม"
เมื่อเราไม่ต้องการความผิดพลาด ไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายในสิ่งที่ทำ หรือ ที่พูดไปก็ต้องคิดก่อนทำ คิดก่อนพูดเสมอไปทุกครั้ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดนั้น เป็นความหมายของคำว่า "สติ" สติหมายถึง "ความพินิจไตร่ตรอง ความนึกขึ้นได้ไม่หลงลืม" สตินี้เป็นสิ่งจำเป็นที่สุด ในการดำเนินชีวิต คนเราต้องมีสติอยู่เสมอ คนที่เผลอสติหรือขาดสติ จะทำอะไร พูดอะไรก็มักจะ ผิดพลาดเผลอไผล ลืมโน่นลืมนี่ เมื่อขาดสติก็ทำให้เสียหายร่ำไป ต้องมาเสียเวลาแก้ตัวหรือแก้ปัญหาภายหลังทำให้ยุ่งยากมากขึ้น การมีสติเท่ากับมีเครื่องป้องกันความผิดผลาดและความเสียหายไว้ขั้นต้น
สตินั้นจะต้องนำปัญญา คือความรู้ความสามารถ ปัญญาจะต้องมีสติคอยควบคุมอีกชั้นหนึ่ง สติต้องเป็นตัวนำ ปัญญาเป็นตัวตาม คนที่มีปัญญาฉลาดรอบรู้สารพัด แต่ขาดสติก็มักจะทำอะไรผลีผลาม ไม่ทันคิดหรือไม่ได้คิด ดันทุรังไปข้างหน้าเรื่อยไป พอเกิดผิดพลาดหรือเสียหายขึ้นมาก็มักจะบ่นเสียใจภายหลังว่ารู้อย่างนี้ไม่ทำเสียดีกว่า อะไรทำนองนี้ ประเภทนี้เรียกว่ามีปัญญานำ สติตาม ถ้ามีสตินำ ปัญญาตาม ทุกอย่างก็จะไม่เกิดความยุ่งยากเสียหาย จะสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สติกับปัญญา เป็นสิ่งที่มีอุปการะมากในการทำงานทุกอย่าง และจะต้องให้มีคู่กันไป มีสติแต่ขาดปัญญา หรือมีปัญญาแต่ขาดสติ ก็เอาดีได้ยาก

คำสำคัญ (Tags): #kmobec#kmska2#songkhla 2
หมายเลขบันทึก: 154811เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2007 20:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ใช่พี่..บางทีสองสิ่งนี้มีอยู่ในตัวเราไม่พร้อมกัน..ต้องครองสติให้ดี ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท