การเป็นนักเรียน
มักหมายถึงผู้ถูกตีกรอบ
ต้องรู้อย่างนั้น
ต้องสนใจอย่างนี้
ต้องเลือกคำตอบที่ถูกเพียงข้อเดียว
ต้องทำข้อสอบให้ผ่าน
ต้องเลื่อนชั้นขึ้นสูงไปจนสุด
ต้องอย่างนั้น
ต้องอย่างนี้
คือกับดักทางความคิด
ถ้าหลงติดแต่ต้นวัย
จะยากเป็นไทในภายหลัง
การไม่เป็นนักเรียน
มักหมายถึงผู้ปราศจากหางเสือ
ไม่ต้องรู้อย่างนั้น
ไม่ต้องสนใจอย่างนี้
ไม่ต้องมีเหตุผลผิดถูก
ไม่ต้องผ่านแบบทดสอบ
ไม่ต้องยกระดับไปถึงไหน
ไม่ต้องอย่างนั้น
ไม่ต้องอย่างนี้
คือกับดักทางความคิดอีกชนิดหนึ่ง
ถ้าหลงติดแต่ต้นวัย
ก็อาจเป็นภัยในภายหน้า
เมื่อวันหนึ่งมีปัญหามากอง
มองรอบด้านแล้วเหมือนมืดแปดทิศ
พยายามคิดแล้วไม่พบทางออก
ขอให้บอกตัวเอง
ว่าติดกับทางความคิดเข้าแล้ว
กับดักทางความคิด
คือความผิดที่ปิดใจ
ไม่ยอมเปิดหูตา
ไม่กล้าแย้งตัวเอง
กลัวเกรงการติชม
อมอัตตาไว้คับปาก
ยากจะรับว่าตนผิด
เมื่อทางตนไม่ผิด
แปลว่าทางอื่นผิดหมด
ทางออกเลยไม่มี
มีแต่ทางตันให้ฝันร้าย
กล้าเปลี่ยนความคิด
คืออิสระจากกับดัก
เมื่อรักการเปิดใจ
เมื่อใคร่เปิดหูตา
เมื่อกล้าแย้งกับตัวเอง
เมื่อเลิกเกรงเสียงติชม
เมื่อนั้นกับดักก็หักพัง
ที่เหลือ...
แม้ยังมืดแปดทิศ
อย่างน้อยก็พร้อมคิดหาทิศที่เก้า
พ้นกว้างยาวแบบเดิม
เสริมมิติลึกเข้าไป
จะเห็นมิติลึก...
ต้องฝึกมองจากฝั่งตรงกันข้าม
ไม่ถามหาวิธีเลิศสุด
แต่ขุดค้นความหลากหลาย
ทั้งของตายในมือ
ทั้งของนอกมือไม่เกินเอื้อม
หูตายิ่งกว้างขวาง
ทางเดินยิ่งสบาย
กับดักยิ่งหลีกง่าย
เป้าหมายก็นอนรอ
ขอบคุณหนังสือดี ๆ ที่ชื่อ "คิดจากความว่าง" ของท่านดังตฤณ ... ผู้เขียนหนังสือแห่งธรรมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งหน้าปกและภายใน เรียกได้ว่า คือ หนังสือสวยเล่มหนึ่ง
อ่านให้ดี ๆ ท่านจะพบว่า .. มันคีย์เวิร์ดสำคัญของการการแลกเปลี่ยนความรู้ในสังคมดี ๆ นี่เอง ...
กับดักความคิด .. ถ้าท่านติดกับดักนี้ ท่านจะเชื่อมั่นแบบที่ท่านเชื่อตลอดชีวิต โดยไม่หวนกลับมาดูว่า ท่านคิดไม่ถูกหรือไม่ ท่านคิดไม่รอบคอบหรือไม่
สิ่งที่ท่านทำได้ คือ "การเปิดใจ" ของท่านให้กว้างออกมา รับฟังปัญหาและความคิดต่าง ๆ แล้วท่านจะพบว่า "โลกนี้มีอะไรที่ท่านเข้าใจผิดและไม่รู้อีกเยอะ"
ออกมาจาก "กะลา" น้อย ๆ ซะดี ๆ
บุญรักษา ... คนมีความคิดดี :)