เหตุใด พระพุทธเจ้าจึงเสด็จไปปรินิพพานที่กุสินารา


 

ตอนนี้ ย้อนกลับคืนไประลึกถึงพระพุทธเจ้า ในสมัยที่พระองค์เสด็จสู่กุสินาราด้วยพระอุตสาหะใหญ่ เพื่อไปปรินิพพานในที่นั้น ซึ่ง พระอรรถกถาจารย์ตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยเหตุ๓ประการ ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเลือกกุสินาราเป็นที่ปรินิพพาน. คือ

๑. เพื่อเป็นเหตุตรัสมหาสุทัสสนสูตร
๒. เพื่อโปรดสุภัททปริพาชก ซึ่งเป็นพุทธเวไนย
๓. โทณพราหมณ์จะห้ามสงครามแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุได้.

ในเหตุ๓ประการดังกล่าวนั้น ความมุ่งหมายในข้อ๒และ๓ ได้สำเร็จลงแล้วตั้งแต่ในครั้งพุทธกาลนั้น. ก็แต่ว่า ความสำคัญของมหาสุทัสสนสูตรนั้น มันสำคัญมากแค่ไหนกัน?  พระพุทธเจ้าจึงได้กระทำอุตสาหะใหญ่ เพื่อเป็นเหตุให้ได้ตรัสสูตรนี้ด้วย.

พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า เพราะ เมื่อพระองค์ตรัสมหาสุทัสสนสูตรไว้แล้ว กุลบุตรผู้เกิดในภายหลัง จะสำคัญกุศลแม้เล็กน้อยว่าเป็นสิ่งควรกระทำ.  เพระเหตุที่ทำให้ได้เป็นพระเจ้ามหาสุทัสสนจักรพรรดิ ครอบครองราชสมบัติปานสวรรค์บนโลกมนุษย์นี้นั้น ก็เพราะกุศลกรรมที่ไม่ปรากฏว่ายิ่งใหญ่อะไร.

ได้ยินว่า ครั้งนั้น สมัยเมื่อศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้ายังไม่สิ้นไปจากโลก ก็คงคล้ายกับยุคของเราในบัดนี้. พระโคดมโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกคนมีตังค์   ท่านเลื่อมใสพระอรหันต์รูปหนึ่งซึ่งจาริกผ่านไป

พระโคดมนั้นจึงได้นิมนต์พระรูปนั้นอยู่ แล้วก็สร้างกุฏิถวาย  พร้อมด้วยบำรุงเลี้ยงด้วยบริขารทุกอย่าง  หาน้ำใช้น้ำฉันให้ มีขุดบ่อน้ำถวาย ทำทางจงกรม  คอยอุปัฏฐาก ถวายตั่งเตียงและภัตต์  ทั้งเภสัชบริขาร และของใช้อย่างอื่น.

ด้วยผลกรรมอันนั้น หลังจากตายแล้ว เวียนว่ายตายเกิดไป บุญที่ทำไว้นั้นมันขยายผลขึ้นเรื่อยๆ คือ ทุกครั้งที่เวียนว่ายตายเกิด ก็ไปด้วยจิตผ่องใส มีปัญญาเฉลียวฉลาด เป็นเครื่องพอกพูนความรู้ในอันที่จะให้เกิดปัญญาสามารถจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิได้.

เมื่อสะสมบุญกรรมเหล่านั้นถึงขีด เหมือนไม้ที่ใหญ่โตขึ้นเป็นลำดับ โดยอาศัยการทำบุญเริ่มต้นในครั้งนั้น ดุจเพาะเมล็ดพืชแล้วงอกขึ้นนั้น.  ผ่านการอบรมตนหลายชาติเข้า ก็เข้าถึงความไพบูลย์ กรรมออกผล ก็ได้สมบัติจักรพรรดิ  เป็นพระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิ.

ก็แต่ว่า พระพุทธเจ้ามุ่งหมายอย่างนั้น ข้าพเจ้าก็ไม่ได้คัดค้าน เพียงแต่มีข้อสังเกตเสริมเติมเข้าไปว่า มันแค่นั้นจริงๆหรือ?  เพราะความจริงแล้ว พระสูตรมากมาย และชาดกมากมาย ก็ได้แสดงเรื่องนี้ไว้มากโขอยู่แล้ว  เรื่องมหาสุทัสสนสูตร แม้จะมีเพิ่มเติมขึ้นมา มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ.  แต่ทำไมพระพุทธเจ้ากระทำให้พิเศษยิ่ง ถึงกับเป็นเหตุที่จะต้องตรัสไว้ให้ได้ ก่อนจะปรินิพพาน.

เรื่องอื่นที่ว่าเป็นเหตุแห่งการพอกพูนกุศลกรรมในกุลบุตรผู้ศรัทธา ก็อย่างเช่น เรื่องของพระเจ้ามหาปนาทจักรพรรดิ.

อันมีเรื่องราวว่า พ่อลูกสองคน เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าจาริกผ่านที่นาแก  เกิดความเลื่อมใส จึงได้นิมนต์ให้อยู่ในที่นาของแก.  ในเรื่องนี้ เข้าใจว่า ลูกชายเป็นคนเริ่มต้น และผู้พ่อก็สนับสนุน ทำทุกอย่างช่วยเหลือกัน  แต่ว่า ลูกชายเป็นคนพาเริ่มต้นทำ.  ทั้งสองพ่อลูกจึงมีบุญด้วยกัน เสมอกัน แต่ว่า ลูกชายได้เสพผลก่อน พ่อได้เสพในภายหลัง.

คราวนั้น สองลูกพ่อก็ได้นำไม้อ้อ(นฬการ)มาตัดแล้วก็ปลูกขึ้นไปกุฏิที่มีฝาเป็นไม้อ้อ แล้วมุงด้วยหญ้า  ส่วนเสาก็ต้องไปเสาไม้ต้นที่เป็นแก่น นี่เป็นเรื่องธรรมดา.  ไม่ใช่เท่านั้น สองพ่อลูกก็คอยดูแลอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้านั้นตลอด ด้วยความเคารพรัก เช้าคอยเดินตามบาตรบ้าง คอยรับบาตรบ้าง.  แสวงหาเตียงตั่ง ทำทางจงกรม ถวายอาหารและบริขารทั้งหลาย ขุดบ่อน้ำ ทำห้องน้ำให้.

ผลบุญนั้น ทำให้สองพ่อลูกได้สมบัติจักรพรรดิ คือ ลูกชายมาเกิดเป็นพระภัททชิในสมัยพุทธกาล  แต่ก่อนหน้านั้น เสพสมบัติจักรพรรดิมาแล้ว คือ ไปเกิดเป็นพระเจ้ามหาปนาทจักรพรรดิ.

ส่วนผู้พ่อนั้น ยังไม่ได้เสพผล ต้องรอระยะเวลาไปอีก จนถึงยุคพระเมตไตรยพุทธเจ้า ผู้พ่อก็จะลงมาเกิด แล้วได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดินามว่า สังขะ.   ชื่อนี้มีกล่าวไว้ในจักกวัตติสูตรด้วยนะ.   นี่ เรื่องของบุญกรรม มีกล่าวไว้มากมาย  ไม่ใช่ว่า มีแต่ในมหาสุทัสสนสูตร.

ด้วยเหตุนี้ มหาสุทัสสนสูตร มีส่วนความมุ่งหมายที่พิเศษของพระพุทธเจ้าอยู่แน่  แล้วมันคืออะไรกัน?
ลองพิจารณาดูเนื้อความคร่าว ของ มหาสุทัสสนสูตรกัน. แล้วค่อยแจกแจงต่อไป
 

 
คำสำคัญ (Tags): #ปรินิพพาน
หมายเลขบันทึก: 154052เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2007 00:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท