เมื่อ ๔ ธ.ค. ๒๕๕๐
โรงเรียนจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ "๘๐ พรรษา นวมินทราธิราช"
โดยตอนเช้านักเรียน ครูและผู้ปกครองร่วมกันทำบุญตักบาตร
เด็กชายร็อค (คนที่เคยกล่าวถึงคราวก่อน) มาบอกครูว่า
"ผมไม่มีอะไรมาเลยครับ" (หมายถึงไม่ได้เตรียมข้าวสารอาหารแห้ง
เพราะนับถือศาสนาคริสต์) ครูก็บอกว่าไม่เป็นไร
ของครูเตรียมมาเยอะแยะ....พอถึงเวลาพานักเรียนแต่ละห้องไปตั้งแถวรอทำบุญตักบาตร
ครูจึงเรียกให้นักเรียนทุกคนเตรียมของและออกไปตั้งแถวริมถนนหน้าอาคาร
แต่ตัวครูเองกลับหาของไม่พบ
สาละวนหาอยู่สักครู่ก็เห็นเด็กชายร็อคเดินถือตะกร้ายิ้มร่าเข้ามาหาพร้อมกับบอกว่า
"ของครูอยู่นี่แล้วครับ ผมจะถือให้"
เห็นท่าทางเต็มอกเต็มใจ
ร่าเริงสดใส เปี่ยมด้วยความสุข
ที่ได้มีส่วนร่วมในการทำบุญของลูกศิษย์ ครูก็อิ่มเอิบใจ
เป็นสุขเบิกบานใจ .....
เช่นเดียวกับคำพ่อสอนที่ว่า........การทำบุญนั้นได้ผลตั้งแต่แรกที่ทำบุญ
ตั้งแต่วาระแรกที่ทำ มีความเบิกบานใจ
เมื่อเห็นความเบิกบานใจในผู้อื่น
เราก็มีความเบิกบานใจเพิ่มขึ้นไปอีก
เมื่อเราทำบุญเป็นนิสัยแล้วก็สบายมากในการทำ
เพราะว่าทำดีเป็นนิสัยนั้น ทำได้ง่าย
แล้วจิตใจก็ยิ่งเบิกบานมากขึ้นทุกที.....
พระราชดำรัสในโอกาสที่คณะบุคคลต่างๆ
เข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อพระราชทานในกิจการลูกเสือชาวบ้าน
ณ ศาลาดุสิดาลัย ๒ สิงหาคม ๒๕๒๐ (
คัดลอกจาก...ภูมิพลอดุลยเดช. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา.
คำพ่อสอน : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับความสุขในการดำเนินชีวิต.
พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์กรุงเทพ,
๒๕๕๐.)
เด็กชายร็อคและเพื่อนๆ ที่นับถือศาสนาคริสต์
ได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันทุกคน
(ไม่เว้นแม้แต่เด็กที่ผู้ปกครองโทรมาบอกครูว่าไม่ต้องให้เข้าร่วมกิจกรรม)
เห็นได้ชัดเจนว่า ..... บุญนั้นสำเร็จได้ด้วยใจ.....