คนเข้าทำงานเพราะองค์กร แต่จากไปเพราะหัวหน้า..........จริงหรือ


บทความดี ๆ นำมาบอกต่อ : คนเข้าทำงานเพราะองค์กร แต่จากไปเพราะหัวหน้า..........จริงหรือ นี่คือพฤติกรรม 5 อย่างที่หัวหน้าควรหยุดทำ ถ้าคุณเป็นหัวหน้าคน ลองย้อนมองดูตนเองด้วยใจเป็นกลางซักนิด แล้วประเมินดูซิว่าคุณมีสักกี่ข้อแล้ว"วันนี้ได้รับหนังสือวารสารการบริหารคน จากสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) มีบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารฉบับดังกล่าว น่าสนใจอยู่หนึ่งบทความ  นั่นคือ บทความที่ชื่อว่า "คนเข้าทำงานเพราะองค์กร  แต่จากไปเพราะหัวหน้า..........จริงหรือ"  หรือดังสำนวนฝรั่งที่ว่า "People join organization but leave their boss"  ซึ่งบทความดังกล่าว ได้สะท้อนให้เห็นถึงการที่องค์กรไม่สามารถรักษาคนเก่งไว้ได้นั้น  เพราะสาเหตุใด  บทความดังกล่าว ได้สรุปข้อคิดดี ๆ ที่ได้จากการที่ Mr.Marshall Goldsmith ปรมาจารย์ด้าน Executive Coaching ได้มาบรรยายในหัวข้อเกี่ยวกับภาวะผู้นำ  ซึ่งดิฉันจะขอนำสรุปประเด็นที่สำคัญ ๆ เกี่ยวกับการเป็นหัวหน้างานที่ดีมาบอกต่อดังนี้ค่ะ ท่านได้ทิ้งข้อคิดดี ๆ เพื่อเตือนสติหัวหน้างานว่า "What got you here, won't get you there" นั่นหมายความว่า "วิธีการที่ท่านใช้ในอดีต และทำให้ท่านประสบความสำเร็จในวันนี้ อาจไม่ใช่วิธีการที่ท่านจะนำไปใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในอนาคต"   ซึ่งถ้าดูจากข้อนี้แล้ว ดูจะตรงอย่างยิ่งในสถานการณ์ และสิ่งแวดล้อม ขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  เครื่องมือ หรือประสบการณ์เดิม ๆ ที่เราเคยใช้ในอดีต อาจจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป  หรือบางครั้ง  สิ่งที่เป็น best practice ขององค์กรหนึ่ง  อาจจะไม่เหมาะกับบริบทของอีกองค์กรหนึ่งก็ได้ นั่นหมายความว่า การที่หัวหน้างานมักจะใช้วิธีการเดิม ๆ ในสมัยที่เป็นลูกน้อง มาใช้ตอนที่เป็นหัวหน้างาน  แต่มักพบว่า มักจะไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนอดีตที่ผ่านมา นอกจากนั้น เขายังได้กล่าวว่า  "การเป็นหัวหน้างานที่ดีนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ว่าควรทำอะไรเพิ่มเติม ถ้าเพียงแต่พวกเขาเรียนรู้ที่จะหยุดทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ พวกเขาก็จะเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นได้ในทันที" ซึ่งในบทความนี้ ได้รวบรวมสิ่งที่หัวหน้าควรหยุดทำ 5 อย่าง มาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
  •  รับปากแล้วไม่ทำ  หรือรับปากในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยอำนาจหน้าที่ของตนเองคนเดียว  เช่น  การรับปากว่าจะขึ้นเงินเดือนให้  หรือรับปากว่าจะให้โบนัส  เป็นต้น  หัวหน้าควรยอมให้ลูกน้องโกรธที่ไม่ยอมรับปาก  (ในสิ่งที่รับปากไม่ได้)  ดีกว่าให้ลูกน้องโกรธที่รับปากแล้วไม่ทำ
  •  รับชอบแต่ไม่รับผิด  ไม่กางปีกปกป้องลูกน้อง  ดร.เสรี  วงษ์มณฑา  เคยกล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า  การเป็นหัวหน้าที่ดีคือ  การรู้จักใช้มือ  ใช้หัว  และใช้หน้า  หมายถึง  หัวหน้าต้องรู้จักที่จะใช้มือในการลงมือทำให้ลูกน้องได้เห็น  ใช้หัวเพื่อสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ  ให้กับทีมงาน  และที่สำคัญใช้หน้าเพื่อเอาไว้ยืดหน้ารับความผิดแทนลูกน้อง เหมือนคำโบราณที่ว่า รับหน้า”  ไม่ใช่ทุกอย่างโบ้ยว่าผมไม่รู้  ลูกน้องเป็นคนทำ
  • ตัดสินใจโดยไม่ต้องฟังความคิดเห็นผู้อื่น  ไม่อธิบายเหตุผลใดๆ  เป็นการตัดสินใจโดยยึดความคิดของตนเองเป็นหลัก  หรือเมื่อมีการตัดสินใจมาจากเบื้องบนก็มักอ้างเหตุผลว่า มันเป็นนโยบาย  ซึ่งการอธิบายเพียงเท่านี้อาจไม่สามารถทำให้ลูกน้องเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องได้  แทนที่ลูกน้องจะได้ความกระจ่างกลับยิ่งทำให้ลูกน้องเกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อองค์การยิ่งขึ้นไปด้วย
  • พูดจาไม่ให้เกียรติลูกน้อง  หัวหน้างานจำนวนหนึ่งมักจะเชื่อว่าตนเองมีความสนิทสนมกับลูกน้องเป็นอย่างดี  จึงไม่จำเป็นต้องระวังคำพูดมากนัก ยิ่งลูกน้องที่ทำงานด้วยกันมานานยิ่งรู้สึกสนิท  จึงคิดไปเองว่าลูกน้องคงรู้จักนิสัยของตนดีอยู่แล้ว  ทำให้หัวหน้าหลายๆ  คนไม่ระวังคำพูดและบ่อยครั้งที่เรามักได้ยินวาจาที่ไม่สุภาพหรือภาษาสมัยพ่อขุนผุดขึ้นมาระหว่างการทำงานอยู่บ่อยๆ 
  •  ตำหนิลูกน้องต่อหน้าธารกำนัล  หัวหน้าจำนวนไม่น้อยไม่ไว้หน้าลูกน้อง  ถ้าทำพลาดก็ซัดกันตรงนั้นเลย  และที่สำคัญถ้าทำดีก็ไม่เคยชม  นัยว่ากลัวจะเหลิงอะไรทำนองนั้น
 นี่คือพฤติกรรม  5  อย่างที่หัวหน้าควรหยุดทำ   ถ้าคุณเป็นหัวหน้าคน  ลองย้อนมองดูตนเองด้วยใจเป็นกลางซักนิด  แล้วประเมินดูซิว่า  คุณมีสักกี่ข้อแล้ว??”
คำสำคัญ (Tags): #km#kmeduyala3
หมายเลขบันทึก: 152471เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2007 07:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2012 23:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • หัวหน้าบางท่าน เห็นชอบมอบรอง เห็นด้วยผู้ช่วยทำ
  • และ เจอทุกทุกที่ยกเว้นที่ทำงานด้วยครับ
  • ทำทุกทุกงาน ยกเว้นงานในหน้าที่
  • เพราะมัวแต่ บริหารไปทั่ว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท