ขอคั่นรายการสักนิ๊ดนะคะ....ก่อนที่จะดำเนินเรื่องต่อไป
คือว่าดิฉันลืมบอกไปตั้งแต่ตอนต้นที่เขียนซีรี่ส์นี้ว่า พ.ร.บ. ของ มน. ที่ยกมาบันทึกใน Blog นี้ เป็น "ฉบับรวบรวมสรุปข้อคิดเห็นของมหาวิทยาลัย" ไม่ใช่ "ฉบับที่ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา" กล่าวคือ มัน up to date กว่า
โดย มน.ได้ส่ง รายงานการแก้ไขดังกล่าว แก่ สกอ. ทราบแล้ว ทั้งนี้หากไม่เกิดเหตุการณ์ชะลอร่าง พ.ร.บ. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 50 ที่ผ่านมาแล้วไซร้ ร่างพ.ร.บ. ฉบับที่ผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็จะผ่านเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาแก้ไขตามที่ มน.เสนอ ในคณะกรรมาธิการวาระที่ 1 และวาระที่ 2 ต่อไป
เอาละค่ะ ตานี้ มาดูมาตราถัดไปกันดีกว่า
พ.ร.บ. มน. |
|
พ.ร.บ. ม.มหิดล |
|
มาตรา ๑๒ | กิจการของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน แต่พนักงานและลูกจ้างของมหาวิทยาลัยต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน การดำเนินงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ให้ได้รับการยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมและค่าภาษีอากร และประมวลกฎหมายที่ดิน | มาตรา ๑๔ | กิจการของมหาวิทยาลัยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ |
ข้อสังเกต
แต่ดิฉันเริ่มจนมุม เพราะไม่สามารถตีความให้ลึกซึ้ง ว่าการไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายต่างๆ ที่กล่าวมา มันมีนัยยะต่อการดำเนินการได้คล่องตัวมากขึ้นในเรื่องใดบ้าง
ได้แต่ใช้สามัญสำนึก (ที่ไม่มีเหตุผล) ว่าน่าจะเป็นเรื่องการที่ ม.ในกำกับ จะสามารถกำหนด สวัสดิการและผลประโยชน์ตอบแทนต่างๆ ของบุคลากร ได้เอง เพื่อให้เหมาะกับบริบทของตนเองกระมัง
โดยที่ มน. รอบคอบถึงขนาด กำกับไว้ด้วยว่า แต่ไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายต่างๆ ที่กล่าวมาด้วย
แถมยังมีเรื่องการยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมและค่าภาษีอากร และประมวลกฎหมายที่ดินอีก หมายความว่าอย่างไรคะ คนไม่ใช่นักกฎหมายอย่างดิฉันก็รู้แต่ว่าดีเน๊อะ แต่ไม่ทราบที่มาของเหตุแห่งความชอบธรรมในการกำหนดเช่นนี้
เรื่องเงินๆ ทองๆ ละก็ ต้องรอบคอบเข้าไว้ อย่างนี้ไม่หาว่าหมกเม็ดหรอกค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์มาลินี
ขอบคุณครับที่เปิดพื้นที่ให้คนนอก มน. :)
คุณ Wasawat Deemarn นี่ รู้ทันจริงๆ
ใช่ค่ะ.... ไม่น้อยกว่า ก็อาจหมายถึงเท่าเดิมตลอดไปก็ได้ (อยากได้เพิ่มขึ้นก็ต้องหาเอาเอง...ซิจ๊ะ)
และก็ใช่อีก ที่คุณ WD กล่าวว่า "น่ากลัวนะครับ ... ถ้าอำนาจตกอยู่กับคนไม่ดี "
เพราะแม้แต่ อำนาจตกอยู่กับคนดีๆ ยังสามารถทำให้คนดีดีเปลี่ยนไปได้เลยค่ะ....เหมือนอย่างที่มีคนเคยบอกว่า ถ้าอยากจะทำลายใคร จงให้อำนาจแก่คนนั้น.....
เราคงต้องน้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเตือนสติเรา ทุกครั้งที่ต้องเลือกผู้มีอำนาจมาปกครองเรา ว่า "จงเลือกคนดีมาปกครองบ้านเมือง"
ประสมกับ จัดระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพทั้งที่เป็นประเภทในระบบและนอกระบบ เช่น สภามหาวิทยาลัย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนอกมหาวิทยาลัย นิสิต ผู้ปกครอง ชุมชน เป็นอาทิ
นี่ ดิฉันก็กำลังจะตรวจสอบอยู่หน่ะค่ะว่า ใน พ.ร.บ. ของมหาวิทยาลัย ได้จัดระบบตรวจสอบแบบนี้ไว้รึเปล่า....ติดตามต่อไปนะคะ...(ถ้าทนไหว!!)
สวัสดีอีกสักครั้งครับ อาจารย์มาลินี
"...การเป็นคนดีนั้นดีมาก แต่เราไม่ควรยึดติดกับความดี เพราะหากเรายึดติดกับความดีแล้วเรามองผู้อื่นว่าไม่ดี หรือเราดีกว่าเค้านั้น นั่นคือเราไม่ดีเราทำผิด จึงอย่ายึดติดกับความดี ให้นอบน้อมถ่อมตน.."
นี่คือ ประโยคของคุณหมอวิจารณ์ ครับ
ขอบคุณครับ อาจารย์ ...