สวัสดีครับ พี่น้องเพื่อนครูศิลปะที่รักทุกท่าน
เมื่อวานผมบังเอิญไปเจอบทความของ อาจารย์ธำรงศักดิ์ ธำรงเลิศฤทธิ์ นักวิชาการศึกษา สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่านได้เขียนถึงเรื่องราวของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจยิ่งนัก ผมจึงอดไม่ได้ที่จะขออนุญาตนำบทความดังกล่าวมาเล่าสู่พี่น้องของเราฟัง ดังนี้
ในโครงสร้างของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 สาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นสาระที่ถูกกำหนดให้เป็นสาระการเรียนรู้พื้นฐานที่ผู้เรียนทุกคนต้องเรียนตั้งแต่ช่วงชั้นที่ 1 - ช่วงชั้นที่ 4 เพื่อเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์และมีศักยภาพพื้นฐานในการคิดและการทำงาน
จุดประสงค์ของการเรียนการสอนศิลปะ
ศิลปะมีจุดประสงค์เฉพาะให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สามารถแสดงออกตามความถนัดและความสามารถอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน ให้เด็กได้มีโอกาสสร้างสรรค์ทั้งโดยตนเองและร่วมกับผู้อื่นปลูกฝังให้เด็กมีจิตสำนึกในคุณค่าและประโยชน์ของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนำศิลปะมาประยุกต์ให้เกิดคุณค่าและสร้างเสริมรสนิยมที่ถูกต้อง
แนวคิดของการเรียนการสอนศิลปะ
ศิลปะเป็นของคนทั่วไป ไม่เลือกเพศ เลือกวัย หรือชั้นวรรณะ คนทุกคนมีสิทธิสร้างสรรค์ศิลปะขึ้นได้ในทำนองเดียวกันศิลปะเป็นสมบัติของเด็กทุกคน ไม่ว่าเด็กโง่ ฉลาด หรือทุพพลภาพ ย่อมมีความสามารถที่จะแสดงออกทางการสร้างสรรค์ หากเราเปิดโอกาสให้เขาแสดงความคิดความชื่นชมอย่างอิสระ ศิลปะส่งเสริมให้เด็กทุกคนเจริญงอกงามตามกำลังความสามารถของแต่ละคน ศิลปะจึงไม่ใช่เป็นของผู้ที่มีพรสวรรค์ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยเท่านั้น นักการศึกษาและนักจิตวิทยารุ่นใหม่เชื่อว่าเด็กทุกคนมีความสามารถเรียนศิลปะได้
ครูผู้สอนต้องคำนึงเสมอว่า จุดมุ่งหมายของการสอนศิลปะคืออะไร สอนศิลปะเพื่อผลิตศิลปินหรือสอนศิลปะเพื่อพัฒนาบุคลิคภาพของเด็ก และควรตระหนักอย่างยิ่งว่า ศิลปะ ไม่ใช่รายวิชาที่เป็นพิเศษ เฉพาะสำหรับการฝึกทักษะ หากมีความสำคัญเช่นเดียวกันกับคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษอังกฤษ สังคมศึกษาฯ คุณค่าของการเรียนศิลปะไม่ได้อยู่ที่ผลงานที่ดีเด่น สวยๆ งามๆ เพียงอย่างเดียว ประโยชน์ที่แท้จริง ย่อมอยู่ที่การจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในตัวเด็ก
หลักสูตรต้องการอะไร
ศิลปะตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ได้กำหนดแนวทางในการสอนที่พึงให้เกิดแก่ผู้เรียน ดังนี้
ประการที่หนึ่ง ให้่้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์โดยไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปิน เพราะความคิดสร้างสรรค์มีความจำเป็นต่อทุกคนทุกอาชีพ ความสำเร็จของทุกคนย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์มีความคิดวิเคราะห์ เป็นวิถีทางพิเศษของการเขียน การคิด และการรับรู้
ประการที่สอง
ให้สนใจและแสดงออกตามความถนัด และความสามารถของตน เมื่อเด็กทำกิจกรรมด้วยความตั้งใจจยสำเร็จตามความสามารถของตน จะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง
ประการที่สาม
ให้เห็นคุณค่าและประโยชน์ของศิลปะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมการธำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสิ่งจำเป็นต้องส่งเสริมและปลูกฝังแต่เยาว์วัย
ประการที่สี่
ให้มีความสนุกสนานเพลิดเพลินและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ซึ่งจะมีผลดีต่อเด็กในด้านการพัฒนาทางอารมณ์ สังคม และประสบกับความสำเร็จในการทำงานจนเป็นกิจนิสัย
ประการที่ห้า
ให้รู้จักนำศิลปะมาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่าและรสนิยมที่ดี การประยุกต์ใช้ในทางศิลปะนั้นคือการออกแบบใช้ความคิดในการแก้ปัญหา ได้คิดประดิษฐ์สิ่งที่แปลกใหม่
เอาล่ะครับเมื่อเราได้ทบทวนถึงจุดมุ่งหมายของการสอนศิลปะและความต้องการของหลักสูตรแล้ว ต่อไปพวกเราก็จะมาดูกันนะครับว่า เราจะปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนศิลปะอย่างไร ซึ่งผมขออนุญาตคุยกันวันหลังนะครับ วันนี้ขออนุญาตจบไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ สวัสดีครับ...
ไม่มีความเห็น