เมื่อวิทยาการล้ำยุคย้อนกลับมาช่วยรักษ์เมืองโบราณ: เวียง (น้อย)ป่าเป้า


เป็นจินตนาการส่วนตัวของหมอดินที่อยากเป็นนักประวัติศาสตร์นะครับ

 

วิทยาการสมัยใหม่ด้านภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม เดี๋ยวนี้ทันสมัยมากครับ ผู้บันทึกชอบอยู่กับตัวเอง แล้วปล่อยตัวเองให้โบยบินสู่ท้องฟ้าเพื่อค้นหาร่องรอยเมืองโบราณจากภาพถ่ายทางอากาศใช้เว็บของ pointasia.com ครับเดี๋ยวนี้ใช้สะดวกมากก็ได้ความรู้มาจากท่านพี่บางทรายนี่แหละครับ 

ภาพที่นำมาเสนอ เป็นภาพชุมชนโบราณในลุ่มน้ำลาวแถวอำเภอเวียงป่าเป้าครับ เห็นภาพคูเมืองรูปทรงกลมซ้อนกันอยู่ตั้งสามชั้นอย่างชัดเจน 

ทำให้ผมจินตนาการไปว่า วงในสุดน่าจะเป็นส่วนของพระศาสนา (เอหรือว่าของเจ้าเมือง) ถัดมาคงจะเป็นส่วนของเจ้าเมืองและเสนาอำมาตย์ชั้นสูง ส่วนบริเวณวงนอกสุด ในเขตคูเมืองน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมือง 

วิถีชีวิตของชาวเมืองนี้ น่าจะมีพื้นที่ทำนาบริเวณที่ราบลุ่มน้ำลาวซึ่งไหลผ่านตัวเมืองด้านตะวันออก ส่วนทางด้านตะวันตกของเมืองเป็นป่าดิบดงหนาที่เป็นห้างสรรพสินค้าของชาวเมืองได้อย่างดีครับ (หมายเหตุ : เป็นจินตนาการส่วนตัวของหมอดินที่อยากเป็นนักประวัติศาสตร์นะครับ) 

จากข้อมูลของตำบลแม่เจดีย์ //maejedee.igetweb.com) เมืองนี้น่าจะชื่อ เวียงน้อย อยู่ในกลุ่มชุมชนโบราณเวียงสันมะนะ ส่วนทางฟากตะวันออกของน้ำแม่ลาวห่างออกไปประมาณ ๔ กม. เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเวียงกาหลง ที่มีเตาเผาเวียงกาหลงอันลือชื่อที่มีอายุมากกว่า ๑๐๐๐ ปีไงครับ 

ในตำนานพงศาวดารชาติไทยของพระบริหารเทพธานี ท่านได้กล่าวอ้างถึงชุมชนแถบนี้ว่าเป็นแค้วนยวนเชียงที่มีอายุย้อนไปถึงพุทธศตวรรษที่ ๕ หรือราว พ.ศ. ๕๐๐ โน่นแน่ะครับ ส่วนท่านอาจารย์ ศรีศักร วัลลิโภดม ก็เคยชี้ว่า ลุ่มน้ำลาวมีความเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๒๑, ๒๒ และ ๒๓ เท่าๆ กับสมัยสุโขทัยทีเดียวครับ 

ผมนำเสนอเมืองโบราณแห่งนี้อย่างภูมิใจ ด้วยเหตุที่เคยทำงานเป็นผู้คักแน่ด้านดินและการใช้ที่ดินของโครงการสร้างถนนสายด่วนจากเชียงใหม่ถึงเชียงราย และได้เป็นตัวป่วนให้ทางฝ่ายคักแนด้านวางแนวสายทางให้ปรับเปลี่ยนแนวถนนไม่ให้ผ่านเมืองโบราณแห่งนี้ได้สำเร็จ  

ทั้งๆที่เหล่าท่านๆผู้แทนจากองค์กรท้องถิ่นท่านกลับแสดงความเห็นสนับสนุนให้สร้างทางผ่านไปทางนี้ได้เพราะเป็นที่รกร้างไม่มีความสำคัญอันใดองค์กรส่วนท้องถิ่นนี่ควรได้รับโอกาสให้ได้เรียนรู้ เปิดโลกทัศน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในหลายๆด้านจริงๆครับ

(เฮ้อ)ว่าแล้วก็ให้อดคิดถึงถังน้ำมูลค่าสี่สิบกว่าล้านที่ผมกับพี่ท่านบางทรายฝากฝังไว้กับTAO พังแดง ดงหลวงไว้ไม่ได้ครับ 

หมายเลขบันทึก: 151648เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2007 23:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อ้ายเปลี่ยน

  • มองสูงเห็นกว้างดีครับ
  • มองแล้วอยากลงไปเดินในพื้นที่ประวัติศาสตร์
  • เดินแล้วอยากเจ้าะลึกลงไปในเนื้อธุลี
  • งานศึกษาประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
  • ตอนนี้อยู่ใสน้อ สำบายดี
  • น่าชื่นชมจังเลยค่ะ
  • สงสัยต้องลองเข้าเวปนี้ศึกษาบ้างแล้วค่ะ
  • สบายดีไหมคะ พี่บางทรายด้วย
  • คิดถึง คิดถึงพี่ ๆ และดงหลวงด้วยค่ะ

สวัสดีครับพี่ชาย

   ...สุดยอดมากๆครับ

   .ผมเคยไปอยู่ที่นั่น 1เดือนนะครับ

    ตอนปี 6. ครับ

  สนุกมาก เพิ่งรู้ว่าเป็นเมืองเก่าแก่มากมายขนาดนี้ครับ

  ขอบคุณเด้อ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท