เสมือนหนึ่งเป็นความดี


คำถาม ถึงสิ่งที่สังคมไทยเรารับรู้และเชื่อมั่น มีคำถามถึงความดีงามในสังคมไทยของเรา ว่าเรายึดถือสิ่งใดไว้เป็นคุณค่าแห่งความดีงาม และเป็นหนึ่งในตัวตนแห่งความดีงามของชีวิต เรามีความเชื่อมั่นในความดีแบบใดในสังคมไทย

เสมือนหนึ่งเป็นความดี

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

มีเรื่องราวประหลาด

อยู่ในบ้านเมืองเรามากมาย

มีความเชื่อแบบพิกลพิการปรากฎขึ้น

ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงแบบที่เราเรียกว่าการพัฒนา ไม่นับกับความมากกว่าของสินทรัพย์ อันแทบจะกองค่าไม่ได้ เพราะมหาศาลเหลือคณานับ จนแทบไม่ต้องนับ เท่ากับความยากไร้ในบ้านเมืองนี้ที่ไม่ต้องมานั่งนับ เพราะไม่มีจะให้นับได้

ในอดีตเรานั่งท่องจำ

ถึงศัพท์แสงคุณธรรมและคำแห่งความดี

เราท่องจำถึงแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์

ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แผ่นดินนี้ผู้คนประชาชีไพร่ฟ้าหน้าใส น้ำใจโอบอ้อมอารีล้นเหลือท่วมนองแผ่นดิน บ้านเมืองเรามีคุณอนันต์ด้วยสมบัติแห่งแผ่นดิน ผู้คนจึงไม่แร้นแค้น ทั้งน้ำใจไมตรี และข้าวปลาอาหารนานาอย่าง

จำได้วันวาน

นั่งท่องคำถึงสินค้าของเมืองนี้

เราส่งออกข้าว ดีบุก และไม้สัก เป็นอันดับโลก

วันนี้เราเหลือเพียงข้าวไว้ท่องจำ ว่าวันหนึ่งเพื่อนบ้านจะส่งข้าวแซงหน้าเรา ด้วยความทรงจำอันร่อยหรอ เราส่งออกดีบุกได้น้อยเต็มที ส่วนไม้สักแม้ส่งออก ก็เป็นเพียงลักลอบ และแปรรูปเล็กน้อยจากป่าปลูก แทบจะไม่มีไม้สักสูงใหญ่ท่วมหัวคนให้เราเห็น แผ่นดินของเราเคยอุดมสมบูรณ์ ข้าวโพด มันสำปะหลัง กุ้ง และสินค้านานามากมายละลานตา

เราเคยส่งออกความอุดมสมบูรณ์

วันนี้แม้ยังส่งออกอยู่

แต่เราทุกคนต่างรู้ดี ถึงความไม่แน่ใจเหล่านี้

สินค้าประดามี และความอุดมสมบูรณ์ละลานตาบนผืนแผ่นดินนี้ นำพาให้เราเคยเป็นคนใจดีโอบอ้อมอารี และมีน้ำใจไมตรีให้กับมิตรผู้ยากไร้ ในวันที่เราไม่มีมหาเศรษฐีทัดเทียมโลก แต่เรามีน้ำใจอยู่ท่วมเมือง และไม่ใช่สำหรับวันนี้ วันที่เรามีมหาเศรษฐีเดินชนไหล่กันไปมา

วันนี้เรามีมหาเศรษฐียิ่งใหญ่คับโลก

ใหญ่ติดฐานานุรูปฐานานุศักดิ์

บนหิ้งแห่งความมั่งคั่ง

แต่เรามีน้ำใจเพียงน้อยนิด จนเราต้องรณรงค์ถามหาน้ำใจกันในเมืองนี้ เราถามหาความเอื้ออารีในยามทุกข์ยาก กระทั่งเราก้าวผ่านความลำบากเหล่านั้นร่วมกันมาได้ ในยามวิกฤติเรามีโอกาสเห็นรอยยิ้มแห่งความช่วยเหลือ เห็นการเอาใจใส่กันและกัน เห็นถึงกำลังใจที่เรามอบให้กัน

ความมั่งคั่งร่ำรวย

เคยสอนให้เราขายที่ดิน

เคยบอกกล่าวให้เราทำงานน้อยแต่ได้มาก

และเคยสั่งสอนเราว่า หากเราเอาเปรียบได้เราจะได้เปรียบ หากเราเอามากเราจะมั่งคั่ง หากเราไม่ยักยอกไม่ซุกซ่อนภาษี เราจะเป็นคนโง่ เราเคยถูกความเชื่อสอนสั่งให้เราใช้จ่ายเงินทองรูดปื้น รูดปื้น เพราะความร่ำรวยหามาได้ง่าย และมีเงินเป็นฟ่อนที่พร้อมจะออกจากกระเป๋าเรา

เมื่อเราซื้อมาขายไป

เมื่อซื้อลมเพื่อขายเพียงความฝัน

และเราทำมาหากินบนหยาดเหงื่อของคนอื่น

เราถูกความร่ำรวยกระซิบข้างหูเช่นนั้น เมื่อวันวานก่อนวิกฤติการณ์จะมาเยี่ยมเยือน เราเคยเชื่อมั่นว่าความมั่งคั่งร่ำรวยนั้นจะทำให้เรามีความสุข เราจึงขายทุกสิ่งอย่างเพื่อความมั่งคั่ง เราขายร่างกายตัวตน และขายสมอง แทนที่เราจะขายสมองเพื่อความงอกเงยของดอกผล แต่เรากลับตัดแบ่งสมองขายไป โดยไม่ขายดอกผลของมันสมอง

 

เราทำให้เด็กของบ้านนี้เมืองนี้

เชื่อมั่นว่าความสุขคือสิ่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน

ไม่มีความสุขของอนาคต และไม่มีความสุขในใจ

มีเพียงความสุขนอกใจ และความสุขในกาย จึงทำให้เด็กของเราขายทุกสิ่งอย่างในตัวของเขา บางครั้งเพียงเพื่อกระเป๋าใส่สิ่งของใบเดียว ขายบางสิ่งในร่างเพียงเพื่อซื้ออุปกรณ์ไว้คุยกับคนรอบข้าง เพราะความเหงาในใจ

เราทำให้เด็กของบ้านนี้

เชื่อว่าความรุนแรงคือคำตอบ

เมื่อต้องการจะชนะต้องใช้ความรุนแรง

เราจึงมีเด็กที่เที่ยวตบดีกัน เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือคำตอบสุดท้าย คือเป้าหมายของชีวิต เราจึงพร้อมจะยกพวกตีกัน เหยียบเท้าเพื่อต่อยหน้า มองตาเพื่อต่อยกัน และมีการบอกความยิ่งใหญ่ด้วยการถามหาชื่อพ่อของตน ก่อนจะเอาพ่อมาอ้างเวลาขึ้นศาลขึ้นโรงพัก

เราใช้ความรุนแรง

ทั้งจากตัวเองและคนที่เราเชื่อว่าใหญ่กว่า

เราเที่ยวถามหาวีรบุรุษของชาติในทุกครั้งที่เราฆ่าฟัน

เราไม่เคยเชื่อมั่นในพลังของกันและกัน ยามเราเกิดวิกฤติ เราจับมือกันเดิน เราขายของที่ไม่จำเป็นในชีวิต เราหาอยู่หากินหาใช้ และตั้งคำถามกับความพลั้งพลาดของชีวิต เพียงให้สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ จนกระทั่งเมื่อวันหนึ่งเราพ้นวิกฤติชีวิตเหล่านั้นมาได้ เราก็ลืมเลือน 

เราปั่นหุ้นเพราะเรารู้ว่ารวย

เราอยากเล่นหุ้นเพราะเรารู้ว่ารวย

เรารู้ว่าการหลบเลี่ยงภาษีเป็นสิ่งที่ผิด

แต่หากจับไม่ได้เราถือว่าเราฉลาด แม้เราจะปั่นหุ้นด้วยรู้ว่าผิดกฎหมาย แต่เราพร้อมจะทำ เพราะเราเชื่อว่าคนอื่นที่ร่ำรวยก็ปั่นหุ้นเช่นกัน เราพร้อมจะนำสมบัติของชาติของสาธารณะไปขาย เพียงเพราะเราเชื่อว่า เป็นสิทธิอันชอบธรรมของเรา เพราะเราอ้างว่าเราได้มา

หลายครั้งเรารู้ว่าผิดกฎหมาย

แต่เราพร้อมจะสู้คดีในชั้นศาล

เพียงเพราะเราเชื่อมั่นในพลังของเงินตรา

เราจึงมีเรื่องราวมากมาย ให้ได้ยินและรับรู้ เสมือนหนึ่งว่าเป็นความดีของแผ่นดิน เสมือนหนึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ และแผ่นดินนี้ยอมรับกันว่าเป็นความดี เราจึงมีความพิกลพิการเป็นคำถามในสังคมอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราอ่านหนังสือพิมพ์ 

วันนี้เราเที่ยวหาน้ำใจ

เราต้องคิดค้นสื่อโดนใจเพื่อรณรงค์หาน้ำใจ

เพราะเราเชื่อว่า เราจะทำให้คนมีน้ำใจเมื่อดูโฆษณา

วันนี้มีความเชื่อมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ มีความฝันและความหวังมากมาย ในท่ามกลางการแก่งแย่งช่วงชิง ต่อสู้ และห่ำหั่น เพียงเพื่อประกาศว่า เราจะมีสังคมที่ดีกว่า สังคมอันงดงามน่าอยู่ มีคุณธรรมและความดีงามปรากฎในแผ่นดินนี้ ขณะที่เรายังมีความเชื่อเหล่านั้นดำรงอยู่

วันนี้มีเรื่องราว

เพราะเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้

เสมือนหนึ่งเป็นความดีงามของสังคม

 

หมายเลขบันทึก: 151566เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2007 16:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท