แนวคิดและหลักการด้านการจัดการความรู้ (หัวข้อสัมมนา)

   วันนี้ ( 7 ก.พ. 49) ระหว่างเวลา 13.00 -16.00 น. คณะวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร จัดสัมมนาเรื่อง "แนวคิดและหลักการด้านการจัดการความรู้ : การประกันคุณภาพการศึกษา" โดยเชิญท่านอาจารย์วิบูลย์เป็นวิทยากร ความจริงเป็นเจตนาที่ดีของหน่วยประกันคุณภาพของคณะฯ  ซึ่งนำทีมโดย รศ.ปรียนนันท์ แสนโภชน์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและกิจการพิเศษ  ผมจึงขอเล่ามุมมองบางประเด็นนะครับ (เป็นมุมมองของคนเพียงคนเดียวครับ โปรดใช้วิจารณญาน)

   พอลงทะเบียนเวลา 13.00 น. แล้ว มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 50 กว่าท่าน พอคณบดี (รศ.ดร.ชยันต์ บุณยรักษ์) กล่าวเปิดงานเสร็จ 13.20 น. ท่านอาจารย์วิบูลย์ก็เริ่มบรรยาย โดยเตรียม power point มา 5 เรื่อง (แต่ใช้บรรยาย 3 เรื่อง ที่เหลือให้ศึกษาเอาเองคือเรื่องบล็อกและการประเมินคุณภาพ) ขอใช้เวลาบรรยายประมาณ 1.30 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นจะเปิดให้ซักถามพูดคุยกัน พอบรรยายไปได้สัก 30 นาที คนเริ่มหายไป (อาจจะกลับไปสอนและไปทำงานที่ค้างอยู่) เกือบ 10 คน เหลือ 45 ท่าน พอบรรยายไปครบ 1 ชั่วโมง มีการแจกอาหารว่าง พอ 15.00 น. อาจารย์วิบูลย์บรรยายเสร็จ พัก 10 นาที คราวนี้คนหายไปอีกกว่าครึ่งห้อง เหลือไม่ถึง 20 ท่าน (ที่ผมเขียนมานี่สะท้อนปัญหาของการจัดสัมมนาเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ตาม หากจัดในสถานที่ทำงาน มักจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะคนหนึได้ แต่ถ้าจัดนอกสถานที่ คนหนีไม่ได้แต่ก็ใช้งบประมาณสูง) เวลาที่เหลืออีก 50 นาที มีการพูดเรื่องบล็อก โดยเข้าไป nu.ac.th --> NUKM blog--> ฉายหนังตัวอย่างของ blog

  กลับมาดูสิ่งที่ท่านอาจารย์วิบูลย์บรรยายครับ ในเชิงนโยบายที่ท่านดูแลงานด้านประกันคุณภาพ ท่านต้องการเอา KM มาเป็นเครื่องมือต่อยอดการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อฉุดดึงให้การประกันคุณภาพไม่หยุดนิ่ง เพราะเหตุว่า เมื่อมีคนเข้าใจเรื่องประกันคุณภาพกันมากขึ้น คะแนนการประเมินจะดีขึ้นเรื่อยๆ (จากการที่ได้รับการประเมินมา 5 ปี ตั้งแต่ปี 44) พอถึงจุดอิ่มตัวก็จะหยุดนิ่ง (ตายและเน่าเสีย) แต่ถ้าเราเอา KM (เครื่องมือ) มาใช้ จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันมากขึ้น และจะมีการยกระดับความรู้ ทำให้มีการพัฒนาและเกิดวัฒนธรรมของการเรียนรู้กันทั่วทั้งองค์กร

  ผมคงเก็บประเด็นมากล่าวเพียงเล็กน้อย เพราะไม่สามารถเก็บประเด็นทั้งหมดมาเขียนได้ ขอทำ AAR (After Action Review) เลยครับ

A. ความคาดหวังหรือเป้าหมายในการฟังบรรยายวันนี้คือ

1. ได้ฟังเรื่อง QA และ KM
2. ได้ฟังเรื่อง River diagram และ stair diagram
3. ถ้าพูดเรื่องบล็อก ท่านอาจารย์วิบูลย์ต้องพูดถึง beeman

B. สิ่งที่ได้รับเกินเป้าหมาย

1. ได้เห็นภาพการจัดการความรู้ในมน. เพิ่มมากขึ้น และชัดขึ้นในเชิงนโยบาย
2. ได้คำคมของ KM เพิ่มขึ้น เช่น "ยิ่งให้ก็ยิ่งได้ ยิ่งใช้ก็ยิ่งรู้" "KM ไม่ทำไม่รู้" "(KM เป็นเครื่องมือในการ) ปฏิรูปการเรียน เปลี่ยนการสอน ปฏิสังขรณ์การบริหาร"
3. ได้ทราบว่าท่านอาจารย์วิบูลย์เตรียมคนให้คณะด้าน QAและKM (รวมทั้งบล็อกด้วย)ประมาณคณะละ 5 คน
4. ได้ power point ของท่านอาจารย์วิบูลย์ และของท่านอื่นๆ มา 5 เรื่อง
5. ได้ทราบความก้าวหน้าของ LO=Learning Organization ภายในมน.
6. ได้ทราบว่าท่านอาจารย์วิบูลย์ได้แอบชื่นชม การที่ beeman เอาเรื่องบล็อกไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน
7. ได้ทราบว่าท่านอาจารย์วิบูลย์ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ beeman เหมือนกัน
8. ได้เข้าใจคำบรรยาย Slide และวิธีการคิดของท่านอาจารย์วิบูลย์มากยิ่งขึ้น

C. สิ่งที่ได้รับน้อยกว่าเป้าหมาย

1. ไม่น่าจะมี แต่ผิดหวังอยู่นิดหนึ่งคือ เอกสารการประเมินยังเป็นรูปแบบเก่าๆ เหมือนทุกครั้งคือ มีช่อง ดีมาก,ดี,ปานกลาง,น้อย,น้อยที่สุด ให้ทำ แทนที่จะเป็นแบบให้เขียน AAR ซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่า

D. สิ่งที่จะปรับปรุงในการจัดครั้งต่อไป

1. ผมไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่หากคณะฯ จะจัดกิจกรรมแบบนี้ครั้งต่อไป ขอให้จัดเป็นวงๆ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ (ทำภาคปฏิบัติเลยครับ)

E. สิ่งที่จะกลับไปทำ

1. หากได้รับเชิญเป็นวิทยากร ต้องเตรียมตัวและประสานงานให้ดี อย่าประมาทครับ