เดือนที่แล้ว กรรมการที่ปรึกษาจากกรุงเทพฯ เมล์บอกว่า จะมีเพื่อนคนต่างประเทศอยากมาเที่ยวสุรินทร์งานช้าง ในช่วงนี้
นึกในใจ ว่า ...คนต่างประเทศ...ตายละหว่า ต้องเตรียมดิกชั่นนารีอีกแล้ว
จากนั้นก็เลยทำเป็นลืม ประกอบกับเนทเข้าเมล์ ไม่ได้อีก ก็ไม่ค่อยได้สื่อสารกัน
ใกล้วันที่ ชาวต่างประเทศจะมาแล้ว เย็นนี้เลยต้องหาเบอร์โทรและโทรไป พยายามคุยด้วย
อาจารย์แมททิว ชาวอะไรจำไม่ได้ เป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับศาสนา ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล
ฉันก็คุยกับ อาจารย์ อย่างทุลักทุเลในภาษายิ่ง
แต่โชคดี อาจารย์แมททิว พูดช้า และ พูดชัด ค่อยยังชั่วหน่อย
หลังจากพูดทักทายทั่วไป ฉันก็พูดประโยคว่า
อยากรู้โปรแกรมของอาจารย์
( ในความหมายของฉัน ก็เพื่อจะได้รู้ความต้องการของอาจารย์
จะได้ดูแลถูกต้อง )
อาจารย์ ทำเสียงตกใจ " what 's happen ? "
ฉันกลัวอาจารย์จะตกใจ ในสำเนียงและภาษาของคนไทยใจลูกทุ่งไปมากกว่านี้ เลยต้องใช้ ประโยคขยาย เสียยาวยืด
พรุ่งนี้ อาจารย์จะมาถึงสุรินทร์ ตอนบ่ายแก่ๆ
แล้วฉันก็ถามอาจารย์ว่า
" How do I know you ? "
" I'm tall and I 'm FA - RANG . " อาจารย์ตอบ
ฉันก็ ไอ ซี อ้อ...ฝาหรั่ง..
สวัสดีค่ะพี่หน่อย
แอมแปร์เข้ามาอ่านเพลินไปอีกแล้ว หนนี้ขำกลิ้งเลย อิๆๆๆๆ
พี่หน่อยเก่งชะมัดเลยที่คุยกับคนฝรั่งรู้เรื่อง ว่ากันว่าคนฝรั่งมีความพยายามสูง : ) ของแอมแปร์ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ ขอเปิดแน่บสี่ประตูต่อศูนย์ดีกว่า คุยกับฝรั่งทีไร เปลืองเคาน์เตอร์เพนทุกที
คือว่าคุยกันจนเมื่อยมือเป็นอันขาดอะค่ะ : )
สวัสดี น้องต้า งานนี้ก็ผ่านไปด้วยดี เมื่อเช้า ส่งขึ้นรถทัวร์ กลับ กทม. เรียบร้อย
ดีที่วันท้ายๆ มีน้องจาก กทม. มาร่วมค่าย ก็ได้คนช่วยคุยมากยิ่งขึ้น ทำให้บรรยากาศที่เด็กรักป่า สนุกสนาน
และชั่วโมงแนะนำตัวกับเด็กค่าย ก็ดี อ.แมท พูด เล่าเรื่องตัวเอง สั้นๆให้เด็กฟัง ดีอ่ะ เด็กๆ เข้าใจ เอาแบบประโยคง่ายๆ