การประชุมเครือข่ายฯสัญจร (ตอนจบ)


คำว่า “เครือข่าย” นั้นมีองค์ความรู้อยู่ว่า ถ้าอยู่ตามลำพังจะอยู่ไม่ได้ ไม่ว่าจะมีสมาชิกมากหรือน้อย

     ช่วงนี้ขอเล่าต่อจากช่วงที่แล้วนะคะ เป็นการเล่าเรื่องประชุมเครือข่ายฯสัญจรใน วันสุดท้ายแล้วค่ะ (แต่ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์ก็ฟังได้ไม่จบนะคะ ดังนั้น จึงขอเล่าเท่าที่ได้ฟังนะคะก็แล้วกันนะคะ)

      ป้าอรพินทร์ ได้เปิดประเด็นใหม่แต่ยังอยู่ในวาระที่ 4 นะคะ โดยป้าอรพินทร์บอกว่า การประชุมในเดือนที่ผ่านมามีการพูดกันในเรื่องทะเบียนสมาชิก จำนวนสมาชิกกันมาก ผู้วิจัยก็เลยมอบหมายให้ป้าไปทำในเรื่องทะเบียนสมาชิก ดังนั้น ในเดือนนี้ป้าจึงมาขอเบิกค่าใช้จ่ายในการทำทะเบียนนี้ ประธานฯจึงบอกว่าให้มาเบิกที่ผู้วิจัย ซึ่งผู้วิจัยก็ตอบกลับไปว่ามาเบิกที่ผู้วิจัยก็ได้ (สำหรับในประเด็นนี้ ผู้วิจัยขอยอมรับเลยว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของประธานฯเลย เนื่องจาก ในเรื่องของการทำทะเบียนสมาชิกนั้นเกิดจากการเรียกร้องของคณะกรรมการ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ประธานฯมักจะถามในที่ประชุมเสมอว่ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เครือข่ายฯมีสมาชิกทั้งหมดกี่คน ที่ประชุมก็ตอบไม่ได้ชัดเจน ดังนั้น ในการประชุมเดือนที่ผ่านมาจึงมีผู้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม และมติที่ประชุมออกมาอย่างนี้ ไม่ใช่มติหรือการตัดสินใจของผู้วิจัย แต่เนื่องจากประธานฯไม่ได้อยู่ในที่ประชุมเดือนที่แล้ว ประกอบกับรายงานการประชุมที่มีการสรุปออกมาก็ขาดตกบกพร่องหลายอย่าง ดังนั้น ผู้วิจัยจึงไม่เห็นด้วยเลยที่ประธานฯบอกว่าให้มาเบิกเงินกับผู้วิจัย แต่เนื่องจากผู้วิจัยไม่อยากมีปัญหาจึงรับปากไป ที่กล่าวถึงต้นสายปลายเหตุนี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะตำหนิใครนะคะ แต่อยากจะสะท้อนให้เห็นว่าการไม่เข้าร่วมประชุม รวมทั้งรายงานการประชุมที่ไม่ละเอียดเพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้)

     คุณกู้กิจ ยกมือถามต่อว่า สรุปแล้วตอนนี้เครือข่ายฯมีสมาชิกทั้งหมดกี่คน? ประธานฯจึงหันไปถามฝ่ายข้อมูล ซึ่งฝ่ายข้อมูลตอบว่ามีประมาณ 6,492 คน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2548)

      จากนั้น คุณปิยชัย ได้ถามต่อเมื่อฝ่ายข้อมูลรายงานจบว่า พอจะบอกตัวเลขที่จ่ายสวัสดิการเรื่องศพได้หรือไม่ว่าจ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่? ฝ่ายข้อมูลได้ตอบกลับมาว่าตอนนี้ข้อมูลยังไม่เรียบร้อย ไม่สามารถบอกได้ คุณปิยชัยจึงตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรครับ พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า การประชุมในเดือนที่แล้วมีมติให้หาคนที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลของเครือข่ายฯ (ผู้วิจัยคิดว่า คุณปิยชัยคงหมายถึงกรณีของป้าอรพินทร์)

     ประธานฯจึงกล่าวต่อไปว่า เป็นยังไงบ้างผลจากการประชุมเดือนที่แล้ว ใครทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูล ผลเป็นอย่างไร? ปรากฎว่าที่ประชุมเงียบ ไม่มีใครตอบ (ในส่วนนี้ผู้วิจัยเห็นว่าที่ไม่มีคนตอบนั้น ความจริงแล้วที่ประชุมได้มอบหมายให้ป้าอรพินทร์เป็นผู้จัดการ แต่จากการสอบถามของผู้วิจัย รวมทั้งการที่ป้าอรพินทร์มาเล่าให้ฟังทำให้ได้ข้อมูลว่ายังมีกลุ่มอีกหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้ป้าอรพินทร์ ทำให้ป้าอรพินทร์ไม่สามารถทำทะเบียนข้อมูลได้แล้วเสร็จ ตรงนี้ก็คงเป็นอีกจุดหนึ่งที่เครือข่ายฯต้องหาทางปรับปรุงแก้ไข เนื่องจาก ในที่ประชุมเมื่อเดือนที่แล้วมีการรับปากเป็นมั่นเหมาะจาก (แทบ) ทุกกลุ่มที่มาเข้าร่วมประชุมว่าจะเอาข้อมูลมาส่งให้ แต่จนถึงวันนี้ผู้วิจัยก็ยังเห็นว่ามีอีกหลายกลุ่มที่ไม่ได้นำข้อมูลมาส่ง) ประธานฯจึงกล่าวต่อไปว่า ในการทำงานหรือการประชุมทุกครั้งต้องมีการติดตามผล คนที่เสนอก็เอาแต่เสนอ อยากให้เกิดนั่นเกิดนี่ ซึ่งจริงๆแล้วต้องช่วยกันทำ ต้องแบ่งบทบาทหน้าที่กัน คำว่า “เครือข่าย” นั้นมีองค์ความรู้อยู่ว่า ถ้าอยู่ตามลำพังจะอยู่ไม่ได้ ไม่ว่าจะมีสมาชิกมากหรือน้อย ตอนนี้ไม่มีที่ไหนทำ มีแต่ลำปางทำที่เดียว ถึงแม้ว่าเราจะคืบคลานไปอย่างช้าๆ แต่มันก็มีชุดองค์ความรู้อยู่ว่าต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ขอยกตัวอย่างบ้าน……. (ฟังไม่ชัดจริงๆค่ะ รู้แต่ว่าคงไม่ได้เป็นสมาชิกเครือข่ายฯ) มีสมาชิกมากกว่าเราอีก แต่ไปไม่รอด ต้องพึ่งเงิน พอช.ลงไปช่วย เป็นต้น ให้ดูกันก็แล้วกันว่าเราทำกันมา 5-6 ปีแล้วเป็นอย่างไร เรายังอยู่ได้ ขอให้กลับไปทบทวนดูว่าจะเอาอย่างไร

      จากนั้น ประธานฯได้กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของข้อมูลนั้น ตกลงว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ คุณปิยชัย บอกว่า ขอให้ดูรายงานการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วว่ามีการตั้งผู้ที่ทำหน้าที่นี้ ประธานฯจึงบอกว่า ตอนนี้ทีมบริหาร 6 คนเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล (ในประเด็นนี้คิดว่าประธานฯกับผู้วิจัย รวมทั้งผู้เข้าร่วมประชุมเมื่อเดือนที่แล้วคงเข้าใจไปคนละทิศคนละทาง กล่าวคือ ผู้วิจัยคิดว่าประธานฯ คงหมายถึงข้อมูลในภาพรวมทั้งหมด เช่น มีสมาชิกกี่คน มีเงินในแต่ละกองทุนเท่าไหร่ เป็นต้น ในขณะที่ผู้วิจัยและผู้เข้าร่วมประชุมนั้นได้มีข้อตกลงกันแล้วว่าให้ป้าอรพินทร์เป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลในรายละเอียดที่ลึกลงไป เช่น ต้องทำรายชื่อสมาชิกทั้งหมดออกมา ต้องรู้ว่าใครเข้ามาเป็นสมาชิกตั้งแต่เมื่อไหร่ ครบ 180 วันวันไหน ตาย/ขาดสมาชิกภาพตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นใครบ้าง ซึ่งข้อมูลตรงนี้กรรมการบริหารไม่สามารถจัดเก็บได้ กรรมการบริหารจะจัดเก็บได้เฉพาะภาพรวมเท่านั้น)

     ต่อจากนั้น เป็นการพูดคุยในเรื่องการจ่ายเงินเข้ามาที่เครือข่ายฯของกลุ่มต่างๆ ซึ่งประธานฯได้สรุปว่า ให้แต่ละกลุ่มลองมาเช็คดูว่าต้องจ่ายเงินเข้าเครือข่ายฯ เป็นจำนวนเท่าใด เมื่อเช็คได้แล้วก็ขอให้แต่ละกลุ่มนำเงินมาจ่ายด้วย เมื่อจบประเด็นนี้ ประธานฯได้ขึ้นวาระที่ 5 ซึ่งเป็นเรื่องอื่นๆ แต่เนื่องจากผู้วิจัยและอาจารย์พิมพ์ติดภารกิจต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ ดังนั้น จึงไม่ได้อยู่ร่วมประชุมต่อ ยังไงก็จะติดตามมานำเสนอต่อไปนะคะ

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 14456เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2006 15:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท