เมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้ไปอ่านบทความของคุณ พูนลาภ ชัชวาลโฆษิต เรื่อง "วิกฤติศรัทธาของระบบการศึกษากับการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรไอที" ที่เขียนลงในนิตยสาร PC MAGAZINE ฉบับที่ 105 (ตุลาคม 2550) หน้า 116-122 แล้วเห็นว่า มีบางตอนที่น่าสนใจ น่าเอามาพินิจพิจารณา เพราะผมเองก็อยู่ในวงการศึกษาเช่นเดียวกัน จึงใคร่ขออนุญาตเจ้าของบทความ มา ณ ที่นี้ เพื่อเผยแผ่บางส่วนบางตอนของบทความให้กับคนที่ผ่านมาเจอได้ทราบด้วย
รายละเอียดคงไม่ขอกล่าวถึง เพราะสดุดตาอยู่กับคำสองคำคือคำว่า "Hard skill" กับ "Soft skill" เท่านั้น เนื่องจากเพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก
คุณพูนลาภ ได้อธิบายไว้ว่า " คำว่า "Hard" และคำว่า "Soft" นั้น โดยทั่วไปใช้กันในกลุ่มนักศึกษาแพทย์ เพื่อเป็นการกล่าวถึงความขัดแย้งกันในธรรมชาติของหลักสูตร โดยเรียกหลักสูตรอย่างชีวเคมี ฟิสิกส์ เภสัชวิทยา กายวิภาคศาสตร์ และพยาธิวิทยาว่า "Hard" ในขณะที่วิชาอย่าง จริยธรรมทางการแพทย์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์-คนไข้ ซึ่งเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงาน กลับถูกจัดอยู่ประเภท "Soft"
แต่เพียง 10 ปี หรืออาจเป็นเพียง 2 ปีหลังจบการศึกษาแล้ว หลายคนพบว่าทุกอย่างกลับกลายเป็นตรงกันข้าม นั่นก็คือ วิชาที่ถูกกำหนดว่าเป็น Hard กลับกลายเป็น Soft และวิชาที่ถูกกำหนดว่าเป็นSoft กลับกลายเป็น Hard พื้นฐานความรู้ของการแพทย์ได้เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง แต่วิชาที่เป็น Soft โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้กลับกลายเป็นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าคงอยู่อย่างยาวนาน"
และในบทความเดียวกัน คุณพูนลาภได้อ้างงานวิจัยบางชิ้นทีได้รายงานว่า " ทักษะด้านเทคนิคและความรู้มีส่วนเพียงแค่ประมาณ 15% ของเหตุผลที่ทำให้คนได้งาน การทำงาน และความก้าวหน้าในงาน ที่เหลืออีก 85% ของการประสบความสำเร็จในงานขึ้นอยู่กับ "ทักษะทางด้านคน" ของแต่ละบุคคล "
อีกตอนหนึ่งก็บอกว่า " 80% ของคนที่ล้มเหลวในการทำงาน ไม่ได้ล้มเหลวเนื่องจากการขาดทักษะทางด้านเทคนิค แต่เพราะว่าเขาขาดความสามารถในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น"
ทั้งหมดนี้เป็นบางส่วนของบทความเท่านั้น ใครสนใจลองหามาอ่านดูนะครับ
ผมเห็นว่าเป็นบทความที่สามารถนำไปให้ข้อคิดในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาได้ จึงนำมาบันทึกไว้เป็นบันทึกแรกในบล๊อก
สุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้เขียนบทความอีกครั้ง ที่ค้นคว้ามาเผยแพร่
ขอบคุณครับ
ไม่มีความเห็น