วันนี้ผมจะมาพูดถึง..การใช้ลิฟต์อย่างไรให้ปลอดภัย
? ลิฟต์ใช้งานอยู่ปลอดภัยหรือไม่สังเกตอย่างไร?
คำแนะนำในการใช้ลิฟต์
- กดปุ่มหน้าชั้นเฉพาะทิศทางที่จะไป
(ขึ้นหรือลง) เท่านั้นโดยกดให้ไฟติดเพียงครั้งเดียว การกดย้ำหลายๆ
ครั้งนอกจากจะไม่ทำให้ลิฟต์เร็วขึ้น
ยังมีผลทำให้ปุ่มกดชำรุดเร็วกว่ากำหนด
- ห้ามใช้ของแข็งหรือของมีคมกดปุ่มเรียกลิฟต์
- เมื่อประตูลิฟต์เปิดอยู่ต้องดูให้แน่ใจว่ามีลิฟต์จอดอยู่
ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในตู้ลิฟต์
- เมื่อเข้าลิฟต์แล้วให้รีบเดินเข้าไปด้านในและพยายามยืนโดยการกระจายน้ำหนักให้ทั่วห้องโดยสาร
อย่ายืนขวางประตูหรือยืนรวมกัน
- กดปุ่มเฉพาะชั้นที่ต้องการจะไปเท่านั้น
- กรณีที่มีการล้างหรือทำความสะอาดพื้นบริเวณหน้าลิฟต์
ต้องทำด้วยความระมัดระวังไม่ให้น้ำไหลลงบ่อลิฟต์เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายได้
และใช้ผ้าชุบน้ำมาดๆ
เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นผิวในห้องโดยสารเท่านั้น
- ห้ามใช้ลิฟต์ในระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมและต้องมีป้ายประกาศให้ชัดเจน
- ห้ามใช้ลิฟต์ในขณะเกิดเพลิงไหม้
- ห้ามสูบบุหรี่ในลิฟต์
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ในขณะที่เกิดพายุ
ฟ้าคะนอง หรือฝนตกหนัก หรือขณะเกิดแผ่นดินไหว
เพราะลิฟต์อาจค้างได้
ข้อควรระวังสำหรับเด็ก
- ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
ใช้ลิฟต์ตามลำพังเพราะปุ่มกดฉุกเฉินจะอยู่สูงเกินกว่าที่เด็กจะเอื้อมถึง
หากลิฟต์ค้างเด็กจะไม่สามารถเรียกร้องความช่วยเหลือได้
- ไม่ควรให้เด็กเล่นบริเวฯหน้าประตูลิฟต์ตามลำพังเพราะอาจจะพลัดหลงเข้าไปในลิฟต์
- ห้ามพลัก
กระแทกหรือยืนพิงบานประตูลิฟต์
- ระหว่างที่โดยสารอยู่ในลิฟต์
อย่าให้เด็กกระโดดหรือเล่นพลักกันในลิฟต์
- อย่าเล่นฉีดน้ำบริเวณหน้าลิฟต์และในตู้ลิฟต์เพราะอาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
- พบอุปกรณ์ชำรุด ไฟสัญญาณต่างๆ
ไม่ทำงานหรือพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขทันที
ลิฟต์ใช้งานอยู่ปลอดภัยหรือไม่สังเกตอย่างไร
การให้ความสำคัญต่อการบำรุงรักษาโดยช่างที่มีความชำนาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์
รวมถึงการใช้และเปลี่ยนอะไหล่แท้จากผู้ผลิตจึงเป็นการลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
และนี่คือเกร็ดเล็กๆน้อยๆ
ที่จะช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้ลิฟต์ครั้งต่อไป
ลิฟต์ที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
ควรมีลักษณะพื้นฐานเพื่อการสังเกตดังต่อไปนี้
- สภาพของอุปกรณ์ทั้งภายนอกและภายในตู้ลิฟต์
เช่น บานประตู ,ปุ่มกด,ผนังตู้,แผ่นป้ายโฆษณาและอุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ
ต้องยึดติดแน่นและไม่อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม
- ปุ่มกดและสัญญาณไฟต่างๆ
สามารถทำงานได้ถูกต้องครบถ้วน
-
มีปุ่มกดสัญญาณฉุกเฉิน
(Emergency Call) และโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อกับบุคคลภายนอกได้
- ที่บานประตูลิฟต์จะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันประตูหนีบ
และจะต้องเปิดออกทันทีกรณีที่ประตูปิดกระทบผู้โดยสาร
- ในระหว่างที่ลิฟต์วิ่งขึ้น-ลง
หรือแม้แต่ขณะที่กำลังจะหยุดรับ-ส่งตามชั้นต่างๆ
ต้องไม่เกิดเสียงดังกระตุกหรือสั่น จนผิดสังเกต
- ขณะที่ลิฟต์เข้าจอด
ระดับพื้นลิฟต์ต้องอยู่เสมอกันระดับพื้นหน้าชั้นแต่ละชั้นจนกระทั้งประตูปิดสนิทลิฟต์จึงเริ่มเคลื่อนที่
- ในตู้ลิฟต์จะต้องมีแผ่นป้ายคำแนะนำการใช้ลิฟต์และข้อควรปฎิบัติในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินติดไว้ชัดเจน
-
ลิฟต์จะต้องไม่เคลื่อนที่
ขณะที่ประตูชั้นใดชั้นหนึ่งเปิดอยู่
หรือปิดไม่สนิท
- กรณีที่บรรทุกเกินน้ำหนักที่กำหนด
ลิฟต์จะต้องไม่ทำงานและมีเสียงสัญญาณเตือน
- ประตูทางเข้าลิฟต์ทุกชั้นที่ไม่มีลิฟต์จอดอยู่จะต้องปิดสนิท
และไม่สามารถเปิดออกได้ นอกจากการใช้กุญแจพิเศษเท่านั้น
- ลิฟต์ที่ได้รับการดูแลบำรุงรักษาโดยบริษัทที่ได้มาตรฐานต้องมีใบรับประกันคุณภาพการบริการติดไว้ในที่เห็นได้ชัดเจน
- ลิฟต์ควรได้รับการดูแลบำรุงรักษา
และตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์นิรภัยโดยช่างผู้ชำนาญงานเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ
1 ครั้ง หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแก้ไขทันที
- ลิฟต์ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือซ่อมแซม
ต้องมีป้ายข้อความแสดงให้ชัดเจน
และงดการใช้งานทันทีหากพบว่าไม่ปลอดภัย
สำหรับวันนี้ขอจบแค่นี้ก่อนครับ
.....พรุ่งนี้จะมีเรื่องเกี่ยวกับ ทำอย่างไรเมื่อลิฟต์ค้าง ? และ
วิธีการเตรียมการเพื่อลดปัญหาลิฟต์ค้างกรณีไฟฟ้าดับ...ขอบคุณครับ