ความฝันเป็นเรื่องของมนุษยทุกคนมีสิทธิที่จะฝัน...แต่ฝันจะเป็นจริงได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการลงมือทำ พรรคพวกที่ไปวังเวียงด้วยกันคราวนั้น ได้ชักชวนกันไปเนปาล ซึ่งเป็นดินแดนที่เราหวังไว้ว่าสักวันจะไป...ไปแบบไหนก็อีกเรื่องหนึ่งนะ ในการไปวังเวียง ข้ามฝั่งโขง เป็นบ้านพี่เมืองน้อง สัมพันธไมตรีก็งอกงาม การไปเที่ยวแบบอิสระใณปแบบการแบกเป้เที่ยว จะเป็นสิ่งสนุกสนาน ประทับใจและพิสูจน์ศักยภาพในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของตนเอง
เมื่อปี 49 เราไปเที่ยวหลวงพระบางแบบแบกเป้เที่ยวกับ "แอ้" ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกภูมิใจหนักหนา การเที่ยวในเมืองไทย กับไปนอกประเทศ ถึงจะเป็นลาว ก็ลุ้นในหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างเหมือนกัน แต่ความภูมิใจของเรานั้นได้สะดุดลง เมื่อเห็นน้องนักศึกษาหญิงวัย 20-23 ปีจาก กทม.มาท่องเที่ยวที่หลวงพระบางแบบแบกเป้กัน 2 คน กลุ่มนักศึกษาชายจาก กทม. 4-5 คน ก็มาเหมือนกัน..แล้วเราหล่ะตอนที่เราอายุเท่าเด็ก พวกนี้เราทำอะไรอยู่ จะถามว่าทำอะไรอยู่ ก็คงไม่มีข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ได้มากนัก...ขณะเราเป็นวัยรุ่น โลกไม่ได้บูรณาการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเหมือนสมัยนี้ อินเตอร์เน็ตไม่มี รถราไม่สะดวกสบาย...เราก็คงเป็นวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตมีรูปแบบเหมือนคนในยุควงสาวสาวสาวดัง แต่ตอนนี้แม้ร่างกาย...วัยวุฒิจะเพิ่มมากขึ้น แต่เราคิดว่าเรายังเป็นวัยรุ่นอยู่...มีบางอย่างยังเติมไม่เต็ม และมีสิ่งทีซ่อนแฝงไว้ในวัยที่เพิ่มมากขึ้น...สิ่งนั้น คือความเหงา ความเชื่อมั่นในตนเองลดน้อยถอยลง แม้ว่า การงานหรือเงินเดือนจะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม การปล่อยเวลาให้ผ่านไป อาจทำให้คนโสด ที่เริ่มเปลี่ยนช่วงชีวิตเป็นผู้สูงอายุ ฟุ้งซ่านได้ เพื่อนๆในกลุ่มจึงชวนกันไปเรียนปริญญาตรีใบที่ 2 ที่ มสธ. และทำเวลาให้ไม่ว่างด้วยการชวนกันเที่ยว ตามที่สังขาร เวลา และงบประมาณอำนวย...
และวันนี้ เนปาล ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะไปสัมผัส
เนปาล...เป็นสิ่งที่เราอยากไปเที่ยวแบบแบกเป้ แต่เพื่อนหลายคนอยากไปกับทัวร์ ถ้าแคร์เพื่อน...และไปกันหลายคน...เราก็ต้องไปกับทัวร์ เพราะเราไม่อยากรับผิดชอบใครและเราไม่อยากให้ความกังวลของใคร มาทำลายบรรยากาศการผจญภัยจนต้องปรับเปลี่ยนแผนอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความชอบในรูปแบบแบกเป้นี้ รวมกับการพิสูจน์ตัวตนเพื่อรองรับวัยชะแรแก่ชรา งบประมาณที่มี และความฝัน เราคิดว่าเราและเพื่อนอีกสัก 3-4 คน เราน่าน่าจะไปเที่ยวแบบไม่ง้อทัวร์ก็ได้ จากทัวร์ที่จัด 5 วัน 4 คืน ประมาณ 35,000 บาท เราเพิ่มอีกนิดหน่อยจะเที่ยวได้ 8 วัน 7 คืน ในงบประมาณใกล้เคียงกัน
หนักใจหน่อยก็คือเรื่องภาษา...งูๆ ปลาๆ ไป ก็คงไปรอด How Much? How long? Where? ก็คงเอาชีวิตรอดได้อยู่มั้ง และสิ่งที่สนับสนุนให้โปรเจกค์แบกเป้ไปเนปาลเป็นรูปเป็นร่าง ก็เพราะเพื่อนๆ สมาชิกที่แบกเป้ไปวังเวียงด้วยกันอยากที่จะลอง...หลายคนเก่งภาษา และบางคนเคยใช้ชีวิตในต่างแดนมาแล้ว ในกลุ่มเพื่อนๆ มีการโฆษณาชวนเชื่อว่า การไปเที่ยวแบบแบกเป้ จะไม่ถูกริบเงินค่ามัดจำถ้าไปร่วมทริปไม่ได้ แต่จะเหนื่อยหน่อยในการช่วยตัวเอง ช่วยกันหาข้อมูลและตัดสินใจร่วมกัน
เทคนิคการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่อยากบอกต่อ คือ ในกลุ่มที่มีข้อมูล โดยเฉพาะพ๊อคเก็ตบุ๊คที่ซื้อมา เพื่อนๆ ในกลุ่มใช้วิธีโทร.บอกกันเพื่อป้องกันการซื้อซ้ำ แล้วมาเวียนหรือเปลี่ยนกันอ่าน ไม่เปลืองเงินดีค่ะ
... ร่างกำหนดการท่องเที่ยวคร่าวๆ จึงออกมาแล้วว่า เราจะไปกัน 8 วัน เดินทางวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม-4 เมษายน 2550 (ข้าราชการลา 6 วัน)
ป้าตุ่น ก้อยเอง ... เขียนอะไรผิดไปรึป่าว ตกลงจะไปปีไหน 2550 รึ 2551 กันแน่จ้ะป้า 5555
หวัดดีจ๊ะ แม่วินนี่ ตั้งใจจะไปปี 2551 แต่ตอนนี้หัวใจมันออกเดินแล้ว ติดขัดที่งบประมาณนี่แหละ...ถ้าไม่ติดกวินตัวน้อนนะ...ทริปนี้คงมต้องชวนก้อยไปด้วยแหละ...ก็คนเขามีครอบครัวนี่นา...เอาเป็นว่าถ้าได้ไปจริงๆ จาเอาของที่ระลึกมาฝากนะ หรือจะเปลี่ยนใจก็แจ้งนะจ๊ะ
พี่ตุ่นจ๋า..
ไปๆมาๆ..กลัวจะติดธุระจังเลย..แต่ไม่ว่ายังไง..จะต้องไปให้ได้..
กาลัง..เตรียมเคลียร์งานไว้..จะได้หนีตามพี่ตุ่นกะพวกพ้วง..อย่างสบายใจ..
ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ.ช่วงนี้อากาศน๊าวหนาวอ่ะ..
คิดถึงมาก..มากจ้า..
งานนี้ใครไม่ไปเป็นหนอนแน่ 555!
หวัดดีจ้า น้อง run
ถ้ามีโอกาสไปด้วยกันก็ดีนะสิ...ขอ mail น้อง runสำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้บ้างสิคะ...พี่เองก็กล้าๆ กลัวๆ อยู่