เรื่องเล่าจากเกาหลีใต้


เมื่อได้ไปดูงานขององค์กรที่ทำงานด้านประกันภัยของเกาหลีใต้

          เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา มีโอกาสได้เดินทางไปดูงาน และประชุมร่วมกับผู้ที่ทำงานด้านประกันภัยในแถบทวีปเอเชีย มาสองที่ บันทึกนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจต่างๆ จากการดูงานที่แรกกันก่อน                       

         

        ที่แรก: เป็นสถาบันด้านการประกันภัยของประเทศเกาหลีใต้ เป็นองค์กรที่ทำงานคล้ายกับสำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย ที่เราทำงานอยู่ ชื่อว่า The Korea Insurance Development Institute หรือ KIDI ตั้งอยู่ในเมืองหลวง Seoul (www.kidi.or.kr/eng/) เป็นองค์กรที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของบริษัทประกันภัย พร้อมกับปกป้องผลประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัย รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ด้วยวัตถุประสงค์ข้างต้นดังกล่าว KIDI จึงมีสถานะที่เปรียบเสมือนองค์กรที่วางตัวเป็นกลางระหว่างบริษัทประกันภัย และประชาชน นอกจากหน้าที่ดังกล่าวแล้ว KIDI ยังมีหน้าที่หลักที่สำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่ง คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลของการประกันภัยทุกประเภท เรียกได้ว่าเป็น Information Center ด้านการประกันภัยของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับข้อมูลของประเทศไทย

         

          ข้อมูลที่ KIDI ได้เก็บรวบรวมไว้ จะมีการวิเคราะห์ และสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันระหว่างบริษัทประกันภัย และผู้เอาประกันภัย เท่าที่ได้รับทราบเป็นข้อมูล มีอย่างหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือ  Compulsory Automobile Insurance Management Network โดย KIDI จะมีการเก็บข้อมูลของรถยนต์ทุกคันที่มีในประเทศ ทั้งข้อมูลด้านการประกันภัย ประวัติการเกิดอุบัติเหตุ การเปลี่ยนเจ้าของ ฯลฯ โดยเป็นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นกระบวนการสอบยันความถูกต้อง (Cross Check) ระหว่างข้อมูลที่ได้จากบริษัทประกันภัย และข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานของรัฐที่เรียกว่า National Police Agency และเมื่อมีผู้สนใจต้องการจะทราบข้อมูลของรถคันไหนก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของรถคันนั้นได้ผ่านทางเวบไซต์ของ KIDI แม้ว่ารถคันนั้นจะเป็นรถที่ไม่มีการทำประกันภัย (Uninsured Vehicles) ก็ตาม ทำให้เราทราบข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งของรถแต่ละคันอย่างละเอียดเลยทีเดียว ผู้บริหารของ KIDI บอกว่าปัจจุบันการให้บริการดังกล่าวได้รับความนิยมและมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก จึงเกิดความคิดว่าถ้ามีบริการนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็น่าจะได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ในประเทศเราขณะนี้ และคิดถึงความไปไปได้ในหลายๆ ด้านแล้วคาดว่าคงอีกหลายปีอยู่ทีเดียวจึงจะมีการให้บริการแบบนั้นในบ้านเรา            

         

          เสร็จจากการทำงานแล้ว ก็เป็นเรื่องการช้อปปิ้งและเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆ เคยได้ยินว่าหลายคนเดินทางไปเกาหลีเพราะวัตถุประสงค์หลักคือการช้อปปิ้ง ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องเดินทางไปไกลขนาดนั้น เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่มีในเกาหลี ที่เมืองไทยเองก็มีขาย แต่เมื่อได้พบกับแหล่งช้อปปิ้งที่เทียบได้กับสยามสแควร์บ้านเรา (อันนี้เป็นการเปรียบเทียบของตัวเองนะคะ) ที่เรียกว่า ถนนเมียงดง (Myeong-Dong Street) แล้วเลยรู้คำตอบทันทีว่าทำไม เพราะของที่วางขายที่บริเวณตลาดเมียงดง ด้วยคุณภาพที่เหมือนกัน เมื่อเทียบราคากับบ้านเราแล้ว ส่วนใหญ่ถือว่าถูกมากๆ โดยเฉพาะ เครื่องสำอางค์ (แต่ก็มีหลายอย่างที่คุณภาพสู้ของไทยไม่ได้) เที่ยวนี้เลยของฝากสำหรับทุกคนจึงล้วนแต่เป็นของที่มาจากตลาดเมียงดงเป็นส่วนใหญ่           

         

          ระหว่างการทัวร์รอบเมืองโซลกับเพื่อนอีกหนึ่งคนในคราวนี้ ได้พบชาวเกาหลีที่มีน้ำใจหลายคนเลยทีเดียว แต่ที่ปลื้มมากที่สุดก็คงจะเป็นหนุ่มเกาหลีผู้มีน้ำใจคนหนึ่ง ขณะที่เรากำลังหาทางไป Seoul Tower และพยายามจะถามหารถไฟใต้ดิน หรือว่ารถบัสที่จะไปถึง Seoul Tower หนุ่มคนนั้นก็พาพวกเราขึ้นรถบัสมาส่งตรงป้ายรถบัสอีกที่ ซึ่งเป็นรถบัสที่จะขึ้นไปถึง Seoul Tower เลย ทั้งที่ตัวเค้าเองต้องเดินทางกลับบ้านในอีกเส้นทางหนึ่ง โดยต้องขึ้นรถคันเดิมย้อนกลับไปอีกครั้ง หลังจากขอบคุณและโบกมือให้แล้ว ก็คิดได้ว่าน่าจะถามชื่อเค้า และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกนะ แต่คิดได้อีกที หนุ่มคนนั้นก็เดินกลับไปซะแล้ว

          ยังไงก็ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งแล้วกัน และจะจดจำน้ำใจที่น่าซาบซึ้ง และการเป็นเจ้าของบ้านที่ดีของเค้าไว้ตลอดไปเลยทีเดียว JJJ

หมายเลขบันทึก: 143308เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2007 17:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

ที่จะคุยนี้ นอกเรื่องค่ะ

  ตอนนี้ผู้คนเชื่อกันแล้วว่า

ดนตรีมีผลต่อพัฒนาการ ความสามารถในด้านคณิตศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ มีข้อเท็จจริงจากผู้เข้าแข่งขันรอบสุดท้ายของ Siemens Westinghouse Competition ในด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ว่าจำนวน 3 ใน 4 เป็นนักดนตรี "อัจฉริยะ" (Gifted Musicians)

คุณ Raynu
ว่า จริงไหมคะ และชอบดนตรีหรือเปล่าคะ

สวัสดีค่ะคุณศศินันท์

ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยม

เรย์เป็นคนหนึ่งที่รักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ เพราะมีความเชื่อตั้งแต่เด็กๆ ว่าการฟังดนตรีในแบบที่สบายๆ ช้าๆ จะช่วยให้เสริมสร้างพัฒนาการได้จริงๆ ค่ะ ซึ่งไม่เพียงแต่ด้านคณิตศาสตร์เท่านั้น ยังคงรวมถึงด้านอื่นๆ อีกด้วย

เคยมีคนบอกว่าสมองของคนเราแยกกันระหว่างส่วนที่เป็นตรรกะ และศิลปะ แต่เรย์ว่ามันน่าจะมีส่วนส่งเสริมกันได้ค่ะ

เรย์

ประเทศไทยจะทำอย่างเกาหลีได้บ้างไหมครับเนี่ย คิดแล้วยังหนักใจเลย เฮ้อ...

สวัสดีค่ะคุณเรย์

เรื่องประกันภัยรถยนต์ของบ้านเรายังอีกยาวไกลนะคะ ถ้าจะเทียบให้ได้อย่างเค๊า อยากให้มีจังเลยค่ะ เพราะกว่าคนที่ซื้อจะเช็คประวัติอุบัติเหตุได้ก็ช้าไปแล้ว..

เรื่องแหล่งช็อปปิ้งที่เกาหลีได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วค่ะ เอารูปมาเผื่อให้ดูบ้างนะคะ ยังไม่เคยไปเลยค่ะ

สวัสดีค่ะพี่อุ๊

  • ในประเทศไทยธุรกิจประกันภัยเพิ่งจะได้รับความสนใจและได้รับการพัฒนาให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับนานาประเทศทั่วโลกเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเองค่ะ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียแล้วถือว่ายังตามอยู่อีกหลายขั้นเลยค่ะ แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่างมาเลเซียเองก็พัฒนาไปไกลระยะหนึ่งแล้วค่ะ
  • การเก็บข้อมูลประวัติรถยนต์เป็นเรื่องดีดีที่น่าสนใจจริงๆ ค่ะ แต่คงต้องใช้เวลานานพอสมควรเพราะคงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนค่ะ
  • ถ้าให้เปรียบเทียบตลาดเมียงดง พี่อุ๊ลองนึกภาพสยามสแควร์บ้านเราก็น่าจะได้นะคะ แต่อาจต่างกันตรงที่ตลาดเมียงดงจะมีสินค้าพวกเครื่องสำอางที่ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยเกินครึ่งค่ะ

สวัสดีค่ะน้อง Job

หวังไว้เหมือนกันค่ะว่าคงต้องมีซักวัน :D

เรย์

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท