จากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับงานสุขภาพมาหลายปี ต้องคิดกลยุทธหลากหลายเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่เราดูแลหันมาดูแลสุขภาพต้วเองให้มากขึ้น เริ่มจากตัวเองและทีมงานต้องเป็นตัวอย่างก่อน แม้จะหุ่นไม่สวยแต่ต้องให้ดูดีแถมด้วยสุขภาพแข็งแรงทนทานไม่เจ็บป่วยบ่อย ซึ่งเราตั้งเป็นตัวชี้วัดของทีมงานที่ต้องดูแลสุขภาพ(คอยเตือนกันอยู่เสมอๆเพราะเผลอก็เห็นชัดเลย ยิ่งช่วงปีใหม่ ใช่มั้ย) การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจะต่างกันเพราะถ้าเป็นคนไข้ ที่มารับบริการที่ร.พ อยู่แล้ว เราจะapproach ได้ง่ายกว่า แต่การที่จะให้เขาสามารถปรับพฤติกรรมสุขภาพได้นั้นมันเป็นเรื่องของเทคนิคที่ต้องอาศัยยุทธวิธีที่เหนือชั้นกว่านั้นอีก
ซึ่งจะได้กล่าวและเล่าต่อ ส่วนกลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้วยกันแล้ว เราต้องใช้กลยุทธอีกแบบ คือเข้าถึงทุกคนประชิดตัวพูดคุยทุกครั้งที่พบ ถามไถ่และให้กำลังใจทุกที่ ให้ความสำคัญ กับเขาเสมือนหนึ่งสุขภาพของเขาคือสุขภาพของเราด้วย ขยันติดตาม ส่งใบนัดเข้ากลุ่ม ลปรร. ก่อแอร์วอร์ทั้งทางเสียง ใบปลิว ติดประกาศ ก็พบว่า ดีกว่าทำรูปแบบที่ไฟใหม้ฟาง ต้องทำอย่างนี้ต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละครั้ง(ถ้าจะดีต้อง2ครั้งเผื่อคนที่ไม่ว่างวันนั้นจะได้มีโอกาสเลือกบ้าง หวังอย่างนี้นะ) แต่ขณะนี้ไฟอ่อนมากเลยเพราะสีสันไม่ค่อยมี ไม่มีงบประมาณเลย จัดกลุ่ม ลปรร. ที่ไรต้องงัดของส่วนตัวมาเป็นรางวัลจนหมดตัว แต่ตั้งใจและอยากให้คนที่เข้าร่วมเกิดความสนุกสนานถึงแม้ว่าจะเป็นของรางวัลเล็กๆน้อยๆ แต่มันให้ความรู้สึกที่ดีกับคนที่ได้(เพราะตัวเองเคยได้และรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) การที่ใช้วิธีแบบนี้ทำให้เราได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่มากขึ้นด้วยแหละ ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นด้วย แต่ต้องคิดกลยุทธใหม่ๆตลอดนะอย่าซ้ำ เราเองทำไปคิดไป ใครมีวิธีแบบอื่นๆก็ร่วมแยม ลปรร. ด้วยนะคะ
ดีใจที่ได้เจอหนูอุ้ยใน GotoKnow นะคะ ลานแลกเปลี่ยนเรียนรู้กรมอนามัย ได้ขอเชิญหนูอุ้ยเข้าชุมชนด้วย หนูอุ้ยเข้าระบบไปอนุมัติให้หน่อยนะคะ
ถ้ามีการ ลปรร. ไปเรื่อยๆ อาจไม่ต้องใช้งบก็ได้นะคะ รอยยิ้มให้กันนั้น มันดีกว่ากันเยอะเลย