ตั้งคำถามให้ดีก็นำไปสู่การเรียนรู้ 1


 เมื่อวานก่อนนี้ ผมได้รับ Email จากคุณธวัช แห่ง สคส. แจ้งว่า ขอข้อมูลความเปลี่ยนแปลงในเชิง Business Outcome ที่เกิดขึ้นจากการใช้ KM ในโรงไฟฟ้า เพื่อนำไปเขียนในบทความลงในหนังสือรวมเรื่องราว KM ปี 2550 เนื่องจากบทความที่คุณน้ำ (จิรวรรณ สคส.) เขียนไว้เดิมนั้นเมื่อนำไปให้ อ.หมอวิจารณ์ท่านตรวจ ท่านได้แสดงความเห็นเอาไว้ว่ายังไม่เห็นข้อความที่แสดงให้เห็น Business Outcome 

คำถามดังกล่าวทำให้พวกเราทีมแกนนำ KM โรงไฟฟ้าแม่เมาะต้องไประดมสมองกันว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร เพราะว่าที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้มองประเด็นนี้มากเท่าไรนัก มองแต่ในประเด็นที่ว่า บรรยากาศในการทำงานดีขึ้น และเชื่อว่าผู้ปฏิบัติงานจะนำความรู้ที่ได้จากวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปใช้เมื่อตนได้เจอกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งความเชื่อดังกล่าวก็ไม่ได้ผิด แต่ว่าเท่าที่เห็นมีปรากฎ Outcome ชัดเจนก็มีไม่มากอย่างที่น่าจะเป็น 

จากคำถามดังกล่าว ได้นำไปสู่โจทย์ขั้นต่อไปว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แล้วจะทำอย่างไรจึงจะทำอย่างไรจึงจะให้เห็น Business Outcome ดังกล่าวชัดเจน และมีปริมาณมากขึ้น ซึ่งเมื่อปรึกษากันแล้ว เราได้แนวทางที่จะดำเนินการต่อไปว่า ต้องหาทางให้เรื่องดี ๆ ที่น่าจะขยายผลได้เลยทันที ได้เป็นที่รับทราบของผู้บริหารในหน่วยงานต่าง ๆ ที่น่าจะนำไปขยายผล ผ่านเวทีการประชุมผู้บริหาร ซึ่งเรื่องนี้ ทางผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา ก็ได้ให้คณะทำงานฯ แจ้งผู้นำเรื่องดี ๆ มาเล่า ให้ไปเล่าเรื่องในที่ประชุมระดับผู้บริหารของฝ่าย เพื่อจะได้มีการติดตามการนำไปขยายผลได้มากขึ้น และยังมีเวทีอื่น ๆ ที่มองเห็นว่าสามารถจะขยายผลในลักษณะนี้ได้อีกมาก 

จากเรื่องนี้ ทำให้เห็นจริงได้อย่างที่มีผู้กล่าวไว้หลาย ๆ ท่านว่า การตั้งคำถามที่ดีเป็นจุดเริ่มของการเรียนรู้ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมเคยอ่าน Blog ของ อ.ประพนธ์ แล้วไม่เข้าใจ ก็เลย Post ข้อความถามท่าน ซึ่งปรากฎว่าคำถามจากความไม่เข้าใจของผม ได้สะกิดใจ ทำให้ท่านฉุกคิดต่อยอดขึ้นไปได้อีกเหนือไปจากประเด็นที่ผมถาม จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายดังที่ อ.วรภัทร ภู่เจริญ ได้กล่าวไว้ว่า ระบบการศึกษาไทย (ในสมัยของ อ.วรภัทร และในสมัยที่ผมเรียน) ไม่ค่อยสอนให้นักเรียนนักศึกษารู้จักการตั้งคำถามเพื่อการเรียนรู้เท่าไรนัก  

ปิดท้ายบันทึกนี้ด้วยเรื่องขำขัน เกี่ยวกับการตั้งคำถาม ที่ฟังมาจาก อ.ประสาร  มฤคพิทักษ์ ซึ่งท่านบอกว่า อ่านมาจากหนังสือพิมพ์เมื่อหลายปีก่อน เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายปีก่อน หลังจากที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรครัฐบาล ซึ่งแม้จะผ่านการลงมติไว้วางใจได้ แต่ท่านนายกก็รู้สึกว่าพรรคฝ่ายค้านมีวิธีการฝึกคนมาทำงานได้ดีมาก เมื่อได้พบหน้ากันเป็นการส่วนตัวในภายหลัง ท่านนายกจึงได้เข้าไปถาม

ท่านผู้นำฝ่ายค้านครับ คนในพรรคของท่านอภิปรายได้ประเด็นเฉียบคมจริง ไม่ทราบว่าพรรคท่านมีวิธีการฝึกคนอย่างไรบ้างครับ

พรรคเราใช้วิธีการตั้งคำถามบ่อย ๆ ให้คนในพรรคได้คิดกัน ก็จะทำให้สมองเฉียบแหลมขึ้นเรื่อย ๆ เดี๋ยวผมจะสาธิตให้ดูนะครับ ผู้นำฝ่ายค้านตอบด้วยเสียงนุ่มเนิบ พร้อมเรียก สส.หนุ่มไฟแรงในพรรคที่เดินผ่านมาพอดีเข้าไปถาม

คุณ สส. หนุ่ม.. ช่วยตอบหน่อยว่า ใครเอ่ย เขาไม่ใช่พี่คุณ ไม่ใช่น้องคุณ แต่เขาเป็นลูกของพ่อแม่คุณ เขาคนนั้นเป็นใครครับ.. 

เพื่อให้สนุกและบันทึกนี้ไม่ยาวเกินไป ขอตัดตอนไปเขียนต่อในบันทึกหน้า ให้คนอ่านลองตอบคำถามของผู้นำฝ่ายค้านดูก่อนเปิดอ่านบันทึกต่อไปครับ...

คำสำคัญ (Tags): #no tag
หมายเลขบันทึก: 142015เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2007 11:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท