ท่าที่ 1 ครอบดวงตา โค้งอุ้งมือทั้งสองครอบดวงตาไว้เฉย ๆ
ระวังอย่าให้อุ้งมือกดทับดวงตา นึกถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เช่น วันพักผ่อนสุดสัปดาห์ตามป่าเขาหรือชายทะเล อยู่ในท่านี้สัก 10 นาที
ท่าที่ 2 สร้างจินตภาพ ต่อจากท่าที่ 1 ยังคงครอบดวงตาอยู่
สร้างจินตภาพว่าตนเองกำลังมองวัตถุบางอย่างที่มีสีสันสดใส
มีรายละเอียดต่างๆ ที่ชัดเจน เช่น มองเห็นดอกเบญจมาศสีเหลืองสวย เห็นกลีบดอกแต่ละกลีบละเอียดชัดเจน สายตาที่คมชัดจากจินตนาการของเราเองจะช่วยเยียวยาสายตาจริง ๆ ของเราได้เป็นอย่างดี
ท่าที่ 3 กวาดสายตา มองแบบไม่ต้องจ้อง
(คนสายตาสั้นมักจ้องและเขม้นตา) กวาดสายตาไปตามวัตถุที่อยู่ไกล ๆ ทางโน้นบ้างทางนี้บ้างทำให้ตาของเราได้ผ่อนคลาย
ท่าที่ 4 กะพริบตา ฝึกนิสัยให้กะพริบตา 1-2 ครั้ง
ทุก ๆ 10 วินาที ช่วยให้แก้วตาสะอาดและมีน้ำหล่อเลี้ยง โดยเฉพาะคนที่สวมแว่นหรือคอนแท็กต์เลนส์ยิ่งจำเป็น
ท่าที่ 5 โฟกัสภาพใกล้และไกล เหยียด
แขนซ้ายไปให้ไกลที่สุด ตั้งนิ้วชี้มือซ้ายขึ้นเพื่อเป็นจุดโฟกัส ขณะเดียวกัน ตั้งนิ้วชี้มือขวาให้ห่างจากใบหน้าสัก 3 นิ้ว (7.5 ซม.) โฟกัสภาพที่แต่ละนิ้วสลับกันไปมา ทำบ่อยๆ เมื่อโอกาสอำนวย
ท่าที่ 6 ชโลมดวงตา ตื่นนอนทุกเช้าใช้มือวักน้ำ
ชโลมดวงตาด้วยน้ำอุ่น สัก 20 ครั้ง
สลับกับการวักน้ำเย็นชโลมดวงตาอีก 20 ครั้ง
ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาดีขึ้น
การจบด้วยน้ำเย็น ทำให้กล้ามเนื้อตาและหนังตา
กระชับไม่หย่อนยาน ก่อนเข้านอนให้วักน้ำ
ชโลมดวงตาอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ชโลมด้วยน้ำเย็น
ก่อนแล้วตามด้วยน้ำอุ่น จะทำให้กล้ามเนื้อตา
และหนังตาได้ผ่อนคลาย ก่อนเข้านอน
ท่าที่ 7 แกว่งตัว ยืนแยกเท้าเท่ากับช่วงไหล่
แกว่งตัวไปมาจากซ้ายไปขวา ถ่ายน้ำหนักตัวบนขา
แต่ละข้างสลับไปมา สายตามองไปไกลๆ แต่ไม่ต้องจ้อง
ปล่อยให้จุดที่เรามองแกว่งไปมาซ้ายขวาตามการแกว่งตัว
ท่านี้จะทำให้ดวงตาได้พักและมีการปรับตัวดีขึ้น
ทำบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาสเปิดเพลงคลอไปด้วยก็ได้
”วิธีของเบตส์” ได้รับการยืนยันจากจักษุแพทย์จำนวนมากว่า
เป็นการฝึกดวงตาที่เป็นระบบช่วยรักษา สายตาคนไข้ได้เป็นจำนวนมาก
ไม่มีความเห็น