เวลา ๐๘.๓๐ น.เมื่อวานนี้มีการประชุมระหว่างนายกสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา กับอธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนา คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ คณบดีสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ คณบดีสำนักวิชาสหเวชศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์ และดิฉัน ที่ห้องประชุมชั้น ๓ อาคารจามจุรี ๔ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อคุยเรื่องงานโครงการด้านวิทยาการสุขภาพที่ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เคยบันทึกไว้ (อ่านที่นี่)
ท่านนายกสภาได้เล่าให้พวกเราฟังว่าได้คุยไอเดียนี้กับคนของหน่วยสนับสนุนทุนระดับนานาชาติ เช่น China Medical Board, คนที่เคยอยู่มูลนิธิ รอคกี้เฟลเลอร์ ฯลฯ ต่างก็ให้ความสนใจ จึงอยากถามความเห็นว่าจะเอาจริงหรือเปล่า “ถ้าเงินมาจะเดือดร้อนถ้าไม่เอาจริง ถ้าเอาจริงก็มีช่องทาง จะประสานกันได้จริงไหม มีผู้นำ มี champion ไหม” ถ้าเป็นแบบเดิมก็ไม่กล้าที่จะเสนอ project
ท่านนายกได้ลองสืบค้นเรื่องเกี่ยวกับ multiprofessional education พบว่ามี references อยู่มากพอสมควรและท่านได้กรุณา save ใส่ใน CD มาให้ด้วย ท่านเล่าว่าที่ Sweden ทำก่อนเพื่อน นอกจากนี้ยังได้พูดถึงปัญหาการขาดแคลนพยาบาลว่าเป็นประเด็นใหญ่ของโลก ตัว nursing ที่ขาดคือ nursing ที่จะยกระดับบริการสุขภาพของประเทศ ไม่ใช่เพียงเรื่องปริมาณ การผลิตเภสัชกรก็เช่นกัน ปัจจุบันอาจมีอยู่เกิน แต่ที่ผลิตออกมานั้นไม่ตรงกับความต้องการของประเทศ เดี๋ยวนี้สาขาด้านกายภาพบำบัด สาธารณสุข ก็เปลี่ยนไปมากแล้ว คนละเรื่องกับแบบเก่า
การจะทำงานตามที่ท่านนายกสภาฝันอยากเห็น ต้องคิดและมีวิธีการทำงานอีกแบบ ไม่ใช่แบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย ถ้าต่างคนต่างทำไม่รวมหัวกันคิด ก็จะไม่ work
อธิการบดีได้ชี้แจงว่าทีมได้ทำอะไรไปแล้วบ้างเพื่อพยายามจะนำไปสู่จุดที่นายกสภาต้องการ แต่ยอมรับว่าการทำงานยังช้าอยู่ คณบดีบางท่านก็บอกว่าสำนักวิชาของตนเองทำอะไรไปบ้างที่เห็นว่าแตกต่างไปจากเดิมหรือแตกต่างจากที่อื่นๆ
ในการประชุมครั้งนี้ท่านนายกสภาได้ตั้งคำถามและใช้คำพูดให้เราได้คิดลึกๆ หลายครั้ง เช่น “เรายังเปลี่ยนไม่มากพอ ยังยึดในกรอบเก่า” ต้องคิดแบบ “พลิกหัวเป็นหาง พลิกหางเป็นหัว” “๕-๖ คนตรงนี้รวมวิญญาณเป็นหนึ่งหรือยัง”
ดิฉันสังเกตบรรยากาศของการประชุมแล้วรู้สึกว่าบางคนยังไม่มี inspiration ในการที่จะทำเรื่องนี้แรงพอ บางคนบอกว่าไม่รู้ชัดว่าจะให้ทำอะไร บางสำนักวิชาห่วงว่าตนยังใหม่และมีงานล้นมือ หรือบอกว่าใครทำได้ก็ทำไป ค่อยๆ ทยอยทำ
สิ่งที่ท่านนายกสภาอยากเห็นเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก คนทำงานต้องมี transformation ถ้าคิดแบบเดิม ติดอยู่ในกรอบเดิม จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ดิฉันเสนอว่าทุกคนที่จะทำงานนี้ต้องเปิดใจกว้าง และน่าจะมีคนที่ทำหน้าที่เป็น “คุณอำนวย” ช่วยจัดกระตุ้นและประสานให้ทุกสำนักวิชา “สุมหัว” กันคิดและช่วยกันทำเรื่องนี้
ช่วงสุดท้ายเราประชุมกันเอง เพราะท่านนายกสภาติดภารกิจ ที่ประชุมสรุปให้ ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร รองอธิการบดีฝ่ายแผนและพัฒนา ทำหน้าที่ประสานกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดการพัฒนา proporsal ต่อไป
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๐