ความสับสนระหว่าง “การจัดการความรู้” กับ “ระบบสนับสนุน” การจัดการความรู้


เป็นสาเหตุแห่งความเครียดของคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการจัดการความรู้ใหม่ๆ

ตั้งแต่ผมเข้ามาใน วงการนักจัดการความรู้ก็เริ่มสับสนกับแนวคิดทั้งสองแนวที่ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันคือ 

 การจัดการความรู้ กับ ระบบสนับสนุนการจัดการความรู้ 

ที่ต้องมีทั้งสองอย่าง

 แต่การนำเสนอส่วนใหญ่ที่ผมได้ยินมานั้น มักจะพูดปะปนกัน จนบางครั้งเป็นเป็นเรื่องเดียวกันก็มี 

และเป็นสาเหตุแห่งความเครียดของคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการจัดการความรู้ใหม่ๆ และข้อจำกัดในความก้าวหน้า ในการเรียนรู้ การจัดการความรู้เพราะยังแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร 

เพราะเปิดเวทีมาก็เจอ คุณกิจ  คุณอำนวย คุณเอื้อ คุณประสาน” “คุณลิขิต และ คุณวิจารณ์  รวมทั้งอีกไม่รู้ต่อกี่คุณ มึนไปหมด 

โดยอาจไม่บอก หรือเตือนกันล่วงหน้า ว่า คุณ ต่างๆ เหล่านี้มาทำหน้าที่ สนับสนุน การจัดการความรู้ ไม่ใช่เป็น กระบวนการจัดการเรียนรู้หรือ การจัดการความรู้ แต่อย่างใด 

เพราะ การจัดการความรู้ เป็นการพัฒนา การเรียนรู้ ที่อยู่ภายใน

·        ระบบคิด

·        ระบบความรู้

·        ระบบความเข้าใจ

·        ระบบการพัฒนาปัญญา

·        ระบบพัฒนาความสามารถ 

ที่มีแต่ตัวและระบบคิดของ ผู้จัดการความรู้ ที่จะต้องทำเอง ใครทำแทนไม่ได้แน่นอน 

เพราะคนทำจริงๆจนมีประสบการณ์จึงรู้ คนรู้แล้วจึงนำความรู้มาจัดการความรู้คนเรียนเป็นคนทำ คนทำจึงได้เรียนรู้ 

คนอื่นๆ หรือ คุณ ต่างๆ เป็นแค่พี่เลี้ยง และคอยดูแลว่า คนที่กำลังจัดการความรู้ ได้ทำอย่างสะดวก สบายใจหรือไม่

·        มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง

·        มีขีดจำกัดข้อใดที่ต้องหนุนช่วย

·        มีข้อมูล และความจริงข้อใดที่ เขา-คนที่กำลังจัดการความรู้ ควรรู้ ควรเข้าใจ

·        เขา กำลังติดขัดอยู่ในเรื่องใด ประเด็นใด

·        เขา ต้องการ และ มีความจำเป็นที่จะได้รับการช่วยเหลือในเรื่องใด

·        คุณ ต่างๆ ต้องวางตัวอย่างไร

·        ควรสนับสนุน อำนวย เอื้อ ประสาน ลิขิต วิจารณ์ อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เท่าไหร่ อย่างไร ทำไมต้องทำ หรือไม่ต้องทำ

·        วางจังหวะในการ เข้ามวย (จังหวะ ท่าทาง และท่าที) ให้พอดีกับที่ เขา ต้องการ และจำเป็นต้องมี 

ผมจึงเคยกล่าวไว้ว่า คุณ ทั้งหลายเหล่านี้ จะต้อง รู้ เข้าใจ และตระหนัก ทั้งในส่วนของตัวเอง  

ไม่ใช่เป็นแค่ตำแหน่ง ทำตามหน้าที่ โดยไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง 

และ คุณ ทั้งหลายต้องมีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และเคยทำสิ่งต่างๆเหล่านี้มาก่อน  มีความรู้เพียงพอที่จะอำนวย เอื้อ ประสาน ลิขิต วิจารณ์ ที่สามารถ สนับสนุน การเรียนรู้ การจัดการความรู้ ของบุคคลในเป้าหมายได้ 

เราควรจะลดความสับสนในเรื่องนี้ เพื่อทำให้เราเข้าใจตรงกัน และทำในเรื่องแตกต่างกัน แต่เป้าหมายในการทำดีเพื่อสังคมร่วมกันครับ 

หมายเลขบันทึก: 141208เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2007 19:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ดีใจมากเลยครับที่ได้รับรู้ความคิดเห็นของดร.ในวันนี้ครับ

มนุษย์เราเรียนรู้อย่างเดียวไม่ใช่แต่ความรู้ที่เรียนมานำมาใช้ให้เหมาะสมและพอเหมาะในวิถีชีวิตดร.นี่สิจะได้รับการผ่อนคลายเปรียบเหมือนน้ำที่สะอาดในบ่อถ้าเอาแต่เติมอย่างเดียวอย่างไรเสียวันหนึ่งน้ำก็เน่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในนั้นก็ตายหมด ความรู้ที่ดร.ขัดเกลาจนรู้ว่าจะถูกใช้อย่างไรแล้วนำมาถ่ายทอดออกไปเป็นวิทยาทานหรือในอาชีพที่ไม่ได้มุ่งเอาแต่หวังผลกำไรหรือประโยชน์ตนแล้วนั้น จะทำให้ดร.รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเกิดขึ้นมาอย่างอัศจรรย์ ชีวิตและสุขภาพของตนเองก็ดีมีสุขครับ.........

สวัสดีค่ะ อ.แสวง

ราณี คงไม่มีโอกาสไปสอนใครหรอกค่ะ เพราะก็เรียนรู้เหมือนกัน แต่เป็นฝ่ายสนับสนุนได้ค่ะ ขอบคุณที่เขียน  เพราะแรก ๆ ราณีก็งง กับคุณ ๆ ทั้งหลาย เหมือนกัน       

สวัสดีค่ะ

ตอนแรก ดิฉันก็งงๆกับคำว่า KM เหมือนกัน แต่ต่อมา จับหลักให้ตัวเอง ตามความเข้าใจส่วนตัวที่มาเป็นสมาชิกอยู่ ในระดับปัจเจก  ได้ดังนี้ค่ะ เรื่องนี้ เฉพาะที่GotoKnowนะคะ

1.นำเอาความรู้ที่เรามีอยู่มาแบ่งปันกัน เล่าสู่กันฟัง อย่างที่นิยม เป็นชุมชนบล็อกอย่างGotoKnow เป็นลักษณะ Community of Practice

2.นำเอาความรู้เหล่านั้น มาเก็บรักษาไว้ เป็นแหล่งความรู้ เป็นAssets

3.ชุมชนที่เราอยู่ด้วยกันตรงนี้ เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ค่ะ

4.ถ้าเราเก็บความรู้ไว้ในบันทึกของเรา ไปเรื่อยๆ เราก็รู้กันอยู่ในวงของเรา 

5.อีกขั้นหนึ่ง คือจะเป็นการเผยแพร่ออกไปสู่วงนอกค่ะ  ซึ่งอาจจะมีการเผยแพร่ไปในลักษณะส่วนตัวก็ได้

6.กรณี เป็นลักษณะองค์กร ก็จะต้องมีคุณอำนวย คุณลิขิต ที่จะมาสนับสนุนการเรียนรู้ ของบุคคลเป้าหมายได้ และอาจมีการเผยแพร่ ความรู้ ในลักษณะองค์กรต่อองค์กรได้ เป็นแบบเครือข่าย

ไม่ทราบดิฉันเข้าใจถูกต้องไหม ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

สวัสดีครับPและP

และ

chashval sang mhchai

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าเราจะต้องพัฒนาอย่างสอดคล้องกัน ทั้งผู้สนับสนุน และผู้จัดการความรู้

ที่จริงเรื่องนี้ผมก็เคยสะกิดมานานแล้ว แต่ดูเหมือนยังมีคนไม่เข้าใจ ก็เลยนำมาเน้น และขยายความอีกครั้งหนี่งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท