จากการผู้เขียนได้ศึกษาข้อมูลวัดที่สำคัญๆในจังหวัพิษณุโลก เพื่อเตรียมข้อมูล ในโครงการแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก กับคณะทำงานข้อมูลท้องถิ่นข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค โครงการก็ยังชะลออยู่ เก็บไว้กับตัวเองก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด กอปรกับน้องออดเปิดหลักสูตร ศึกษา จิตรกรรมพื้นถิ่นภาพฝาผนัง ของอีสาน แล้วพลาดพิงถึงวิทยาเขต สองแคว จะไม่เขียนได้อย่างไร นำข้อมูลของต้วเองออกมาบ้าง ตามเจตนารมณ์น้องออต คือชี้ทางในการทำงานของกันและกันมากขึ้น คือ วัดไผ่ขอน้ำที่เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของพิษณุโลกเลยนะคะ
วัดไผ่ขอน้ำ ตั้งอยู่ที่ บ้านไผ่ขอน้ำ ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม เดิมชื่อวัดกฎีราย ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด มีโบราณสถานที่สำคัญของวัดคือ หอสวดมนต์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องมหาเวสสันดรชาดกครบทั้ง ๑๓ กัณฑ์ มีความงดงามมากที่สุดเท่าที่พบในจังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่า เขียนในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีภาพพระบถ สันนิษฐานว่า เขียนขึ้นพร้อมกันกับจิตรกรรมฝาผนัง โดยจิตรกรคนเดียวกัน เขียนลงบนผืนผ้าขาวเป็นเรื่องพระมหาเวสสันดร มีอยู่ ๑๓ ภาพ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๕ ดังภาพนี้นะคะ
และทางวัดได้จัดเก็บ ธงช้างเผีอก ไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในอดีตจนถึงสมัยรัชกาลที่ 4 คนไทยไม่เคยมีธงชาติของตนเอง ธงช้างเผือกนับเป็นธงชาติผืนแรกของประเทศไทย สืบเนื่องจากในรัชกาลสมัยนั้น ประเทศต้องทำการค้าขายกับต่างชาติ ประเทศในตะวันตกได้ใช้ธงของตนเองประดับเรือ เพื่อบ่งบอกสัญชาติของเรือ เริ่มแรกรัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำรัสให้ใช้ธงสีแดงทั้งผืน แต่ต่อมาจึงปรับเอาตราช้างเผือก อันเป็นส่วนประกอบในตราแผ่นดิน เข้าไปประดับไว้ในธงผืนธงสีแดง ซึ่งชาวต่างชาติในยุคนั้นรู้จักดี
จากความตั้งใจของผู้เขียน คิดอยู่นานที่เดียวที่นำเสนอสิ่งที่สำคัญที่อยู่ในวัดไผ่ขอน้ำแห่งนี้ เพียงเพื่อให้ชนรุ่นหลังมีโอกาสได้ศึกษาข้อมูลมรดกของชาติอันทรงคุณค่าเท่านั้น จึงมิได้อ้างอวดแต่อันใด
พี่สุวรรณาครับ
ดูแล้วยังมีของดีที่ต้องการบอกเล่าอยู่อีกเยอะเลยนะครับ
เหรียญหลวงพ่อแดงตอนนี้เล่นหาบูชากันแพงหรือป่าวคับ
คุณไม่แสดงตน เดี๋ยวถามเซียนโหน่งให้นะคะ อิอิ