ครานี้ เราเริ่มมาลงลึกให้ถึงแก่นใจของข้าวกันอีกวาระหนึ่ง นั่นคือเทคนิคการปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าว คุณรู้มั๊ย เรื่องเทคนิคสำคัญตัวนี้ นักเรียนชาวนาเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เรียนกันง่ายๆ เพราะหลักสูตรนี้คือหัวใจหลัก ข้าวขวัญ จึงจัดระดับหลักสูตรไว้เป็นระดับสูงสุด คือ นักเรียนชาวนา จะได้เรียนหลักสูตรนี้ ก็ต่อเมื่อ สามารถผ่านการเรียนรู้ใน 2 หลักสูตรแรก คือ หลักสูตรการจัดการศัตรูพืชโดยชีววิธี และหลักสูตรการปรับปรุงบำรุงดินโดยชีววิธี เพราะฉนั้ นถ้านักเรียนชาวนาคนใด ก้าวเข้าสู่หลักสูตรนี้ได้แล้ว ให้คุณมั่นใจได้เลยว่า นักเรียนคนนั้น มีพื้นฐานความรู้เชิงเทคนิคในการพัฒนาระบบเกษตรที่ค่อนข้างเต็มเปี่ยมแล้ว...การันตีโดยข้าวขวัญนี่แหล่ะ.....
การปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชาวนาให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์ข้าวได้ด้วยตนเอง
เกิดขึ้นจากการที่เห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน
บริษัทเมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่กำลังเข้ามามีบทบาทในการควบคุมเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์
โดย
เฉพาะเมล็ดพันธุ์ข้าว ที่เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของชาวนา
ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับพันธุ์ข้าวกำลังถูกถ่ายโอนไปสู่ธุรกิจภาคเอกชนมากขึ้น
เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกถูกผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทเมล็ดพันธุ์
ชาวนาต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ในราคาที่แพงขึ้น
อีกทั้งพันธุ์ข้าวที่มีการพัฒนาขึ้นโดยบริษัทธุรกิจหรือหน่วยงานราชการมักจะตอบสนองต่อการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีอัตราที่สูงทำให้ต้นทุนการผลิตของชาวนาสูงขึ้น
นอกจากนี้พันธุ์ข้าวที่พัฒนาขึ้นมักจะไม่เหมาะสมกับระบบการทำนาของชาวนา
ทำให้ชาวนาต้องปรับระบบการทำนาของตนไปตามพันธุ์ข้าวที่ตนเองปลูก
กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวนา
ในขณะที่พบว่าความหลากหลายของพันธุ์ข้าวที่ชาวนาลดลง
ทำให้การทำนามีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดโรระบาดข้าวได้ง่าย
ปัญหาอีกประการหนึ่งคือพบว่าบริษัทเมล็ดพันธุ์ได้พากันเก็บรวบรวมพันธุ์พืชต่างๆ
ไว้เป็นจำนวนมาก
เพื่อหวังผูกขาดความรู้การพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ในอนาคต
เหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ของชาวนาให้สามารถพึ่งตนเองได้ในเรื่องเมล็ดพันธุ์
รวมทั้งการสนับสนุนให้เกิดระบบการผลิตที่เหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวนา
จะทำอย่างไรจึงจะได้ข้าวพันธุ์ดี
1.
จะต้องมีการเก็บรวบรวมพันธุ์ให้มีความหลากหลาย
โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีการปรับตัวได้ดีในพื้นที่นั้นๆ
2. การเก็บรวบรวมจากภายนอก
อาจใช้วิธีการแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายชาวนาหรือจากธนาคารเชื้อพันธุ์
3. จะต้องมีการปลูกทดสอบพันธุ์
เพื่อศึกษาลักษณะประจำพันธุ์คัดเลือกไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อไป
4.
จะต้องมีความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการปรับปรุงพันธุ์
ว่าจะทำการปรับปรุงพันธุ์ไปเพื่ออะไร
5.
ต้องเข้าใจว่าการผสมพันธุ์เป็นการเติมลักษณะต่างๆ
เข้าไปเพื่อสร้างตัวเลือกที่จะเกิดในชั่วลูกชั่วหลาน ให้มากขึ้น
6.
จะต้องมีการคัดเลือกพันธุ์หลังการผสมเพื่อหาพันธุ์ที่ต้องการ
ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาพอสมควร
สิ่งที่ควรรู้สำหรับการคัดเลือกข้าวเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงพันธุ์
จะต้องรู้จักลักษณะพันธุ์ข้าวที่ตนเองสนใจ เช่น ลักษณะลำต้น สี อายุ
รสชาติ ความต้องการน้ำและแสง ตัวอย่างเช่น
ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวไวแสง (ข้าวปี) เปลือกสีฟาง ข้าวสารสีขาวใส
เมล็ดยาว ไม่เป็นท้องไข่หรือท้องปลาซิว คอรวงยาว เวลาหุงมีกลิ่นหอม
นุ่ม รสชาติอร่อย ดังนี้เป็นต้น
อย่าได้คิดเชียว ว่าหมูๆ
เพราะเราต้องคุยและศึกษาเรื่องนี้กันอีกยาวนัก...ว่าแต่ คุณล่ะ
อย่าล้ากันซะก่อน
เพราะของดีมักจะมีมาอวดเป็นระยะๆ