บทกวี


..ทุกสิ่งบนโลกล้วนเป้น..ครุ..ได้ทั้งนั้น

ฉันเป็นครูสอนวิชาพลศึกษา..สอนเกี่ยวกับเล่นกีฬา
การออกกำลังกาย..การดุแลสุขภาพ..ไงถึงมานิยมชื่นชอบ
กับบทกวี..อักษรกลอน..ต่างๆได้..ถ้าจะพุดกันแบบตรงๆคือไปคนละทางเลย..ด้านหนึ่งแข็งกระด้าง..อีกด้านอ่อนไหวด้านอารมณ์..ทำไมถึงมารวมในตัวคนเดียวกันได้..ไม่คิดว่าตนเอง
จะเข้ามานั่งคิดเขียนอารมณ์เพ้อฝันแบบนี้..สาเหตเกิดจาก.
การได้เข้าสู่โลกไอทีนี้แระ..มานั่งเล่นเจ้าหน้าเหลี่ยมก้อค้นหาอะไร.อ่านไปเรื่อยๆจนไปเจอบ้านกลอนไทยก้อเข้าไปอ่าน
อ่านไปอ่านมา..อยากจะเขียนบ้าง..ตอนนั้นก้อกำลังอกหักพอดี..จึงเขียนไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นตอนนั้น..พอเขียนเสร็จลงสมัครโพลลงไปม่เพื่อนในบ้านกลอนเข้ามาให้กำลังใจ..
แล้วก้อมีหลายท่านเข้ามาแนะนำหลักการเขียนกลอนให้ทราบโดยการสอนในเอ็ม.คุยกันก้อเขียนไปส่งให้ดู..แนะนำกันเรียนกันในหน้าเหลี่ยมจนในที่สุดก้อสามารถแต่งกลอนได้ถูกต้องตามหลักฉันทลักษณ์..เขียนได้ดีขึ้น..ทั้งที่ความรู้ทางด้านภาษาไทยตั้งแต่สมัยเรียนส่งคืนครูเก่าๆไปหมดแล้ว.
แล้วมาเจอครูสอนในเอ็ม..ในโลกไอที..ทำให้เกิดการเรียนรู้
ต่างๆมากมาย..ขอขอบคุณทุกท่าน..ในโลกไอที..
ที่เข้ามาให้รู้จักและแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ต่างๆซึ่งคิดว่าถ้าในโลกจริงก้อไม่ได้เรียนรู้แบบนี้แน่นอน...ขอคารวะคุณครูโลกไอทีทุกท่านด้วยความเคารพค่ะ..

กลอนบทแรกที่เขียน...17ก.ค48


ดวงตะวันย่ำรุ่ง


เมื่อดวงตะวันเดินทางยามย่ำรุ่ง
โปรยสีรุ้งเรืองรองโลกผ่องศรี
ทุกชีวิตตื่นขึ้นมาจากยามราตรี
โลกวันนี้สดใสเป็นไปในทุกๆวัน
ฉันวันนี้ยังอยู่ในโลกกว้าง
ถึงอ้างว้างทนได้ไม่หลบหนี
ความเหงาความเศร้ายังคงมี
แต่ชีวีผงาดกล้าค่าของคน
ชีวิตนั้นยังต้องสู้อยู่ในโลก
ทุกข์กับโศกเป็นธรรมดาอย่าหมองไหม้
กับโลกนี้ชีวิตฉันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร
คนเราใช้สมองตรองดูสู้อย่างมั่นใจ
เดินไปเถอะตามทางของชีวิต
คงพบมิตรจริงแท้ไม่ใช่แค่ฝัน
สร้างคุณงามความดีอุดหนุนกัน
มิตรสัมพันธ์ไม่ดับเหมือนกับตะวัน


กลอนบทนี้เขียนเมือ..9  ส.ค  50


365วันฉันมีน้ำตาเป็นเพื่อน


365..วันฉันมีน้ำตาเป็นเพื่อน
เปรียบเสมือนคู่ใจไม่ห่างหนี
หยดน้ำตาท่วมท้นทบทวี
และไม่มีวี่แววจะจากไป

..365..วันฉันพบคบความเศร้า
เปรียบเป็นเงาเคล้าเคลียคุณเชื่อไหม
เข้าครอบคลุมคลอบงำจำขังใจ
ชลนัยน์นองท่วมหน้าดั่งฝนพรำ

..365..วันนั้นฟ้าเป็นสีหม่น
โลกมืดมนค้นพบทุกคืนค่ำ
เหมือนหัวใจคลอบคลุมปีกสีดำ
ชะตากรรมทำให้สิ้นศรัทธา

..365..วันฝันนั้นสิ้นสลาย
เคยเคียงกายหายไปใจครวญหา
เฝ้าทอฝันพันเกี่ยวเรียงร้อยมา
อนิจจาหาฝันร่วงสู่ดิน

มีความแตกต่างกันบ้าง
ถึงแม้จะเขียนไม่ได้ดีเท่าไหร่
แต่ก้อถูกต้องตามหลักการเขียนกลอนแระเนาะ..
 
 

 

หมายเลขบันทึก: 136701เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2007 16:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ เป็นคนชอบอ่านกลอนเหมือนกัน กลอนที่แต่งไพเราะดีค่ะ  แต่แอบเหงาไปนิดนะคะ เป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นเรื่องไม่สบายใจไปให้ได้นะคะ

กลัวว่าจะผิดหวัง  กลัวพลาดพลั้งเสียน้ำตา

กลัวคนจะบ่นว่า  กลัวขายหน้ากลัวอับอาย

กลัวว่าจะทำผิด  แม้เพียงคิดกลัวเจียนตาย

ชีวิตไม่ได้เลวร้าย  แล้วทำไมจะต้องกลัว

............................................................

เอ..เกี่ยวกันไหมเนี่ย....

   อยากจะเด็ดดอกไม้ให้คนเหงา
อยากจะเอาดวงดาวมาปลอบฝัน
อยากจะเก็บแสงทองแห่งตะวัน
อยากจะเก็บนวลจันทร์มาให้คุณ 

  หยุดน้ำตาคว้าดาวไปแซมผม
หยุดระทมห่มตะวันให้อบอุ่น
หยุดซึมเศร้าลาจันทร์ก่อนอรุณ
หยุดเคืองขุ่นเงียบเหงาในหัวใจ

   จงโผผินบินร่อนถลาลม
จงรื่นรมย์มองหาผืนฟ้าใส
จงมองโลกค้นหาความกว้างไกล
จงทำใจทุกอย่างอนิจจัง
    
     365 วันนั้นแสนยาว
จะซึมเศร้าไปใยกับความหลัง
ปลุกปลอบใจสร้างฝันสร้างพลัง
เก็บความหวังใส่กระเป๋าแล้วก้าวเดิน

     มองหาเพื่อนหามิตรหาสหาย
พร้อมท้าทายหัวใจไม่ขัดเขิน
แม้ทุกข์บ้างสุขบ้างกล้าเผชิญ
อย่าหมางเมินปรุงแต่งในหัวใจ  

แอบเข้ามาอ่าน สิ่งดีๆๆ ที่บรรจง กลั่นกรอง

ออกมาเป็นบทกวีได้ ยอดเยี่ยมครับ

  • แวะมาเยี่ยมครับ
  • ฝากไว้อีกแนวนะครับ
         แวะเข้ามาอย่างผู้       สัญจร
    จึงต่อเป็นโคลงกลอน     เล่าไว้
    เป็นโคลงสี่แน่นอน         เขียนด่วน ด้วยนา
    ถูกบ่ถูกฤๅไซร้                 ท่องไว้ เอกโท
  • ขอให้โชคดีตลอดไป

แวะมาอ่านกลอนม่วนดีก่า  พัฒนาไปเรื่อยๆ นะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท