คงไม่มีใครที่ไม่เคยเกิดอาการโกรธใช่ไหมคะ และตัวเองก็เป็นประเภทเกิดอาการโกรธบ่อยเหมือนกัน ซึ่งเวลาที่เราเกิดอาการความโกรธกับใครสักคนหนึ่งแบบพุ่งปริ๊ด พุ่งปริ๊ด แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หน้าตาที่แต่งไว้แบบสวยงามก็จะกลายเป็นหน้าแดง สติ สมาธิก็ไม่คอยมี จิตใจก็ฟุ้งซ่าน
จนบางครั้งต้องหาทางระบายความโกรธแบบต่างๆ ให้กับคนที่สามารถรับฟังเราได้ วันนี้อาจจะมาแบบธรรมะ(หรือเปล่าหนอ) ก็ไม่ใช่อะไรหรอกพี่ที่เราชอบไประบายเรื่องงานเขาส่งเมล์มาให้อ่าน เรื่องวิธีระงับการโกรธซึ่งเราก็คิดว่ามีประโยชน์กับคนที่ได้อ่าน(เพราะเราไม่อยากหน้าเหี่ยว 5555) ต้องขอบคุณผู้มีอุปการคุณนะเนี๊ยะ งั้นขอสรุปมาเพื่อนำไปเลือกใช้ให้เหมาะกับสมตนเอง ดังนี้
วิธีที่ ๑. ยามใดเมื่อเราโกรธ
เราต้องรู้ตัวของเราเองว่า
เรากำลังได้รับพิษร้ายเข้าไปแล้ว ควรสร้างความรู้สึก"สะดุ้งกลัว"ขึ้นมาทันที
และ พยายามระงับความโกรธนั้นไว้ ไม่ให้พิษโกรธกำเริบแสดงเป็นกริยาอาการอะไรออกมาอย่างเด็ดขาด ด้วยการพิจารณาโทษของความโกรธให้มากที่สุด
ตัวอย่างวิธีคิด
"หากเราโง่เขลาคิดตอบโต้ผู้อื่นด้วยความโกรธเมื่อใด
พิษร้ายของความโกรธก็จะเพิ่มขึ้นและหมักหมมอยู่ในใจมากขึ้นทุกที
มันจะคอยออกมาเผาลนจิตใจของเราไปชั่วกาลนาน
เสมือนหนึ่งเราได้สร้างนรกให้เกิดขึ้นในใจของตัวเอง
"
(เป็นการนำคุณธรรมข้อ "โอตตัปปะ"หรือ "ความสะดุ้งกลัว"
มาอธิบาย ให้ตัวเองเห็นถึงผลร้ายของความโกรธ / สุตตันต.เล่ม ๑๓ ข้อ ๑๑
หน้า ๑๔ )
วิธีที่ ๒ มองเห็นผลดีของการระงับความโกรธด้วยเมตตา ว่าทำให้เรานอนหลับฝันดี มีเพื่อนเยอะแยะ ใครเห็นใครก็รักไคร่ มีสุขภาพจิตดี มีความสุขตลอดเวลา โห..คุ้มค่าจริง ๆ เลย (ดูอานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการ / สุตตันต.เล่ม ๑๖ ข้อ ๒๒๒ หน้า ๓๖๑ )
วิธีที่ ๓. เมื่อรู้สึกโกรธ หรือ
เคืองใจใครก็ตาม ให้ตั้งสติระลึกนึกถึงความดีของคน ๆ
นั้นไว้ในใจ เช่นเขาเคยทำดีอะไรให้แก่เราบ้างไหม หรือ เขามีส่วนดีอื่นๆ
ที่น่าประทับใจอะไรบ้าง นึกอย่างนี้มาแทนความคิดไม่ชอบใจ
ความโกรธก็จะหายไปเอง
ตัวอย่าง "นายมีโกรธนายแดงที่พูดจาดูถูกตน
แต่พอนายมีนึกถึงเมื่อครั้งนายแดงเคยช่วยมา ทาสีบ้านให้ทั้งวันเมื่อปีที่แล้ว
นายมีก็หายโกรธนายแดง"
"คุณเจ
ไม่ชอบหน้าคุณจอนเลย เพราะคุณจอนชอบพูดจากวนประสาท
แต่คุณเจก็ พยายามคิดว่าคุณจอนถึงแกจะชอบพูดกวนประสาท
แต่แกก็ยังดีที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ คิดได้ดังนี้คุณเจ ก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อคุณจอนขึ้นมาบ้าง
" (ดู วิธีระงับความอาฆาต
ด้วยการมองเห็นความดีของเขา /สุตตันต.เล่ม๑๔ ข้อ ๑๖๑-๑๖๒ )
วิธีที่ ๔ เมื่อโกรธคนใกล้ตัว เช่น แฟน ,
พี่น้อง , เพื่อนร่วมงาน หรือ โกรธคนไกลตัวเช่น นักการเมือง ฯลฯ ให้ลองนึกมโนภาพหน้าตาของเขาให้เป็นเด็กเล็ก ๆ อายุสัก 1-2
ขวบ โดยให้คิดเหมือนกับ ว่าเขาเป็นลูกของเรา
สร้างความรู้สึกเอ็นดูเมตตาเหมือน พ่อแม่รักลูก ความโกรธจะหายไปเป็น ปลิดทิ้ง วิธีนี้แม้ดูง่าย ๆ
และ น่าขำ แต่ก็ สามารถทำให้หายโกรธได้ผลเป็นอย่างดีเลยทีเดียว (
ดูคำสอนเรื่องให้รักผู้อื่นเหมือนมารดารักบุตร
/สุตตันต เล่ม๑๗ ข้อ ๑๐ หน้า ๑๑
)
วิธีที่ ๕ คิดตั้งหลายวิธีแล้วก็ยังไม่หายโกรธ
มาลองใช้วิธี "ไม่คิด" ดูก็ได้ ด้วยการ หายใจเข้าปอดลึก ๆ ยาว ๆ ทำลมหายใจให้ละเอียด
(นึกจินตนาการว่าลมหายใจ ของเราเป็นอะไรบางอย่างที่ละเอียด อ่อน บางเบา ในขณะที่หายใจ )
หายใจเข้า ออกติดต่อกันสัก ๑๐ ครั้ง
ความโกรธก็จะสลายหมดไป กลายเป็นความสบายใจ มาแทนที่ (ดูอานิสงส์อานาปาสติ
ทำให้เกิดปีติ สุข จิตใจสงบระงับ ร่าเริง / สุตตันต.เล่ม
๖
วิธีที่ ๖ วิธีนี้ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับเพื่อนสนิท หรือ คู่รัก ในยามที่เกิดความไม่เข้าใจกัน หรือ ทะเลาะกันจนต่างฝ่ายต่างโกรธ นั่นคือ "การให้ของขวัญ" เป็นวิธีแก้ไข ปัญหาความโกรธที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้เป็นการแสดงออกที่ทำให้หายโกรธ ทั้งผู้ให้และผู้รับ (ดูสังคหวัตถุ ๔ คือ การให้ พูดจาไพเราะ ช่วยเหลือเจือจาน ร่วมทุกข์ร่วมสุข สมานไมตรีไว้ตลอดกาล/ สุตตันต.เล่ม๓ ข้อ๒๖๗ หน้า๒๒๐)
วิธีที่ ๗
ให้มองว่าทั้งตัวเราและคนที่เราคนโกรธ ต่าง
เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น คือ
ไม่มีใครสามารถรอดจากความทุกข์ แก่ เจ็บ ตายได้สักคน
ให้คิดจินตนาการ มองเห็นคนที่เรากำลังโกรธอยู่
เห็นภาพในอนาคตสมมุติว่าเขากำลังป่วยหนัก ใกล้ตาย เขาจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแค่ไหน
จากนั้นให้หวนคิดถึงตัวเราเองว่า เราเองสักวันหนึ่งก็ต้องพบกับความทุกขทรมานและความตายเหมือนเขาเช่นเดียวกัน
พวกเราล้วนตกอยู่ภายใต้ชะตากรรมเดียวกันด้วยกันทั้งนั้น
แล้วจะมามัวโกรธกันอยู่ทำไมกัน
(ดูบทสวดมนต์แผ่เมตตา) ข้อ
๒๘๘ ข้อ
๑๗๐)
วิธีที่ ๘
ใช้วิธีกราบพระเพื่อระงับความโกรธ
การกราบพระทำให้จิตใจเกิดความอ่อนน้อม หมดความมานะถือตัว
สภาพจิตใจเช่นนี้ ความโกรธเกิดขึ้นไม่ได้
ดังนั้นหากท่านใช้วิธีระงับโกรธหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล
ขอแนะนำให้ใช้วิธีกราบพระ ท่านว่าได้ผลชงัดนัก
วิธีง่าย ๆ เมื่อใดที่โกรธ ให้ก้มลงกราบพระทันที และในขณะที่ท่านกราบพระ
ให้นึกถึงใบหน้าของคนที่ท่านโกรธ
ท่านจะพบด้วยตนเองว่าตราบใดที่ท่านยัง กราบพระอยู่
ความโกรธจะไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เลย ( จากเทคนิควิธีกำราบความโกรธส่วนตัวของหลวงพ่อบุดดา ถาวโร
)
หากใครมีวิธีที่เด็ดๆมาร่วมบอกวิธีแก่คนที่ชอบเกิดอาการโกรธ นะคะ
ทั้ง 8 ข้อที่ว่าน่ะเข้าที แต่พี่กลัวว่าทำไม่ค่อยได้น่ะดิคะ 5555
สำหรับพี่น่ะเหรอ ยามโกรธ บางทีก็มักไปลงที่น้องสี่ขามั่ง ( ไม่ค่อยดีเลย น่าสงสารมันนิ ) แต่บางทีไม่มีทีระบาย ก็ไประบายให้ไอ้สี่ขาฟัง 55555 ( เขาคงว่าบ้าอีก ) บางทีทำอะไรไม่ได้ ร้องไห้มันซะเลย แต่นั่นมันสมัยละอ่อนนะน้อง... ปัจจุบันยังระงับไม่ค่อยได้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเฉยๆ เงียบ ... ซะมากกว่าจ้า ...
ว่าจะลองเลือกเอาข้อที่ว่า ใน 8 ข้อมาลองทำซักข้อดูนะ