มหัศจรรย์.....เมืองฉอด (ตอน ดูเหมือนจะหลากหลายแต่อยู่เมืองไทยเป็นสุขทุกคน)


ทุกคนหนีร้อนมาพึ่งเย็น ที่ประเทศของเขาคงจะอยู่แล้วไม่มีความสุขจึงต้องหนีเข้ามาตั้งรกรากภายใต้ร่มธงไทย

               วันนี้เรามีโปรแกรมที่จะไป SVA ซึ่งเป็นสำนักงานของ NGO โดยทำหน้าที่ช่วยเหลือคนในค่ายผู้อพยพในเขตจังหวัดตาก  เมื่อไปถึงคุณแหวนก็ออกมาต้อนรับ  พร้อมกับอธิบายการทำงานและหน้าที่ที่ต้องทำ  คุณแหวนบอกว่าโปรเจคตอนนี้คือ การทำหนังสือให้เด็กๆ โดยการนำหนังสือที่เหมาะสำหรับเด็ก ทั้งภาษาไทย  ภาษาญี่ปุ่น  ภาษาอังกฤษ  นำมาแปลเพื่อให้เด็กในค่ายอพยพอ่าน  วิธีการก็ง่ายๆ คือ พอได้หนังสือมาแล้วก็จะมีทีมแปลเป็นภาษากระเหรี่ยง  ภาษาพม่า  ภาษาเงี้ยว(ไทยใหญ่)  พอแปลเสร็จก็พิมพ์ใส่สติกเกอร์  แล้วเอาไปแปะทับอักษรเดิม  แค่นี้เด็กๆ ก็สามารถสนุกกับหนังสือเหล่านั้นได้   ถ้าเด็กคนไหนอ่านไม่ออก  เจ้าหน้าที่จะอ่านให้ฟังบ้าง  พ่อแม่หรือ เด็กที่อ่านออก ก็จะมาช่วยกันอ่าน  ดิฉันอยากจะเห็นบรรยากาสแบบนั้นจริงๆ นอกจากงานแปลก็ยังทำการเทรนคนในศูนย์อพยพ  ให้ดูแลเด็กอีกด้วย 

               วันนี้เรามีสมาชิกใหม่มาสมทบ (โดยบังเอิญ)  คือปลัดเอ็ม  ซึ่งเป็นปลัดเด็ก(เจ้าตัวบอกเอง)  ของอำเภอแม่สอด  พอนั่งคุยและดูการทำงานของ SVA สักพัก  ดิฉันก็ค้นพบความจริงที่ไม่น่าเชื่อเลยคือ  ทางอำเภอไม่มีการติดต่อหรือประสานงานกับ SBA หรือ NGO ต่างๆ ในอำเภอแม่สอด  คณะที่ไปอึ้งมาก  ดิฉันจึงถามไปว่า  ถ้าองค์กรอิสระ  กับ ราชการร่วมมือกันได้  น่าจะดีกว่ามั้ย  คุณแหวนก็ชิงตอบว่า  ราชการคงไม่ค่อยอยากร่วมมือกับเราค่ะ  อีกอย่างเวลาทำอะไรเค้าก็คงทำเอง  เพราะต้องการผลงาน  หรือถ้าร่วมมือก็จะเป็นประมาณมาขอความช่วยเหลือโดยเฉพาะ  เรื่องเงินค่ะ  พวกเรามัวแต่ฟังคุณแหวนเลยลืมมองหน้าปลัดเอ็มว่าตอนนั้นทำหน้าอย่างไร

              แล้วน้องแหวนเธอก็ยิงคำถามเด็ด พวกราชการคิดอย่างไรกับ NGO”  ปลัดเอ็มเจอคำถามเด็ดก็ตอบว่า จริงๆ แล้ว ต้องเข้าใจว่า NGO มีหลายพวก  พวกที่มาทำงานพัฒนาก็มี แต่ก็มีบางกลุ่มที่มางานเพื่อชื่อเสียงตนเอง  บางครั้งทำอะไรไปก็ไม่คิดถึงว่าจะทำความเสียหายให้ประเทศไทย  ชอบออกข่าวเอาความดีแต่ไม่รู้หรอกว่าทำให้ประเทศชาติเสียหายแค่ไหน  เอ่อ   เอ่อ  เอ่อ  จะตีกันมั้ยเนี่ย  ก่อนที่จะคุยกันมากกว่านี้  พวกเราจึงขอตัวไปเดินเที่ยวในตลาดแม่สอดกัน (คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะ)

              ปลัดเอ็มจอดรถส่งเราที่ถนนที่ขายเพชรพลอยของตลาดแม่สอด  แล้วกลับไปทำงานต่อ  เราเดินไปเรื่อยๆ พบว่าที่เมืองแม่สอดนี้  มีผู้คนหลายเชื้อชาติมาก  มีทั้งชุมชนชาวอิสลาม  พม่า  พม่าอิสลาม  กระเหรี่ยงพุทธ  กระเหรี่ยงคริสต์ ไทยใหญ่  และอีกมากมาย  ซึ่งดิฉันคิดว่าทุกคนหนีร้อนมาพึ่งเย็น  ที่ประเทศของเขาคงจะอยู่แล้วไม่มีความสุขจึงต้องหนีเข้ามาตั้งรกรากภายใต้ร่มธงไทย  เดินกันไปนานสองนาน  ดิฉันคิดว่าพวกเราเป็นคนไทยกลุ่มเดียวของที่นี่ตอนนี้ (จริงๆ ค่ะ)  เลยถามว่า  แล้วคนไทยไปอยู่ไหนหมด  ได้คำตอบที่......... ว่า  อ๋อ  คนไทยที่แม่สอดเข้าไปทำงานกรุงเทพกันหมด  อ่า............  เหตุผลคือ  ที่แม่สอดแรงงานต่างด้าวจะถูกกว่าแรงงานไทยมาก  พวกนายจ้างจึงไม่ค่อยรับแรงงานไทย

                   เดินในเมืองก็เจอความหลากหลายของศิลปะตามสถานที่สำคัญๆ ทางศาสนาของแต่ละศาสนา  ทั้งสุเหร่า  วัดไทย  วัดพม่า  วัดไทยใหญ่  ซึ่งใครที่ชื่นชมศิลปะพวกนี้  คงจะดูได้ไม่รู้เบื่อ  แต่ละที่จะแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง  แต่ก็มีความงดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย  พวกเราเดินจนพี่จิ๋มเป็นลม  เดินต่อไม่ไหว  จึงต้องโทรเรียกคนขับรถจาก SBA มารับเพื่อไปส่งบ้านบนดอย  สารถีของเราวันนี้มาจากย่างกุ้ง  ซึ่งเค้าแนะนำตัวอย่างภูมิใจด้วยสำเนียงแปลกหูว่า เค้าเป็นชาวกระเหรี่ยงคริสต์  มาจากย่างกุ้ง  เข้ามาถูกกฎหมายข้ามมาจากสะพานมิตรภาพ ไทย- พม่า  เมื่อฟังแล้ว ก็อมยิ้มไปตามๆ กัน

                 พอกลับมาที่ดอยแม่ปะ  บ้านพักพวกเราก็เดินเล่นแถวๆนั้น  อากาศดีมากๆ วิวสวย และมีลมเย็นๆ พัดมา  ทำให้สบายอย่างบอกไม่ถูก  พอตกเย็นเราก็ไปนั่งทานข้าวกันที่ร้านอิงดอย  เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่บนเนิน  มองไปแล้วเห็นไฟจากเมืองแม่สอด  ที่ส่องเป็นประกายระยิบระยับเหมือนกับดาวบนฟ้าเลยทีเดียว  นอกจากนี้อาหารยังอร่อยมาก  พวกเราทานข้าวกันด้วยความสุข  มาแม่สอดคราวนี้คุ้มค่าจริงๆ ดิฉันอิ่มเอมกับทั้ง  อาหารปาก  อาหารตา  และอาหารใจ 

หมายเลขบันทึก: 136291เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2007 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
องค์กรนั้นคือ SVA ค่ะ ไม่ใช่ SBA

555...ไม่น่าเชื่อว่าจะได้มาเจอตัวเองอยู่ในนี้

ขำดี โลกมันกลมก็งี้แหล่ะ ตอนนี้ผมอยู่นครศรีธรรมราชแล้วนะ

อยากกลับไปเที่ยวแม่สอดเหมือนกัน อยากกินโรตีโอ่ง...อิอิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท