F2F เมื่อนายบอนนั่งอยู่ตรงหน้า ดร.แสวง รวยสูงเนิน : เรื่องเล่าจากการประชุม เพื่อเตรียมจัดการสัมมนาแบบท้องถิ่นในประเด็นการจัดการน้ำ (IWRM)


เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ

สำหรับ ดร.แสวง รวยสูงเนินแล้ว จัดได้ว่า เป็นปรมาจารย์ระดับสุดยอด เมื่อมาเขียนบันทึกถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ใน gotoknow ใน blog ความรู้เพื่อชีวิต
ความรู้เพื่อชีวิตนั้น ทุกตัวอักษร ทุกประเด็นที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างตรงไปตรงมา ทำให้นายบอนได้เก็บเกี่ยวความรู้หลากหลาย

และเป็นอีกหนึ่ง blog ที่นายบอนยอมรับว่า ไม่กล้าเขียนความเห็นเลย
ไม่มีอะไรจะโต้เถียง โต้แย้ง แสดงความคิดเห็น
เพราะปกตินายบอนมักจะทำตัว สุดแสนจะธรรมดา เคยเดินผ่านแถวๆห้องทำงานของ ดร.แสวง ใน มข.อยู่หลายเพลา
แต่ไม่เคยแสดงตนสักที และไม่เคยคิดที่จะแสดงตนว่าเป็น blogger ใน gotoknow

3 ต.ค.2550 ท่าน ดร.แสวง ควงคู่มากับ ดร.ประสิทธิ์ มาร่วมประชุม เรื่อง IWRM  การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
เพราะช่วงเช้า นายบอนมาประชุมกับ ทีมงานของ ดร.ยรรยงค์ อินทร์ม่วงเรื่องการพัฒนาระบบกลไกขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ  ฯลฯ ท่าน ดร.ยรรยงค์ เลยบอกให้อยู่ร่วมประชุมภาคบ่ายด้วยเลย เพราะข้อมูลการประชุมภาคบ่าย น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้

เวลาที่นัดประชุมคือ บ่าย 2 โมง พอถึงเวลา ท่าน ดร.ประสิทธิ์ และ ดร.แสวง ก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องทำงานของ ดร.ยรรยงค์ 
นายบอนเห็นแว๊บแรก ..อุ๊ย... ไม่นึกว่า จะได้มีโอกาสพบเจอ blogger ในดวงใจตัวจริงเสียด้วย

เข้าประชุม นายบอนก็นั่งฟังท่าน ดร.ประสิทธิ์ และ ดร.แสวง พูดไป
ท่าน ดร.ประสิทธิ์ เข้ามาก็เดินไปหากระดานไวท์บอร์ด เขียนประเด็นทันที
ส่วนท่าน ดร.แสวง ก็ช่วยยิงคำถามเพื่อให้เข้าประเด็นการประชุมโดยเร็ว

เรื่องที่ประชุม คือ ต้องการที่จะจัด สัมมนา หรือ ประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องของ IWRM  เรื่องของการจัดการน้ำ จากภูมิปัญญาของชาวบ้านในส่วนที่จัดการได้ดี โดยต้องการที่จะเอามาผสมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้แนวทางการจัดการน้ำที่ได้ผล จากชาวบ้านบางกลุ่ม ให้แนวคิดนั้น กระจายไปที่อื่นๆบ้าง

ท่าน ดร.ประสิทธิ์ เขียนประเด็นบนกระดานไป หมึกปากกาไม่ค่อยออกมั่ง ท่านก็เอาฝ่ามือลบหมึกที่เขียนไปแล้วมั่ง ท่าน ดร.แสวงก็ยิงคำถาม
- ทำเพื่ออะไร
- ทำไมต้องเป็นเรา

ท่านจะให้ข้อคิด แนวทาง และยังพูดปรัชญาให้ฟังกันสดๆ จนต้องนั่งคิดตามแทบจะทุก 5 นาที
เช่น เมื่อพี่เอ.. นิสิตปริญญาเอกปี 3 หนึ่งในทีมงาน กล่าวถึงชาวบ้านที่ทำเกษตรอินทรีย์รายหนึ่ง ซึ่งท่าน ดร.แสวง ถือว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว ท่านจึงตั้งคำถามอย่างรวดเร็ว และถามว่า เกษตรอินทรีย์ที่ทำนั้น ใช้หลักการ 5 ล หรือเปล่า

นายบอนกับพี่เอ นั่งงงสักพัก
ท่าน ดร.แสวง จึงเฉลยว่า หลักการ 5 ล คือ
1. หลากหลาย
2.หลีกเลี่ยง
3. หลอกล่อ
4. ขับไล่
5. เลยตามเลย

ซึ่งนี่เป็นปรัชญาของกลุ่มอโศก

นั่งฟังท่านพูดไป คุยไป ท่าน ดร.แสวงก็แนะนำว่าให้ไปอ่านบันทึกที่ท่านเขียนไว้ใน gotoknow " เข้าไป search ชื่อผมนะ บล็อก ความรู้เพื่อชีวิต แล้วจะได้ความรู้มากมาย"

พี่ธีรยุทธ ก็เลยชี้มาที่นายบอนว่า นั่นก็เขียน gotoknow เหมือนกัน นายบอน-กาฬสินธุ์ไงครับ

ดร.แสวงมองหน้า แล้วก็ว่า นั่นน่ะเค้าเขียนเยอะกว่าผมอีก เป็นคู่แข่งของ อ.Beeman  อ.JJ เลยนะนั่น

เอ้า นายบอนว่า จะนั่งฟังเงียบๆกลับมีคนเฉลยซะแล้ว
 ท่าน ดร.แสวงนั่งพูดไปสักพักก็หยิบกล้องมาถ่ายภาพบรรยากาศการประชุม ถ่ายคนโน้นคนนี้ และถ่ายรูปนายบอนอีกด้วย บอกว่า จะเอาไปเขียนแซวใน blog

โห...

จากการที่ได้ติดตามอ่านบันทึกของท่าน ดร.แสวงมานาน หลายช่วงต้องอ่านย้อนหลังเพราะไม่ค่อยได้เข้าเวบมากนัก (เพราะนายบอนเข้าไปหลายเวบ) ทุกครั้งที่อ่านบันทึกของ ดร.แสวงนั้น ต้องยอมรับว่า แซบถึงใจ  แม้ว่า หลายบันทึก หลายท่านใน gotoknow จะรู้สึกว่า ท่านเขียนแรงเหลือเกิน

แต่นายบอนรู้สึกเฉยๆ อาจเป็นเพราะ หลายประเด็นนายบอนก็ชอบที่จะเขียนแรงๆ จนหลายคนรับไม่ได้ หรือไม่กล้าที่จะอ่านอยู่บ่อยๆ

แต่ต้องยอมรับว่า ท่านเป็นที่สุดของปรมาจารย์จริงๆ นั่งฟังท่านพูดที่มีทั้งความรู้ ทั้งมุขตลกสอดแทรกที่ทำให้ความรู้เพื่อชีวิต มีสีสัน มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

สิ่งหนึ่งที่ยอมรับในตัว ดร.แสวง และท่านก็พูดในวันนี้ คือ
"ท่านเป็นคนที่สร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่เดินตามใคร และไม่เดินตามฝรั่ง ซึ่งมีอยู่ 2 เรื่องที่โดดเด่น นั่นคือ เรื่อง IWRM และเรื่องการจัดการความรู้"  ซึ่งเมื่อได้อ่านบันทึกของ ดร.แสวงแล้ว ประเด็นที่นำเสนอ ลีลาการเขียน จะรู้ว่า ใช่เลย

เป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษจริงๆ

ทำให้ ความรู้เพื่อชีวิตที่ถ่ายทอดออกมาในแบบของ ดร.แสวง ทั้ง แซบ มัน และถึงใจอย่างยิ่งครับ

 

, ,

หมายเลขบันทึก: 134675เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2007 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
P

นายบอน!-กาฬสินธุ์

ยินดีด้วยที่ได้เจออาจารย์ ดร.แสวง....

หลวงพี่เคยบอกอาจารย์ว่า ภาษาที่ท่านสื่อออกมา บอกถึงพลังบางอย่างซึ่งหลวงพี่สัมผัสได้....

เจริญพร 

นมัสการครับ หลวงพี่

มีพลังอย่างมากจริงๆครับ จากคำพูด น้ำเสียง และลีลาของท่าน

สวัสดีค่ะคุณบอน

ตามมาอ่านค่ะ  ท่านคืออีกหนึ่งบล๊อกเกอร์ในดวงใจของราณีเหมือนกัน ราณีก็ได้เจอเหมือนกันที่งานมหกรรม kmภูมิภาค ที่พิษณุโลก ตัวจริงท่านน่ารักมาก คุยเก่ง เป็นกันเองมาก ๆ ค่ะ ดีใจจริง ๆ ที่เจออาจารย์

ชอบหลัก ๕ ล.จังเลยค่ะ บล๊อกอาจารย์แสวงได้ให้ความเห็นเป็นบางครั้ง บางครั้งก็ไม่กล้า แต่ติดตามอ่านทุกบันทึกของท่านเหมือนกันค่ะ แบบป้ายต่อป้าย เห็นด้วยค่ะท่านเป็นปรมาจารย์ เป็นตัวของตัวเอง มีสีสันของชีวิตไปอีกแบบ จริงใจดีค่ะ  

ท่านเป็นคนคุยสนุกมากเลยค่ะ  ตอนแรกเกร็ง ตอนหลังไม่เกร็งแล้วค่ะ กอดไปหลายครั้งเลยค่ะ อิอิ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ อ.ราณี

 แหม กอดเลยหรือครับ :))
  • อยากกอด  ดร.แสวงเหมือนอ. ราณีจัง    แต่กลัวโดนเตะก่อน 
  • มาชวนนายบอน  ไปเอาบุญขึ้นเถียงนาใหม่  ของดร.แสวง 5555  เจ๊หนิงเป็นคนคิดโปรแกรมนี้  ไปดู  5 ล. ที่ สวน  ดร.  กัน
  • ดงหลวงห้ามเบี้ยว นะ  จะดักรอไปรับหน้าบ้านเลย

ผมตอบไปแล้วเมื่อเที่ยงแต่เครื่องหรือระบบรวนก็ไม่ทราบ

ว่าใหม่นะครับ

ทำไมคนจึงคิดว่าผมดุ น่ากล้ว

ทำไมเรื่องที่ผมเขียน "รุนแรง"

ผมขออธิบายว่า ในบางมุมผมจำเป็นต้องทำ ด้วย

  1. ปัญหาสังคมไทยรุนแรงมาก บางเรื่องต้องผ่าตัด
  2. คนไทยส่วนใหญ่ ยังหลับตา เอาหูทวนลม พูดเบาอาจไม่ได้ยิน
  3. และผมมีเวลาน้อย อีกไม่นานผมก็จะจากโลกนี้ไป (ไม่น่าเกิน ๑๐,๐๐๐ วัน) มีอะไรที่ต้องทำอีกมาก จะมัวแต่เล่นๆคงไม่ทัน

ประมาณนี้แหละครับ

ที่เหลือ ผมก็เป็นคนธรรมดา ต้องการเพื่อน ต้องการความรัก ความสนใจ และกิเลศในทางที่ดีที่ควรอื่นๆ เช่นเดียวกับทุกคน

แต่ผมถือว่าประเทศชาติสำคัญกว่า ชีวิตผม

ชีวิตผมดับได้ แต่ประเทศชาติต้องคงอยู่ครับ

นี่คือ "ตัวจริง" ของผมครับ

สวัสดีครับ พี่องุ่น

 ไม่แน่ใจเด้อครับว่า วันนั้นจะว่างหรือไม่ จะได้ไปดงหลวงด้วยหรือเปล่า แต่ปกติ นายบอนก็ไปมุกดาหารอยู่บ่อยๆเด้อครับ
สวัสดีครับ ท่าน ดร.แสวง

   ตัวจริงนายบอนไม่ค่อยพูด เพราะเวลาพูดไม่ค่อยเพราะ  จะพูดมากในบางที่ที่แน่ใจว่า พูดได้ นอกนั้นจะพูดน้อยๆ

แต่สำหรับบุคลิก การแสดงออกทางความคิดของอาจารย์ นายบอนว่า กระชับ เข้าประเด็นได้รวดเร็วดีครับ ไม่ต้องเยิ่นเย้อ

มีรุ่นน้องที่เคยเรียนปริญญาโทกับอาจารย์  คุณงามเนตร เอกตาแสง มานินทาตัวอาจารย์ให้นายบอนฟังอยู่บ่อยๆ ฟังแล้วก็ำขำขำ ทึ่ง และอึ้งในบทบาทของอาจารย์ แต่เมื่อมาติดตามอ่านบันทึก (ส่วนใหญ่จะอ่านบันทึกย้อนหลัง เพราะมีเวบที่ต้องเปิดดูเยอะมากๆ) จึงเข้าใจ เข้าถึงในความดุ รุนแรง ดุดัน

เหมือนกับส้มตำ ที่ทั้งเผ็ด ทั้งแซบถึงใจ กินได้บ่อยๆ ต่างจากอาหารอื่นๆ กินไม่ได้บ่อยๆเหมือนส้มตำนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท