เกือบจะต้องแลกด้วยชีวิตแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เนื่องจากวันนั้นมีภารกิจต้องไปเข้าร่วมการประชุม เครือข่ายองค์กรการเงินชุมชน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎ์ธานี การประชุมจัดขึ้นที่ ร.ร.กาญดิษฐ์ จ.สุราษฎ์ธานี
เสร็จจากการประชุม 16.00 น. ก็เดินทางกลับโดยรถยนต์ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นั่งรถเรื่อยมาจนถึง ตลาดแม่กิ้มส้อง อ.สิชล มอเตอร์ไซค์ คันหนึ่ง วิ่งจากข้างทาง ซ้ายมือ ผ่านหน้ารถไป(จะข้ามไปยังตลาดดังกล่าวซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน ตามเส้นทางลัดที่ทำขึ้นเอง) โดยไม่ได้หันมามองดูรถเลยแม้แต่นิดเดียว
รถที่ดิชั้นนั่งมาวิ่งอยู่เลนขวา ของช่องจราจร มุ่งหน้าสู่ อ.ท่าศาลา ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. เห็นจะได้ คนขับรถตัดสินใจหักหลบ มอเตอร์ไซค์ คันดังกล่าว จนทำให้รถเสียการทรงตัว ส่ายหมุนไปมาอย่างหน้าหวาดเสียว( ด้วยความเร็วของรถที่วิ่งมา กับการที่ถนนเปียกลื่น เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไปไม่นาน คนขับรถไม่สามารถควบคุมรถได้) ที่สุดรถก็พุ่งลงข้างทาง ไปหยุดตรงหน้าต้นมะพร้าว ระหว่างเสาไฟฟ้า ข้างทาง โดยรถได้รับความเสียหายอย่างเล็กน้อย ส่วนคนที่นั่งมาในรถ(มีดิชั้นและคนขับ) ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดเลย …….(โชคดีที่ตัดสินใจนั่งด้านหน้าและคาดเข็มขัดนิรภัย รู้สึกได้เลยว่าด้วยความแรงรถถ้าไม่มีเข็มขัดช่วยดึงไว้ก็คงจะพุ่งไปด้านหน้าชนกระจกรถอย่างแน่นอน อาจไม่ถึงตาย แต่ก็คงเจ็บหนักพอสมควร)
จากตอนนั้นจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังรู้สึกได้อยู่ถึงเหตุการณ์ วันนั้นอยู่(อธิบายอย่างไรก็คงไม่เท่ากับการได้เจอกับตนเอง….ณ วินาทีนั้น..ที่คิดถึงคือความตายรออยู่เบื้องหน้า….) ภาพมันยังวนซ้ำไปมาอยู่เป็นระยะๆ อดคิดเสียไม่ได้ว่า การมาทำงานที่จะต้องเดินทางบ่อยๆ แบบนี้มีความเสี่ยงสูง ไปนู่นมานี่อยู่ตลอด หากไม่มีอะไรที่จะรับประกันความปลอดภัยเลยมันก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป เพราะอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด ไม่อาจจะคาดการณ์ล่วงหน้า เหตุการณ์ครั้งนี้คงจะช่วยเตือนตัวเองได้ไปอีกนาน หากจะทำอะไรต้องมีสติ อยู่ด้วยความไม่ประมาท ที่สำคัญต้องหาอะไรไว้เป็นหลักประกันในกรณีที่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วย เล่ามาเสียยืดยาว ยังไม่ได้พูดถึงสาระที่ได้จากการประชุมวันนั้นเลย เอาเป็นว่าเล่าต่อ บันทึกถัดไปเห็นจะดีกว่านะคะ
ขอบคุณ ครูนงเมืองคอน พี่
ณัทธร รักษ์สังข์ และคุณ
MOO
ที่แวะมา ปลอบใจ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ค่ะ ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกๆท่านด้วย เช่นกันนะคะ
ลุ้นอยากรู้อย่างมาก เพราะท่านครูนงไปแจ้งไว้ที่บันทึก แต่พอเปิดลิ้ง เครือข่ายล่มไปเสียนี่ เลยรีบกลับมาใช้อินเตอร์เนตที่บ้าน น่ากลัวจริง ๆ แต่ยังไงก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วนะน้องเล็ก รู้เลยว่ารู้สึกยังไง ตอนทำงานใหม่ ๆ เดินทางไปประชุมเหมือนกัน แถว ๆ ต้นเหรียง ช่วงนั้นอยู่ขนอม หัวหน้าขับรถหักหลบแกลลอนน้ำม้นที่รถคันหน้าทำหล่นลงมา ไม่รุนแรงขนาดตกคู แต่ก็ใจหายอยู่หลายวันเพราะรถวิ่งเร็ว แกว่งไปมา
เรื่องร้ายผ่านไปแล้วนะครับ ต่อจะไม่มีมาอีก
สวัสดีครับ...น้องเล็ก
ไม่เป็นไรนะพี่เล็ก
นึกซะว่าผ่านเคราะห์ไปแล้ว
(น่าใจหายจริงๆ)
โชคดีจังเลยอ่า...ขนาดขับรถตัดหน้าน้องหมาแกยังรอดมาได้ คนอย่างแกนี่ดวงแข็งจิงๆ คิดถึงนะ ปีใหม่เจอกัน...ที่บ้านเค้านะ อิอิ
ถึงยังไงก็อย่าประมาทนะ
ขอให้ทำงานอย่างราบรื่นนะคับ