คุณธรรมจริยธรรม(๒)
คุณธรรมจริยธรรม(๒)
บัณฑูร ทองตัน
คราวที่แล้วผมปูพื้นเรื่องการปรับทัศนคติกันก่อน เพื่อให้พวกเราเกิดแนวคิดในการมองโลกในแง่ดี สุภาษิตจีนบทหนึ่งบอกว่า “เทียบสูงเราต่ำ เทียบต่ำเราสูง” ธรรมชาติของมนุษย์อยากได้ดีเหมือนคนอื่น แต่ลืมมองดูตัวเองว่าเราได้ทำดีเหมือนคนอื่นหรือไม่ พอไม่ดีเท่าคนอื่นก็จะร้องแรกแหกกะเฌอว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้อยถูกกลั่นแกล้ง ชีวิตของเขาจึงขาดไร้ซึ่งความสุข แต่ถ้าเราปรับทัศนคติเสียใหม่ มองอีกมุมหนึ่ง เช่น หันมองคนรวย เขารวยกว่าเรา เขามีบุญเยอะ ทำไมชีวิตเราจึงตกต่ำขนาดนี้ ทำไมนะพ่อแม่เราจึงไม่รวยแบบเขา เราปรับทัศนคติเสียใหม่ มองใหม่ ก็ต้องมองว่า เขารวยกว่าเราก็ไม่แน่ว่ามีความสุขเท่าเรา เราอยู่อย่างนี้เราก็มีความสุขแล้ว เราจะหาความทุกข์ใส่ตัวแบบเขาทำไม หรือเขารวยกว่า เราไม่เอาตัวเราไปเทียบกับเขาเราก็ไม่จน พอเราเอาตัวเราไปเทียบกับขอทานเราจะรวยขึ้นมาทันทีคนบางคนในชีวิตไม่เคยคิดจะให้ใคร คิดแต่อยากจะได้ของคนอื่น ชีวิตของเขาก็จะหาความสุขได้ยาก เราลองนึกถึงเวลาเราไปวัดทำบุญหรือเราบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย เราเคยสังเกตไหมว่าเรามีความรู้สึกว่ามีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือ แล้วทำไมเราจึงไม่เอาความรู้สึกในฐานะเป็นผู้ให้มาใช้ในชีวิตการทำงานบ้างละครับ การเป็นผู้ให้ทำให้เราอยู่เหนือกว่าเขา ถ้าเขาต้องให้เราช่วยเหลือแสดงว่าเขาอ่อนแอกว่า คิดอย่างนี้เราก็จะยิ่งใหญ่กว่าเขา การทำงานให้มีความสุข ต้องมีคาถาในการทำงาน ผมได้ข้อมูลมาจากอินเตอร์เนตไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เขียน เพราะไม่ปรากฏชื่อผู้เขียนบทความ ถือว่าผมขาดเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ผู้เขียนก็แล้วกันนะครับคาถา 6 Psเขาบอกว่าให้หมั่นท่องไว้เสมอ แล้วจะเป็นคนทำงานที่มีความสุข มีผู้ชื่นชอบ อยากให้การสนับสนุน (ผมว่าท่องเฉยๆไม่ได้ผลนะครับ ท่องให้จำแล้วนำไปใช้ด้วย)มีดังนี้ 1. Positive Thinking คือการมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่เป็นบวกอยู่เสมอ จะไม่มองอะไรในแง่ร้ายเลย ใครทำได้อย่างนี้จะไม่มีปัญหากันเลย
2. Peaceful Mind การมีจิตใจที่สงบ จะสร้างความสุขที่คนอื่นต้องอิจฉา เพราะใจเราจะไม่ดิ้นรน นิ่งไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ที่มีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง (ในการทะเลาะโต้เถียงกัน คนที่สงบที่สุดคือผู้ชนะ เพราะยิ่งมีอารมณ์มากเท่าไรสติปัญญาก็โบยบินห่างออกไปเท่านั้น)
3. Patient คือการที่มีความอดทน คนเราจะให้ทุกอย่างเป็นตามใจเราคงยาก มันต้องมีช่วงที่เป็นของคนอื่นบ้าง แต่ถ้าเรารู้จักอดกลั้น อดทน รอคอยให้ถึงช่วงของเรา การแก่งแย่งชิงดีย่อมไม่เกิด
4. Punctual คือการตรงต่อเวลา การมีวินัย บ้านเราชอบหาข้อแก้ตัว
รออีกหน่อยไว้ให้ลูกหลานเรามีวินัยก็แล้วกัน ทำไมเราไม่ทำเป็นตัวอย่าง นิ้วก้อยกับนิ้วหัวแม่มือ แม้มีขนาดไม่เท่ากันก็อยู่ในมือเดียวกัน ต้องทำหน้าที่พร้อมกันในเวลาหยิบของ จะเกี่ยงว่าตัวเล็กตัวใหญ่ไม่ได้ อย่าผิดคำพูด อย่าผิดนัด คนเป็นใหญ่ชอบไปงานช้า เพราะคิดว่าตนสำคัญคนอื่นต้องรอ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ คิดผิดนะ (ลูกน้องมาช้าน่ารำคาญ เจ้านายมาช้าสง่างาม แฮ่ะๆๆ)
5. Polite คือความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีตัวนี้มาก มีมากเท่าใดคนอื่นจะยิ่งเกรงมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเรื่องรวงข้าวที่มีเมล็ดข้าวมากเท่าใด ก็ยิ่งโน้มลงติดดินมากเท่านั้นช่อนั้นจะมีค่ามาก เพราะให้ผลผลิตดีกว่าช่อที่ยืนล้อลมได้สูงๆ แต่ไม่มีเมล็ด เกี่ยวไปแล้วก็ทิ้งเป็นฟาง เอาไปสีก็เปล่าประโยชน์
6. Professional หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ในงานของตนต้องรู้ ต้องทำอย่างดีที่สุด ต้องมีความรู้ ความสามารถอย่างมืออาชีพ ทำหน้าที่ให้เหมาะสม หมั่นฝึกปรือแสวงหาความรู้ให้ทันสมัยทันโลก (ผมอยากให้ลูกน้องทำงานอย่างมืออาชีพ อยากให้ลูกน้องรู้ว่างานที่ตนทำมีขอบเขตแค่ไหน แต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง ก็เลยให้ทำบันทึกเรื่องงานในหน้าที่ของแต่ละคนให้ผม แล้วเอามารวมเล่มมอบคืนให้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงาน เวลาเราไม่อยู่คนอื่นมาปฏิบัติงานแทนก็เปิดดูจากขอบเขตงานของเราก็จะทำให้งานเราเดินต่อไปได้ ผมโดนลูกน้องบ่นเสียหลายกระบุง) คาถาทั้งหกข้อนี้จะทำให้คุณมีจิตใจดี สงบ มุ่งมั่นอยู่กับงาน มองโลกในแง่บวก รู้ตน รู้สถานะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน พกสูตรนี้ไว้ (ไม่ใช่แค่พกไว้นะครับ อ่าน แล้วคิด คิดแล้วทำ ในสิ่งดีๆเท่านั้น) นี่เป็นส่วนหนึ่งของคุณธรรมจริยธรรมที่นำมาเล่าสู่กันฟัง โปรดติดตามตอนต่อไป...แฮ่....
ความเห็น (1)
สวัสดีครับ
- แวะตามมาอ่านบทความดีๆ ครับ
- โพซิทีฟติงต๊อง เอ้ย ติงกิ้ง ขึ้นมาเป็นข้อแรก ทำให้โลกสดใสมากเลยครับ