เช้าวันนี้ 28 กันยายน 50 ขับรถออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงเพื่อเดินทางมายัง ม.นเรศวร เข้าร่วมมหกรรม Km ภูมิภาค (ที่อยู่ในฝัน) แต่ต้องเผชิญกับฝนตกที่ไม่ลืมหูลืมตาเลย ทัศนวิสัยประมาณว่าจาก 8-9 กิโลกเมตรเป็น เหลือแค่ 1/2 กิโลเมตรน่าจะได้ แต่ด้วยจิตใจที่แน่วแน่ประกอบกับการรอคอยที่จะเข้าร่วมมานานทำให้อุปสรรคแค่เนี้ยไม่สามารถทำให้เราหยุดรถเพื่อหลบฝนได้
ปกติแล้วการเดินทางจากบ้านมาถึง ม.นเรศวรจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที แต่วันนี้ฝนตกทำให้เดินทางยาวนานถึง 50 นาทีทีเดียว (แถมมาถึงยังหาที่จอดรถยากกกกส์ซะอีก (แต่เรามีที่จอดรถส่วนตัว อิอิ ที่เป็นที่ ๆ จอดแบบพิเศษที่ใครมะยู้ และเรามะบอกด้วยยยย ) เปียกฝนติดหน่อยตอนลงรถ (ผมเพิ่งเซ็ทมานะยะเนี่ย....)
มาถึง ม.นเรศวรเกือบ 3 โมงแน่ะ รีบขึ้นมาที่ ชั้น 3 อย่างเร่งด่วนแหม...ใจดีจัง ได้รับแจกกระเป๋าด้วย แหมใครช่างคิดสีนะ คริ คริ
น้อง ๆ รับลงทะเบียน น่ารักทุกคน ให้บริการเลือกกระเป๋าได้ด้วยเลยเลือกสีฟ้า สดใส มา 1 ใบ (ก้อให้ใบเดียวนี่นา...)
ช่วงเช้า ท่านวิทยากรมาเล่าเรื่องราวที่ท่านได้ทำและเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ ให้ฟัง นพ.ภักดี ช่างเล่าเรื่องได้สนุกสนานครื้นเครงดีจัง แหม...ท่านคงรับจ๊อบพูดเป็นอาชีพซิเนี่ย...
ช่วงบ่าย มีห้องเรียนรู้ให้เลือกมากมาย ถึงแม้เราจะไม่ได้เลือกตามที่องค์กรเลือกไว้ (อิอิ เราไม่บอกใคร) แต่ตัดสินใจเลือกเข้าห้อง การเขียน blog เพราะว่า...หัวใจมันเรียกร้อง นั่นเอง
อาจารย์ประจำห้อง วิทยากรต่าง ๆที่เราเคยเห็นแต่ใน blog ก็ได้เห็นตัวเป็น ๆ วันนี้นี่เอง เริ่มตั้งแต่ อ.พินิจ , อ.ลูกหว้า หรือแม้แต่ blogger ท่านอื่นที่เป็นแกนสำคัญก็เดินทางมาช่วยอย่างอบอุ่น
ในส่วนตัวของดิฉัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกระบวนการใหม่อย่าง KM เป็นองค์ความรู้ที่น่าจะสานต่อ จากการที่เราได้มีโอกาสได้รับความไว้วางในให้ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในงานประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดพิษณุโลก ได้สัมผัสกับความร่วมมือ ความแตกแยก ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกความสำคัญ หรือแม้แต่การปะทะคารมในบรรยากาศที่ขัดแย้งอย่างรุนแรงก็เคย เราเคยคิดเสมอว่า ทำอย่างไรจะสามารถให้ความสำคัญแก่พวกเขาทุกๆ คนโดยรักษาหัวใจของทุกคนไว้ได้ โดยให้ทุกคนรู้ว่า งานประเพณีท้องถิ่นเป็นหัวใจของเราชาวเทศบาลทุกคน
วันนี้กับการศึกษาเรื่ององค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้นวัตกรรม Km กับรู้สึกถึงคุณประโยชน์ที่มากมายมหาศาลของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งมันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะพัฒนาองค์กรในด้านต่าง ๆ การรวมจิตใจ หัวใจของคนเทศบาล การเปิดใจด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จะทำให้หัวใจของคนเทศบาล ฯ เป็นหนึ่งเดียว
อยากจะบอกว่า... KM เป็นสิ่งงดงาม คุณประโยชน์มากมายแต่การที่จะใส่ KM ไปทุกองค์กรโดยไม่มีการวางแผน วิเคราะห์ และเป็นที่ยอมรับ นั้น ก็จะทำให้ KM เจริญเติบโตอย่างไม่ยั่งยืน อยากให้ Km เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ทุกคนที่เป็นตัวแทนของเทศบาลมาร่วมงานมหกรรม km ในวันนี้คงต้องนำไปสานต่อกับหน่วยงานของตน
......หากว่า คนเทศบาลมอง KM เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กรไม่มอง KM ว่าเป็นภาระ ก็เชื่อว่า องค์กรเทศบาลนครพิษณุโลกของเราก็จะเป็นต้นแบบของ km ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างไม่ยากเลย.....
คุณ ออต.
ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำขอบคุณ...จะนำไปฝึกปฏิบัติให้เก่งกว่านี้ค่ะ
ขอบคุณคุณหมอที่แสนดีที่สุดของน้อง ๆ เทศบาลค่ะ
ถ้าไม่มีคุณหมอละก็นกเองก็คงไม่มีโอกาสเข้าร่วมมหกรรม KM ของภาคเหนือตอนล่างเลยค่ะ
- ขอบคุณค่ะคุณหมอเป็นเจ้านายที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมากค่ะ
- ขอบคุณจากใจจริงแทนน้อง ๆ พี่ ๆ ที่เข้าสัมมนา km ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะน้องออตที่น่ารัก มีโอกาสต้องไปเยือน มหาชีวาลัยอีสานแน่นอนค่ะ...ได้ฟังเรื่องราวของท่านครูบาแล้ว ทำให้เรานึกย้อนคิดว่า...ตัวเราเนี่ยช่างทดแทนคุณแผ่นดินน้อยเหลือเกิน....น้องออตเห็นด้วยไหมคะ...
เขียนดีมากครับ อย่างไรคงมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนงานกันนะครับ
ทต.พันเสา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก