กม.คุ้มครองเหยื่อ-หมอ

กฎหมายมีไว้เพื่อพิสูจน์ความผิด....แต่จริยธรรม มีไว้เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ?

ครม.ผ่าน กม.คุ้มครองเหยื่อ-หมอ เพื่อลดปัญหาคดีฉาวประชาชนฟ้องผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์

<p>เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายณัฐฐ์วัฒน์ สุทธิโยธิน ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 กันยายน ว่า ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อลดปัญหาผู้ได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขฟ้องผู้ประกอบวิชาชีพและสถานพยาบาลเป็นจำนวนมาก สาระสำคัญคือ </p><p>1.กำหนดให้บุคคลซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รับความคุ้มครอง และมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและเงินชดเชยจากกองทุนโดยไม่ต้องพิสูจน์ความรับผิดว่าเป็นของผู้ใด </p><p>2.มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรฐานเพื่อคุ้มครองผู้เสียหาย เพื่อพัฒนาและป้องกันความเสียหาย </p><p>3.มีสำนักงานคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข มีฐานะเป็นนิติบุคคล </p><p>4.กองทุนคุ้มครองมีรายได้จากการอุดหนุนของรัฐ และเงินที่เก็บจากผู้ใช้บริการ </p><p>ที่ประชุมให้ สธ.สุขรับข้อเสนอแนะเรื่องความซ้ำซ้อนกับ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ส่วนแพทยสภามีข้อสังเกต ดังนี้ </p><p>1.กองทุนควรมีขนาดใด </p><p>2.การกำหนดให้ผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือและชดเชย โดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด สามารถทำได้หรือไม่ </p><p>3.คณะกรรมการไม่สมดุล ไม่ถ่วงดุลระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพและผู้รับบริการ เป็นต้น</p><p>นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ กล่าวว่า จะดีใจยิ่งขึ้นถ้ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายส่งตัวแทนร่วมในชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างดังกล่าว เพราะบางเรื่องจำเป็นต้องแก้ไข อาทิ มาตรา 44 ระบุห้ามฟ้องอาญาแพทย์ ทั้งที่แพทย์ไม่ใช่อภิสิทธิ์ชน อาจขัดประมวลกฎหมายอาญา ในส่วนที่ต้องคงไว้คือ ไม่ควรตัดสิทธิฟ้องแพ่งภายหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือชดเชยจากกองทุนดังกล่าว </p><p>ที่มา: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=5525&catid=28 (28 ก.ย.50)</p>