รัสนิยายสื่อสรางสรรค์สังคมไทย " ฉันเตือนคุณแล้ว "


ฉันเตือนคุณแล้ว

 วันนี้ตัดสินใจนำเรื่องสั้นผลงานของ น.ส. ลินดา  เนียมเพราะ ซึ่งชนะเลิศระดับจังหวัดเมื่อ ปี ๔๙  อ่านแล้วคงไม่สายสำหรับนักเรียน ม. ๖  นะคะ  ตัดสินใจนำมาลงให้เพราะน้อง ๆ ม. ๖ ปัจุจบันอ่านแล้วชอบมาก  ขอผลบุญครั้งนี้จงเกิดแก่ลินดา นะคะ

ฉันเตือนคุณแล้ว

                                                                                โดย   ลินดา  เนียมเพราะ            ทำไม   ทำไม   ชีวิตฉันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย     เสียงตะโกนของผมดังก้องไปทั่วบริเวณดาดฟ้าตึก  หลังจากที่ผมตะโกนออกมา  แทนที่ผมจะรู้สึกดีขึ้น  กลับทำให้ผมรู้สึกยิ่งแย่ลงไปอีก  วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยของผม  ผมสอบไม่ติดแม้มหาวิทยาลัยเดียว  มิหนำซ้ำเมื่อผมไปหานัท  แฟนของผม  ผมหวังว่าจะได้ยิน คำปลอบใจจากเธอ  แต่เธอกลับซ้ำเติมผมและที่ร้ายแรงกว่านั้นเธอตัดความสัมพันธ์ของเรา ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า เธอไม่อยากคบกับผม  เพราะในตอนนี้ผมเป็นเพียงแค่ผู้ชายที่มองไม่เห็นอนาคตคนหนึ่งเท่านั้น   ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมมาอยู่บนตึกนี้ได้อย่างไร  ชั่วขณะหนึ่งของความคิด  ผมอยากกลับไปหาพ่อผม  อยากให้พ่อปลอบใจผม  แต่แล้วผมก็หยุดความคิดไว้เพียงนั้น  เพราะหูของผมแว่วเสียงคำด่าจากพ่อมาเสียก่อน  ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการเรียน  พ่อมักจะดุด่าผมทุกครั้ง  และลงท้ายด้วยการเปรียบเทียบผมกับพี่ชายที่กำลังเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจให้ผมเจ็บปวดเสมอ . . .  ตาผมมองไปที่ขอบดาดฟ้าตึก  เท้าของผมเริ่มก้าวทีละก้าว. .  อีกเพียงสามก้าวเท่านั้น  ผมก็จะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ทั้งปวงอีกแล้ว   กลับบ้านกันเถอะนะ  พ่ออาจจะดุนายก็จริง  แต่พรุ่งนี้พ่อก็คงหายโกรธ  พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้แน่ ๆ เชื่อฉันสิ   เสียงหนึ่งดังขึ้นมาในใจ   เชอะ! ฝันไปเถอะ  นายสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้  พ่อนายจะไม่ดุนายเหรอ คิดได้ยังไงกัน   อีกเสียงดังค้านขึ้นมา  และเสียงนี้ก็มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ผมก้าวเท้าต่อไป   หยุดนะ เสียงหนึ่งทำให้ผมต้องชะงักเท้า  เงาประหลาดสีเงินเปล่งรัศมีสดใสปรากฏอยู่ตรงหน้าผม อะไรกัน  คุณเป็นใคร    ผมถาม ทั้งยังรู้สึกแปลกใจที่ผมไม่ได้นึกกลัวเอาเสียเลย  ฉันเป็นความหวังที่เหลืออยู่ในจิตใจของคุณไงล่ะ   เสียงตอบกลับมาทำเอาผมหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกเหยียดหยาม แล้วไงล่ะ !  จะมาห้ามผมเหรอ   อย่าฝันไปหน่อยเลย  ชีวิตของผมยังจะเหลืออะไรอีก   ผมถาม มีสิ !  ถ้าคุณไม่มีความหวัง  ฉันคงปรากฏตัวมาให้คุณเห็นไม่ได้ เสียงนั้นยังตอบกลับมา   ชีวิตคนเราเป็นของมีค่านะ  คิดดูสิ  กว่าคุณจะเกิดมาบนโลกใบนี้  แม่คุณต้องลำบากขนาดไหน  พ่อของคุณต้องเหน็ดเหนื่อยเลี้ยงดูคุณมา  ต้องใช้ความรักความอดทนเท่าไร  กว่าจะมาเป็นคุณทุกวันนี้       ผมนิ่งเงียบ  เริ่มรู้สึกเสียใจ  แต่ด้วยความเจ็บปวดที่สะสมในใจทำให้ผมเถียงเธอไม่ออก คุณจะมารู้อะไร พ่อนะเหรอใช้ความรักเลี้ยงดูผม  คุณคิดผิดแล้ว  พ่อใช้ความเกลียดชังเลี้ยงผมต่างหาก โธ่เอ๊ย !  มนุษย์หนอมนุษย์  ช่างโง่เขลาอะไรอย่างนี้  สิ่งที่พ่อคุณทำนะเหรอที่เรียกว่าความเกลียดชัง  ถ้าอย่างนั้นคงไม่มีใครในโลกใบนี้ที่รักคุณแล้วละ  ฉันขอเตือนคุณนะ  ถ้าคุณคิดอย่างนี้ต่อไป  สักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจ  ฉันเตือนคุณแล้วนะ       โว้ย!   หยุดพูดสักทีเถอะ  คุณรู้ไหม  ตอนนี้ผมรู้สึกยังไง  ผมไม่อยากอยู่อีกต่อไปแล้ว  สอบก็ไม่ติด  พ่อก็ไม่รัก  แฟนยังบอกเลิกอีก  แล้วผมจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร   ผมตะโกนอย่างกดดัน  ตามองไปข้างล่าง  อีกเพียงก้าวเดียวกับการปล่อยตัวให้เป็นไปตามแรงดึงดูดของโลก  ชีวิตของผมก็จะจบสิ้นกันสักที  ราวกับเงาประหลาดที่ชื่อว่าความหวังนั้นจะล่วงรู้ถึงความคิดของผม จึงได้กล่าวขึ้นว่า  คุณคิดว่าชีวิตคุณจะจบแค่ตรงนี้ใช่ไหม  แค่กระโดลงไปใช่ไหม  ในจิตใจของคุณไม่เคยคิดจะสู้เลยสินะ  คุณรู้ไหมว่าเราทุกคนในโลกนี้ต้องเจอกับปัญหากันทุกคน  แต่เขาก็ยังยืนหยัดอยู่กันได้ เพื่ออะไร  เพื่อความหวังไงล่ะ  เพราะความหวังที่ว่า  วันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้  คุณเหนื่อยได้  คุณท้อได้  แต่อย่าปล่อยให้ความหวังของคุณหมดไปเลย  เชื่อฉันเถอะ  เสียงนั้นวิงวอน  ผมนิ่งคิด  ดวงตาเริ่มพร่างพรายไปด้วยหยาดน้ำตา   อย่าร้องไห้เลยนะ    เสียงปลอบประโลมนั้น  ทำเอาผมรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย  แต่ปากผมก็ยังเถียงออกไปว่า พรุ่งนี้งั้นเหรอ  ผมจะมีพรุ่งนี้ได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้ผมยังมองไม่เห็นอะไรเลย   คนโง่ !  คุณคิดว่าพระเจ้าประทานดวงตาให้คุณทำไมกัน  การที่คุณมีดวงตาทั้งคู่ก็เพื่อจะทำให้คุณได้มองไปข้างหน้า   มองอนาคตของตัวเองและสิ่งที่คุณมีให้สำเร็จ ออกมา  โอกาสอาจจะอยู่ไกล  แต่ถ้าไม่ยื่นมือออกไปคว้ามันเอาไว้  คุณก็จะไม่มีทางได้สัมผัสกับมันเลย  คุณคิดดูให้ดี ๆ  นะ ฉันเตือนคุณแล้ว   เสียงพูดนั้นชัดถ้อยชัดคำ  รัศมีที่อยู่รอบ ๆ เริ่มสลัวลงจิตใจของผมเริ่มกลับสู่ความหดหู่อีกครั้ง  คราวนี้ความเศร้าเสียใจเข้ามาเกาะกุมหัวใจของผมจนดูเหมือนความหวังที่ว่านั้นจะไม่สามารถหาที่ว่างเพื่อแทรกซึมเข้ามาในหัวใจได้เลย  เงาประหลาดนั้น ดูเหมือนจะนิ่งเฉยไปด้วย   และแล้วผมก็ตัดสินใจ  เท้าของผมค่อย ๆ . . . ก้าวออกไปสู่ที่ว่างเปล่าข้างหน้า           คิดดี ๆ นะ ฉันเตือนคุณแล้ว ๆ ๆ ๆ เสียงนั้นสะท้อนก้องอยู่ในหัวของผม  และร่างของผมก็ลอยละลิ่วลงมา  เหมือนภาพพยนต์ที่เริ่มฉายอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเหมือนภาพพยนต์หยุดกระทันหัน  ร่างของผมลอยคว้างอยู่กลางอากาศ     เงาสีเงินนั้นฉาบไล้อยู่รอบ ๆ ตัวผม โธ่เอ๊ย ! ความท้อแท้สิ้นหวังของคุณคงจะมากมายเลยสินะ  คุณถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้  เอาละ  ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว  ฉันก็อยากจะให้คุณดูอะไรสักอย่างหนึ่ง  นี่คืออนาคตของคุณหลังจากวันนี้     เธอพูด  แล้วผมก็เห็นผมกลับบ้าน  พ่อนั่งรอผมอยู่  เมื่อผมเอ่ยปากบอกพ่อว่าผมสอบไม่ติด  แทนที่พ่อจะเอ็ดตะโรด่าว่าผมเหมือนทุกครั้ง  พ่อกลับบอกว่า ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ให้ผมเตรียมตัวไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชน และผมก็สำเร็จการศึกษาออกมา  นั่นผมสินะ  ที่อยู่ในชุดครุยรับปริญญา  ผมได้เข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง  ที่นั่นผมพบกับคู่ชีวิตของผม  ผู้หญิงที่น่ารัก เต็มไปด้วยชีวิตชีวา  เราแต่งงานกัน  ชีวิตผมรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน  ท้ายที่สุด ผมอยู่กับภรรยา       ในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยลูกหลานที่ให้ความรัก ความเอาใจใส่เป็นอย่างดี  ผมยิ้ม         อิ่มเอมใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เห็นแล้วใช่ไหม  เป็นยังไงล่ะ  คุณว่าชีวิตคุณไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมายใช่ไหม  แล้วสิ่งที่คุณเห็นล่ะจะเรียกว่าอะไร        เงานั้นถามผม  ผมยิ้มก่อนจะบอกว่า  ผมเข้าใจแล้ว  ช่วยพาผมกลับไปบนดาดฟ้าเถอะ  ผมเปลี่ยนใจแล้ว   เสียใจด้วยนะ  ฉันทำไม่ได้หรอก  ฉันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้  นี่คือการ             ตัดสินใจของคุณ  หน้าที่ของฉัน คือ  การทำให้คนที่สิ้นหวังกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น  แต่สิ่งใดก็ตามที่เป็นการตัดสินใจของคน ๆ นั้นที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้  คุณคงต้องยอมรับผลการตัดสินใจของคุณแล้วละ   ผมใจหายวูบ  รู้สึกเสียใจที่ตัวเองตัดสินใจเช่นนี้  ไม่มีอะไรมาช่วยผมได้สินะ ผมขอบคุณที่คุณให้สติผม แต่ผมมันโง่เอง แล้วผมจะทำอย่างไรดี   ผมถาม  และรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เหลือเกินที่ถามอะไรออแกไปเช่นนั้น  ผมจะทำอย่างไรได้ในเมื่อเป็นผมเองที่ตัดสินใจกระโดลงมา  ผมคงต้องพบกับจุดจบของตัวเองในเวลาอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว ฉันบอกแล้วไงว่า  ชีวิตคนเราต้องมีความหวัง  อย่าปล่อยให้ตัวเองสิ้นหวัง ท้อถอยแม้แต่วินาทีเดียว  เวลาของฉันคงหมดเท่านี้  จำไว้ว่า  ฉันยังคงอยู่ในหัวใจของคุณตลอดเวลาตราบเท่าที่คุณไม่ท้อแท้ไม่ท้อถอยกับชีวิต  ลาก่อน  โชคดีนะ  สิ้นเสียงพูดแล้ว  เงาสีเงินนั้นก็รวมกันเป็นลำแสงสีเงินสดใสก่อนจะพุ่งเป็นเส้นตรงเข้ามาตรงอกข้างซ้ายของผม  ในวินาทีนั้น ความปิติอิ่มเอมใจดูเหมือนจะท่วมท้นหัวใจของผม  แม้แต่ในวินาทีที่ร่างของผมค่อย ๆ ลอยละลิ่วลงมา  ในหัวสมองของผมมีแต่ภาพเหตุการณ์และคำพูดของเงาสีเงินที่ชื่อว่าความหวังนั้นพร้อมกับเสียงสะท้อนที่ว่า ฉันเตือนคุณแล้ว ๆ ๆ ๆ ณ วินาทีนั้นผมรู้ดีว่าตกลงมาจากตึกสูงขนาดนี้ผมต้องตายแน่ ๆ แต่ผมกลับมีความหวังอย่างประหลาดว่า ผมจะรอดชีวิต ตุ๊บ !พลั่ก !  เสียงร่างของผมกระทบพื้นดังสนั่น  ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป  ปาฏิหาริย์ เด็กหนุ่มตกตึก 10 ชั้น รอดชีวิตซุปเปอร์แมนเมืองไทย  ตกตึก 10 ชั้น  แค่สลบ ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวกันเกรียวกราว  เป็นข่าวโด่งดังอยู่หลายวัน   คงจะเทียบไม่ได้กับความดีใจของผม  ในวินาทีที่ผมฟื้นขึ้นมาและรับรู้ว่าตัวเองมีชีวิตรอดมาได้  พ่อตรงเข้ากอดผมไว้แน่น  และเอาแต่พูดว่า  ผมคือชีวิตของท่าน  ผมเองก็ดีใจที่รู้ว่าชีวิตของผมนั้นมีความหมาย  มีคุณค่ากับใครหลาย ๆ คน  โดยเฉพาะในวันนี้  วันที่ผมได้กลายเป็นพ่อคน  แม้ผมจะรู้ล่วงหน้าจากเหตุการณ์ในวันนั้นแล้วว่า  ชีวิตผมจะเป็นเช่นไร  แต่เชื่อไหมครับว่า   ผมไม่เคยที่จะประมาทปล่อยให้หัวใจท้อถอย  ผมใช้เวลาในทุกวันอย่างเต็มที่  แม้จะมีปัญหาเข้ามาบ้าง  แต่ผมกลับมีแต่ความหวังและกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อไป  จนถึงวันนี้  ลูก ๆ ของผมเติบโตขึ้นมา เจอกับปัญหาผมก็สอนเขา ด้วยคำพูดที่เงาแห่งความหวังนั้นพูดกับผม  บางครั้งผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับปัญหาที่ผมและลูกๆ พบเจอ  ผมก็จะได้ยินแต่เสียงที่ว่า   ฉันเตือนคุณแล้ว ๆ ๆ ๆ     มันทำให้ผมลุกขึ้นมาสู้ต่อไป  ด้วยความเชื่อหนึ่งที่ติดอยู่ในหัวใจของผมว่า    พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้แน่นอน   และหวังว่าทุกสิ่งในชีวิตของผมจะดีต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจของผมยังมีความหวังอยู่อย่างท่วมท้นในหัวใจ  
หมายเลขบันทึก: 130974เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2007 17:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท