ความสำคัญของระบบการประเมินผลงานต่อการพัฒนาบุคลากรขององค์การในสังคมไทย


ความสำคัญระบบประเมินผลงานของสังคมไทย

ความสำคัญของระบบการประเมินผลงานต่อการพัฒนาบุคลากรขององค์การในสังคมไทย 

     เป็นที่ยอมรับว่า องค์กรใด ๆ จะมีความก้าวหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ เป็นผลหรือมีพื้นฐานมาจากคนในองค์กรทั้งสิ้น ส่วนประกอบต่าง ๆ ในการดำเนินงานทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน วัสดุ อุปกรณ์ การจัดการ และคน ในท้ายที่สุดแล้ว คนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้องค์ประกอบที่เหลือมีคุณค่าและเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อความสำเร็จขององค์การ ดังนั้นคุณภาพของคนจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการสร้างความสำเร็จและความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนให้แก่องค์การใด ๆ

       ในความเข้าใจของคนทั่วไป เมื่อพูดถึงเรื่องการสร้างคุณภาพให้แก่คน หรือพนักงานในองค์การ ส่วนใหญ่จะคิดถึงเรื่องของการฝึกอบรมเป็นอันดับแรก และอาจคิดถึงเพียงอย่างเดียวสำหรับหลายๆ คน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การพัฒนาคนให้เกิดคุณภาพ หรือการสร้างให้พนักงานเป็นคนมีคุณภาพ มิใช่จำกัดอยู่ที่การใช้การฝึกอบรมเป็นทางออก (solution) เท่านั้น หากแต่การให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของคนตั้งแต่แรกเข้า หรือตั้งแต่การสรรหาว่าจ้างก็ถือเป็นกระบวนการเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพของสมาชิกในองค์การแล้ว กล่าวคือ ถ้าเราพิจารณาว่าคุณภาพของคนอยู่ที่ผลงาน การสรรหาบุคคลที่มีประสบการณ์ตรงกับตำแหน่งที่ว่างและมี Success story ในการทำงานที่เดิมอาจถือเป็นเงื่อนไขในการรับเข้าทำงานเบื้องต้น แต่ถ้าจะพิจารณาให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก การมีเงื่อนไขด้านศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองของผู้สมัครก็จะช่วยให้การพัฒนาบุคคลคนนี้ในอนาคตเป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนี้ถ้าจะพิจารณาต่อในแง่ของการพัฒนาบุคคลเพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กร การสร้างบรรยากาศที่ดี เอื้อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาของบุคคลก็มีความสำคัญไม่น้อย ดังนั้นการได้มาและมีอยู่ของสมาชิกในองค์การที่เมื่อมาอยู่รวมกันและสร้างวัฒนธรรมร่วมกันจึงไม่อาจละเลยได้ นั่นคือการเลือกสรรเฉพาะคนเก่ง คือมีผลงานดีก่อนมาร่วมงานจึงไม่เพียงพอ หากแต่ต้องเลือกคนดีเข้ามาช่วยสร้างวัฒนธรรมที่ดี เป็นคนดีที่มีศักยภาพในการพัฒนาอันจะส่งผลให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพได้ตามที่คาดหวัง

       ดังนั้นแนวคิดในด้านการพัฒนาบุคคลจึงไม่พึงจำกัดอยู่เพียงเรื่องของการฝึกอบรมเท่านั้น ปัจจัยด้านการพัฒนาบุคลากรเริ่มตั้งแต่กระบวนการสรรหาว่าจ้าง การเลือกคนที่มีศักยภาพ และความสามารถในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองมาเป็นสมาชิกในองค์การ การเลือกคนดีเพื่อมีโอกาสในการสร้างบรรยากาศของการพัฒนาในองค์การ การกำหนดให้มีเส้นทางการเติบโตในสายงาน อาชีพเพื่อรองรับการพัฒนาตนเองของปัจเจกบุคคล และปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามคือ ระบบการประเมินผลงานนั่นเอง

       ความสำคัญของระบบการประเมินผลงานต่อการพัฒนาบุคคลในองค์การใด ๆ กล่าวคือ เป็นกระบวนการที่กำหนดคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้น ควบคุมการสร้างคุณภาพและเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาระดับคุณภาพให้ดีขึ้น ถือเป็น Key success factor ที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพพนักงาน จะเห็นได้ว่า องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากร มักจะมีระบบการประเมินผลงานที่ชัดเจนและเปิดเผย พนักงานจึงจะสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้ด้วยความเต็มใจและมั่นใจ

       ในอดีต การประเมินผลงานของพนักงานในองค์การส่วนใหญ่ มีรูปแบบคล้าย ๆ กันคือ หัวหน้างานเป็นผู้กำหนดแนวทาง วิธีการและตัดสินลูกน้องจากพฤติกรรมในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงระดับของความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับหัวหน้าด้วย การวัดผลส่วนใหญ่มาจากความรู้สึกของหัวหน้าและมักจะมาจากความทรงจำระยะสั้น ๆ ของหัวหน้าในช่วงก่อนการประเมินผลงาน ซึ่งด้วยรูปแบบนี้ ไม่อาจสร้างบรรยากาศในการพัฒนาบุคลากรได้

       ต่อมาได้มีการพัฒนาระบบการประเมินผลงานขึ้นเป็นลำดับ เป็นผลมาจากแนวคิดที่เปลี่ยนไปในเชิงของการบริหาร จากแนวทางการบริหารจัดการแบบ Management By Objective (MBO) ทำให้เกิดแนวทางในการประเมินผลงานแบบมีการกำหนดเป้าหมายของงาน กำหนดตัวชี้วัดและมีกฎเกณฑ์ชัดเจนมากขึ้นในการประเมิน ยึดเอาผลลัพธ์เป็นเกณฑ์ (Result oriented) ซึ่งแม้วิธีนี้จะเป็นที่นิยมเพราะอาจจะเหมาะสมกับธุรกิจในสภาพการแข่งขันของโลกปัจจุบัน กระตุ้นให้ผลประกอบการดีขึ้นจากผลงานของพนักงานที่ถูกควบคุมผลลัพธ์ของงานเป็นหลัก จนลืมนึกถึงความเป็นมนุษย์และความจำเป็นในการพัฒนาปัจเจกบุคคล ซึ่งความจำเป็นในเรื่องนี้ส่งผลต่อการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและมีคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวมในท้ายที่สุดเราคาดหวังว่าสังคมไทยควรเป็นอย่างไร เรามักจะนึกไปถึงเยาวชน และพยายามสรรหามาตรการ กฎเกณฑ์ทางสังคม ระบบการควบคุมการเรียนรู้ของเยาวชน แต่เราลืมนึกไปว่า สังคมของคนทำงานมีส่วนสำคัญและมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบตะวันตกที่เน้นผลงาน ทำให้พฤติกรรมในการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอาจเสื่อมทรามลงด้วยความเห็นแก่ตัว และการให้รางวัลหรือผลตอบแทนเป็นเงื่อนไขในการดำเนินชีวิต เราอาจสามารถสร้างคนเก่งได้จากระบบการประเมินผลงานแบบนี้ แต่คนดีคงหาได้ยากมากขึ้นเพราะเงื่อนไขในการสนับสนุนให้คนทำดีในองค์การมีน้อยลง

       ดังนั้นระบบการประเมินผลงานที่เหมาะสม พึงให้ความสำคัญกับการประเมินความประพฤติของบุคคลในองค์การด้วย และให้ความสำคัญกับพฤติกรรมที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์การที่ดีผ่านระบบการประเมินผลงาน เพราะโดยธรรมชาติแล้วบุคคลย่อมมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมใด ๆที่มีรางวัลตอบสนองเป็นเงื่อนไข เช่นการให้คะแนนประเมินผลส่วนหนึ่งแก่พนักงาน จากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมช่วยเหลือสังคมร่วมกับบริษัท หรือคะแนนจากการที่พนักงานให้ความร่วมมือ ช่วยเหลืองานในโครงการสำคัญ ๆของบริษัท ทั้งที่มิใช่งานในหน้าที่ที่มอบหมายจากหัวหน้างานเป็นต้น ซึ่งในระบบการประเมินผลงานในส่วนนี้ สามารถกำหนด KPI ได้เช่นเดียวกับในส่วนของการวัดผลงานจากเป้าหมายของงาน          

       สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของโลก การแข่งขันเพื่อความอยู่รอดแบบไม่เคยพอเพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะสมให้เกิดขึ้นได้ หากองค์กรธุรกิจจะให้ความสำคัญแก่การสร้างวัฒธรรมที่ดีขึ้นในองค์การ จากหน่วยย่อย ๆ หลายๆหน่วย จากองค์การ หลาย ๆ องค์การ การมุ่งเน้นพัฒนาบุคคลให้เป็นคนดี มิใช่เน้นแต่เพียงให้เกิดผลงานดีเพื่อผลประกอบการที่ดีเท่านั้น คนดีในสังคมจะมากขึ้น และจะส่งผลให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนต่อไป ทั้งในทางธุรกิจและปัจเจกบุคคล และนั่นเอง คือคำตอบสุดท้ายของการพัฒนาบุคลากรในสังคมไทย  

                                              น.ส.สุทธิพรรณ ฉันทปฏิมา

                                                 5078318038

                                                   ผู้เรียบเรียง
หมายเลขบันทึก: 130507เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2007 00:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 11:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สุทธิพรรณ ฉันทปฏิมา (เหมี่ยว)

     ต้องขออภัยอาจารย์ส้มและเพื่อนๆ  ทุกคนที่เข้ามาแจ้งกระทู้ล่าช้า เพราะไม่มีเวลาจริง ๆ ค่ะ หวังว่างานชิ้นนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ  บ้างนะคะ 

 

ขอบคุณค่ะ

เอ๋ ฐิติมนต์ เสถียรจิรนนท์

พี่เหมียวเอ๋อ่านงานของพี่แล้วค่ะได้ประโยชน์ค่ะ ทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้น ตอนแรกเห็นหัวข้อเก๋มากเลย ( หัวข้อยากมากค่ะพี่ทำมานู๋ได้ฟามรู้เยอะเลยค่ะ )

เรียน อ.ส้ม ค่ะ

เอ๋ต้องกราบขออภัยที่ไม่ได้เข้าร่วม presantation เนื่องจากคุณพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจเข้าร.พ.ค่ะ เอ๋เลยไม่มาเรียนเพราะต้องไปเฝ้าคุณพ่อค่ะ ช่วงนี้พ่อออกจากร.พ.แล้ว เอ๋รอโทรฯจากอ.ส้ม ค่ะ เอ๋สัญญาค่ะว่ารายงานเดี่ยวชิ้นที่จะให้เอ๋ทำแทนการ presatation เอ๋จะทำให้ดีที่สุดค่ะ  เอ๋ไม่มีเบอร์อ.ส้มเลยค่ะ เลยใช้วิธีนี้เผื่อ อ.ส้มเปิดเข้ามาเห็นค่ะ

mobile  086-9930190

office    02-1344387

e-mail    [email protected]

              [email protected]

ขออภัยอ.ส้มด้วยค่ะและกราบขอบพระคุณที่อ.ส้มให้โอกาสทำงานส่งค่ะ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

เอ๋/ฐิติมนต์  เสถียรจิรนนท์

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท