ทุกคนเมื่อย่างเข้าสู่วัยกลางคนมักจะประสบปัญหาเรื่อง “ปวดหลัง” ตรงบั้นเอวเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่มักหายไปเองโดยการนอนพัก หรือรับประทานยาแก้ปวด มีส่วนน้อยที่มีอาการปวดเรื้อรัง หรือมากขึ้นจนทนไม่ไหว ต้องไปให้แพทย์ตรวจรักษา ที่จริง “ปวดหลัง” เป็นเพียงอาการไม่ใช่โรค แล้วแต่สาเหตุว่ามาจากอะไร อาการปวดหลังโดยทั่วไปไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่เป็นปัญหากับผู้คนในวัยทำงาน และการดำรงชีวิต ประจำวัน ชาว gotoknow หลายๆคนคงจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับอาการปวดหลังนี้มาบ้าง เพราะต้องนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
วันนี้มีวิธีการแก้ไขอาการปวดหลังอย่างง่ายมาแนะนำ 7 วิธี ที่น่านำไปปฏิบัติในที่ทำงาน คือ
1.การเลือกขนาดของโต๊ะ เก้าอี้ ให้เหมาะสมพอดีกับสรีระ
2.ไม่ควรใช้เก้าอี้สปริงที่เอนไปได้ เก้าอี้แบบนี้ไม่มีการรองรับหลังเท่าที่ควร ควรเลือกเก้าอี้ที่สามารถเอนได้ และมีความสูงของเก้าอี้-โต๊ะ ต้องได้ระดับและมีหมอนหนุนหลังด้วย
3.คอมพิวเตอร์ที่ใช้ต้องมีการปรับให้จออยู่ในระดับสายตา คือกึ่งกลางของจออยู่ที่ระดับสายตาของเรา การพิมพ์งาน แป้นคีย์บอร์ดควรให้อยู่ในระดับข้อศอก ข้อมือ จะได้ไม่ต้องยกแขนขึ้นมาพิมพ์
4.การใช้เมาส์ ถ้าหากต้องใช้มาก ควรใช้เมาส์ที่เป็น 'แทรกกิ้ง บอล' หรือไร้สายที่สามารถนำมาใกล้ๆ ตัวได้ และสามารถใช้ได้ถนัดโดยไม่ต้องยื่นแขนไป
5.ไม่ควรนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป ควรจะเบรกทุกๆ ชั่วโมง หรือ 45 นาที เพื่อผ่อนอิริยาบถ และควรนั่งตรงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อจะได้ไม่ต้องบิดตัวไปมา
6.ควรนั่งเก้าอี้ให้เต็มก้น ซึ่งสาวออฟฟิศส่วนใหญ่ชอบนั่งเก้าอี้แค่ครึ่งเดียวหรือปลายเก้าอี้
7.ควรมีการบริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งท่าง่ายๆ นอกจากการลุกเปลี่ยนอิริยาบถ เดินไปเดินมา คือการบีบคอ ยืดกล้ามเนื้อคอ เอียงไปทางซ้ายและขวา ก้มหน้าเงยหน้า และแต่ละท่าค้างไว้สักสิบนาที หรือยืดกล้ามเนื้อหลัง จะต้องทำช้าๆ และค้างไว้ประมาณ 10 วินาที เพื่อให้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นยืดตัวได้ ถ้าก้มแรงๆ หรือยืดกระแทกแรงๆ จะทำให้เกิดการฉีกขาด หรือเกิดบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้
สูตรง่ายๆ แค่นี้ ก็จะทำให้พวกเราทั้งหลายมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และที่สำคัญไม่มีอาการปวดหลังเรื้อรังให้น่ารำคาญใจอีก
ไม่มีความเห็น