คิดก่อนซื้อ คิดก่อนลงทุน
ปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่า มุมมองของผู้ใช้ทั่วไปมองว่าการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ใครก็ทำได้ ความกลัวที่จะทดลองใช้เริ่มหายไปกลายเป็นความอยากรู้อยากเห็นเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ๆ แทบจะพุ่งเข้าใส่เวลาที่มีการสาธิตการใช้โปรแกรม หรือเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ในงานแสดงสินค้าคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ตอนเช้า ๆ เราอาจนั่งจิบกาแฟ หรือรับประทานอาหารไปพร้อม ๆ กับการใช้เทคโนโลยี Wi-Fi เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการได้ทันที หรือฟังเพลงสุดฮิตจาก iPOD เครื่องเล่นเอ็มพีสาม หรือเลือกฟังผลการแข่งขันฟุตบอลนัดเมื่อคืนระหว่างขับรถมาทำงานโดยใช้เครื่องเสียงรถยนต์เปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาใส่ไว้ในเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ขณะที่เรากำลังอาบน้ำอยู่ เราต่างเกาะกระแสเหตุการณ์ และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ต้องการได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รูปแบบต่าง ๆ
แนวโน้มแบบนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยุทธศาสตร์ของผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีทั้งหลาย ในการนำเสนอข่าวสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้ผ่านสื่อโฆษณา โดยมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนทัศนคติในการใช้งานและสร้างภาพลักษณ์ของตัวสินค้าว่า เป็นเรื่องที่ง่าย ๆ สนุก และอินเทรนด์ เพื่อสร้าง Customer Driven หรือแรงผลักดันจากผู้บริโภคให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการ จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะใช้จ่ายเงินทองเพื่อเลือกซื้อเลือกหาสินค้าเทคโนโลยีเหล่านั้นมาเป็นสมบัติของตนเอง (แม้ว่าบางครั้งจะต้องยืมเงินในอนาคตมาใช้ก่อนและต้องจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจำเป็น)
แต่สินค้าเทคโนโลยีเป็นอะไรที่ นับถอยหลัง เริ่มเก่าและตกรุ่นไปตั้งแต่วินาทีแรกที่เราได้ซื้อหามาครอบครอง และโดยเฉพาะสินค้าราคาแพงที่ใช้ในหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (File Server) ในระบบแลน ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะทันสมัยสุด ๆ ก็ไม่พ้นที่จะต้อง นับถอยหลัง Final Count Down ไปด้วยกัน
เรื่องนี้มีทางแก้ไขเพียงทางเดียวคือ คิดก่อนซื้อ-คิดก่อนลงทุน โดยต้องลงมือศึกษาโปรแกรมที่จะนำมาใช้งานให้เหมาะสม เตรียมการสร้างระบบงาน สร้างบุคลากร จัดการฝึกอบรมให้รู้จริง-ใช้เป็น โดยจะต้องเลือกใช้ที่ปรึกษา เลือกซื้อสินค้าจากผู้ขายที่สามารถให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน คุ้มค่ากว่าแน่นอนครับ.
ความเห็น (1)
