ชีวิตประจำวันศิษย์การบิน ภาค 1


นักบิน,ศิษย์การบิน
หลังจากการผ่านแบบทดสอบอันหนักหน่วงกว่าจะผ่านมาเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องหาคนรับกรรมมาทำเรื่องค้ำประกัน เอาน่า ไงก็เลือกแล้วนี่นาว่าไม่อยู่งานสอบสวนอีกแล้วนี่นา ดั้นด้นมาสอบจนได้ ในที่สุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้มีคำสั่งให้ผมไปทำการศึกษาอบรมที่สถาบันการบินพลเรือน (แต่แปลกนะ...ไม่ยักกะแต่งตั้งเป็นศิษย์การบิน ไม่งั้นเบิกเงินค่าศิษย์การบินได้อีกหลายตังค์เลย) แต่พอมีคำสั่งปั๊บ ตัดเงินค่าวิชาชีพสอบสวนปั๊บ อันนี้ขอชมเชยระบบข้าราชการไทยครับว่าเห็นใคราได้ดีไม่ได้ต้องเสนอเรื่องให้ตัด...แต่เรื่องเบิกเงินเหรอ...โ..ตรช้าเลย 555
เอาน่า ....เลือกเปลี่ยนงานจากพนักงานสอบสวนมาเป็นนักบินแล้วนี่นา เอาน่าไปตายเอาดาบหน้า ในที่สุดพนักงานสอบสวนหนุ่ม หลังจากโดนเรื่อง(ไม่อยากเล่าว่าเรื่องอะไร) ก็ได้เข้ามาเรียนเป็นนักบินเสียที แต่ชีวิตการเป็นนักบินมันได้เริ่มขึ้นที่สถาบันแห่งนี้เอง
"สถาบันการบินพลเรือน" หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่รู้จัก ไม่ใกล้ไม่ไกล ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร นี่เอง ใช่แล้วครับหน้าสวนจตุจักร ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า หมอชิต นี่เอง ทีนี่ผมถูกส่งตัวมาอบรมภาคทฤษฎีครับ โดยวิชาที่เรียนที่นี่ส่วนมาก อย่างที่ได้เล่าให้ฟังครับ ภาษาอังกฤษต้องดีครับ.....หมายความว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านจะต้องกินนอนกับภาษาอังกฤษทั้งหมดครับ แม่น..แล้วครับ เพราะว่าเค้าสอนกันเป็นภาษาอังกฤษครับพี่น้อง ถ้าเป็นแค่ตำราไม่เท่าไร แต่ทั้งตำราที่แบบว่าเปิดดิกชันนารีไม่ทันอยู่แล้ว แต่อาจารย์หรือที่นีเค้าเรียกกันว่าครู สอนนั้น เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยครับพี่น้อง
งานนี้ตำรวจไทยอึ้งครับ เพราะว่าเรียนกฎหมายมาครับ เป็นไทยทั้งนั้นแค่ไทยเป็นไทยก็แย่แล้ว นี่อังกฤษครับ เกลียดแทบเข้ากระดูกดำ แต่ก็ยังดีที่เค้าเรียบเรียงเนื้อหารายวิชามาดีครับ ให้สอนวิชา English Technical ประมาณนี้ครับ เกี่ยวกับศัพท์ทางเทคนิคของเครื่องบิน เช่นปีกมีอะไรบ้าง อะไรเรียกว่าอะไร ลึกเข้าไปหน่อย แต่อย่างว่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด งานนี้เหนื่อยครับ เพราะว่าต้องออกแรงมากหน่อย ขยันมากหน่อยครับ ไม่งั้นตายครับ .....
การแก้ไขสถานการณ์นี้เนื่องจากผมเป็นพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม จาหนองแขม มา สถาบันการบินพลเรือนครับ แทบข้ามโลก ต้องอาศัยการนั่งรถเมล์ครับ เพราะว่าประหยัด (รถก็มีครับแต่ไม่ขับ เพราะว่าเปลืองน้ำมัน...ช่วงนั้นเหลือเงินเดือนหมื่นนิดๆ หักน้ำไฟก็เหลือแปดพันกว่า ๆ ไม่พอครับพี่น้อง....ค่าบัตรเครดิตไปห้าพัน หนี้สินอีก หมดพอดี) เอาน่าอย่างน้อยเหมือนเดิมครับท่าน น้ำบ่อหน้า...จบเมื่อไร ได้ลืมหูลืมตา
ผมต้องตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ครับทุกวันครับ อาบน้ำ อาบท่า เดินมาที่ สน.หนองแขม (แฟบตอยู่หลัง สน.หนองแขม ครับ) ใช้บารมีเดิมให้ลูกน้องเอารถร้อยเวรไปส่งที่ปากซอยเพชรเกษม 81 แล้วขึ้นรถเมล์ไปลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วต่อรถไฟฟ้า(เพราะว่าไม่งั้นไม่ทันแน่..แพงหน่อยแต่คุ้ม) ไปลงหมอชิตครับโดยผมก็เหมือนนักเรียนทั่วไปครับ แต่ที่สำคัญทุกครั้งที่ขึ้นรถเมล์ผมจะอ่านหนังสือครับ ตลอดทางเลยครับ พยายามอ่านครับ เพราะว่าอย่างน้อยคิดว่าเวลาว่างครับ รถติด เราได้ประโยชน์
แต่การขึ้นรถเมล์ทำให้ผมได้คิดนะครับ ได้มองเห็นคน เห็นสรรพสิ่งของโลก การเอาเปรียบ การเห็นแก่ตัวจองสังคมเมือง ผู้หญิงขึ้นมาไม่มีใครลุกให้ แม้แต่เด็กนักเรียนซึ่งผมให้เกียรติครับ โรงเรียนเตรียมทหารสอนมา โรงเรียนนายร้อยตำรวจสอนมา หลายท่านสงสัยไหม ทำไม นักเรียนนายร้อยไม่นั่ง ก็เพราะว่าเค้าสอนต่อๆ กันมาว่า ถ้าในรถมีคนยืนแม้แต่คนเดียวห้ามนั่ง เพราะว่าเราเป็ฯข้าราชการ รับใช้ประชาชน อันนี้ผมได้มาติดตัวตลอดเลยครับ ให้คนอื่นนั่ง เรายืน เราทนได้ ให้คนอื่นสบาย
ย้อนกลับมาถึงที่สถาบันการบินพลเรือน ก็จะมาถึงประมาณเจ็ดโมงครึ่ง ทานข้าวที่โรงอาหาร ขอบอกครับ นักบินไม่ได้กินหรูครับ ข้าวราดแกงครับ ขอบอก เพื่อมีแรงเรียนตอนเก้าโมงเช้าครับ แล้วก็จะเรียน ไปจนถึงเที่ยง แล้วพักเที่ยง ไปทานอาหาร ไอ้ตอนเที่ยงนี่หล่ะครับ ต้องใช้เวลาให้คุ้ม ไม่ทานอาหารที่โรงอาหารแล้วครับ ถ้าใครรู้จักที่นี่ มันจะติดกับขนส่งกรุงเทพครับ พวกเรานักบินก็แบบว่าต้นเดือนก็เดินไปกินข้าวครับที่นีอาหารเยอะกว่าที่สถาบันฯ มีอาหารตาให้ดูเพียบ แก้เหงาไปได้ช่วงขณะ แต่ขอโทษครับ คนเยอะอย่างกับมด รีบกินรีบกลับครับ ไม่งั้นไม่ทัน
บ่ายโมงเริ่มเรียนครับ เลิกอีกทีบ่ายสามโมงหรือไม่แน่บางวันสี่โมง หลังเลิกถ้าบ้านไหนมีตังค์ก็ขับรถกลับบ้าน แต่ผมรถเมล์นี่ครับ เบนซ์ครับพี่น้องสองประตูยี่สิบหน้าต่าง กลับหนองแขม เช่นเดิมครับ กว่าจะถึงก็ราวๆ ทุ่มนึงครับ เพราะว่าต้องไปต่อรถที่สนามหลวงครับ มาถึงก็หมดแรงไปหาไรทานที่ตลาดนัดข้างๆ สน.นี่หล่ะ ส่วนมากเป็นข้าวขาหมู ข้าวต้ม
ชีวิตเป็นแบบนี้ประมาณสองเดือนครับที่เรียนที่นี่จนมีคำสั่งให้ไปเรียนต่อที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพิ่งรู้เค้ามีที่เรียนอีกที่ที่นั่น เท่าที่รู้เป็นศูนย์ฝึกการบินครับ........ไว้มาต่อกันนะครับ


หมายเลขบันทึก: 126205เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2007 01:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 20:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

รู้สึกภูมิใจและดีใจในฐานะที่ท่านเป็นตำรวจที่มีคุณธรรมขอชื่นชมในความ มุ่งมั่น ตั่งใจ สมกับที่ผ่านโรงเรียนสุภาพบุรุษโดยแท้จริง อยากให้ตำรวจเป็นอย่างนี้อีกหลายๆคนเพื่อสังคมไทยเพื่อในหลวงนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท