กว่าจะเป็นศิษย์การบิน ภาคที่ 2/1


นักบิน,ศิษย์การบิน
หลังจากที่ผ่านขั้นตอนการคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อันน่าภาคภูมิใจมาได้ ก็ได้เข้ามาอบรมในหลักสูตรนักบินพานิชย์ตรี(เฮลิคอปเตอร์) รุ่นที่ 37
ความน่าภูมิใจมันอยู่ที่การสอบที่ผ่านมานั้นมีผู้สมัครทั้งหมด 8 คน ต้องการผู้ที่เข้าเป็นนักบินทั้งหมด 4 คน โดยจากการทดสอบในขั้นแรกนั้น ให้ผู้สมัครทั้ง 8 คน ทำการทดสอบด้านเวชศาสตร์การบิน โดยผมเข้าใจว่าในประเทศไทยมีแห่งเดียวที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ โดยการทดสอบจะแบ่งเป็นสองวัน (เอ...แล้วอย่างนี้ถือว่าเอาความลับของทางราชการมาเปิดเผยเป่าเนี่ย...แต่เอาน่าเพื่อเป็นความรู้สำหรับพ่อ แม่ พี่ น้อง ที่มีบุตรหลานมีความใฝ่ในเป็นนักบิน)
วันแรก ทำการตรวจร่างกายของผู้ทำการทดสอบทั่วไป โดยวันนี้เริ่มต้นด้วยการไปตรวจที่โรงพยาบาลภูมิพล (ทราบกันดีแล้วว่าเป็นของทหารอากาศ) รายการตรวจเริ่มต้นจากการตรวจเลือด โดยการเจาะเลือดไปตรวจที่ห้องแล็ป ด่านนี้ถือว่าหินที่สุดสำหรับผมเพราะว่าขอสารภาพว่ากลัวเข็มฉีดยาที่สุดในชีวิต ชาตินี้เห็นเข็มแล้วจะเป็นลม (จริงๆ นะไม่ได้โม้) แล้วเจ้าหน้าที่จะเอากระบอกใส่ปัสสาวะให้เร้าไปทำการเก็บในห้องน้ำ ข้อสำคัญคือท่านต้องปัสสาวะช่วงแรกออกไปก่อน แล้วเก็บตรงช่วงกลาง โดยก่อนเก็บห้ามเอากระดาษทิชชู่เช็ดนะครับ เพราะว่าจะทำให้ผลการตรวจออกมาคลาดเคลื่อน แล้วเอาวางไว้ครับ แล้วเจ้าหน้าที่มาเก็บเอง จากนั้นเค้าจะให้เราเดินไปเอ็กเรย์ปอด (อันนี้ใครปอดแหกรู้ได้ก็ด่านนี้หล่ะครับ) แต่ไม่ยากเท่าไร ถ้าคนไม่สูบบุหรี่ไม่น่ามีปัญหาครับ เพราะว่าผมไม่สูบผ่านมาได้สบายๆ พอตรวจปอดเสร็จก็ทำการตรวจหู โดยการเข้าห้องตรวจหูเป็นห้องเก็บเสียง เจ้าหน้าที่จะให้เราใส่หูฟังแล้วฟังเสียง ถ้าได้ยิน ก็กดปุ่ม ทำนองนั้น ด่านนี้เล่นเอาผมตกใจครับ ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจอย่างเดียวครับ เพราะว่าเสียวครับ แต่อาศัยดูมือเจ้าหน้าที่ครับ ว่าเค้ากดเมื่อไร เรากดเมื่อนั้น (แต่ตอนหลังเค้ารู้ทันเค้าเอากระดาษมาปิดซะงั้น) พอผ่านการตรวจหูก็เป็นการตรวจสายตา โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ เหมือนร้านแว่นเลยครับ แต่ละเอียดกว่า โดยมีการวัดความดันลูกตา และก็วัดในทางลึกครับ (ใครจินตนาการไม่ออก ให้ลองเอาเชือกมาสองเส้นแล้วดึงให้เท่ากันในทางยาวครับ แบบว่าไกลๆ นะครับ) ด่านนี้ไม่มีไรมาก นอกจากคนที่ผิดปกติเรื่องของตาบอดสีเท่านั้นครับ แต่สำหรับคนตาสั้นไม่มีปัญหาครับ เตรียมแว่นตาไปด้วยครับ ใส่ตรวจได้ครับ (ตามกฎการบินให้นักบินใช้แว่นตาได้ แต่ต้องพกอย่างน้อยสองอันนะครับ)
หลังจากการตรวจสายตา จากนั้นก็ตรวจร่างกายสภาพทางกายภาพ การบิดงอของกระดูก โรคผิวหนังครับ ไม่ยากครับ แค่แก้ผ่าให้หมอตรวจ จากนั้นไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ด่านนี้หล่ะ ทำใจให้สบาย อย่าเครียด อย่ากังวลครับ ไม่งั้นเสร็จ พอรอดมาได้สุดท้ายพบแพทย์ครับ วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ที่ยากก็ตรงวัดความดัน เพราะว่าส่วนมากจะตื่นเต้นกันจะทำให้ความดันสูง แต่พี่ๆ ที่นี่เค้าจะให้เราพักก่อน คือพูดง่ายๆ ช่วยเราครับ ไม่ต้องห่วง ให้เรานั่งจนสบายแล้ววัดครับ สุดท้ายจนเป็นปกติครับผม...เฮ้อ...ผ่านไปวันแรก เหลืออีกวัน เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ
หมายเลขบันทึก: 126202เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2007 00:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 03:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท