วันนี้เป็นการประชุมประจำเดือนขององค์กรแพทย์ของเรา
ซึ่งวันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 4 ท่านจาก5 ท่าน
วันนี้มีเรื่องราวมากหมาย หลากหลายควาคิดความรู้สึกที่อยากจะบันทึกไว้ โดยเฉพาะสิ่งที่ดีๆ ในช่วงท้ายๆ
วาระแรกเป็นเรื่องที่พี่ผอ. มาแจ้งให้ทราบ
1.คนไข้ไข้เลือดออกทั้งหมด 12คนนั้นผลตรวจยืนยันเป็น3 คน
2.เรื่องพรบ สุขภาพ มาตรา7 ที่ต้องระวังเรื่องความลับคนไข้
3.เรื่องปัญหาการสรุปเวชระเบียนช้าของแพทย์
4.เรื่องอำเภอปายออกมาลงประชามติเยอะ 70กว่า % และจังหวัดเราเป็นจังหวัดเดียวที่โหวดผ่านร่าง...
ต่อมาเราก็คุยกันเรื่องบัญชียา ซึ่งได้เชิญคุณเภสัชเข้าด้วย
สรุปได้หลักๆดังนี้
1. มีการเอารายการยาที่ไม่จำเป็น หรือไม่ค่อได้ใช้ออกไป
2. เพิ่มรายการยาที่จำเป็นใหม่ๆเข้ามา
3.ระบบการหายาที่ใช้น้อยแต่จำเป็นมาสำรองที่รพ
4.การใช้เซรุ่มงูเขียวหางไหม้ ที่เราใช้มากปีที่ผ่านมา
5.ยาบางตัวที่อยากเอาเข้ามากแต่ก็แพง จึงยังไม่ตกลงกัน
6.เรื่องขององค์การเภสัชกรรมที่ฟังแล้วจี๊ด เรื่องให้ซื้อยาเพิ่มเป็น 40 % แต่ว่าราคาแพงกว่าของเดิมมาก แล้วมีการให้ตัวเครื่องบินไปเที่ยวกับรพ ที่ได้ซื้อตามเป้าด้วย...รู้สึกว่า...ต่อต้านในเรื่องที่ไม่ยุติธรรม หรือไม่ดีงาม.....
ต่อมาก็พูดเรื่องคุณภาพ สรุปได้ดังนี้
1.ความเสี่ยงเรามีทั้งหมด 10 เรื่อง ก็ช่วยกันแก้ไขต่อไป
2.เรื่องตัวชี้วัดที่เก็บได้ ยังตกเกณฑ์หลายเรื่อง โดยเฉพาะการออกตรวจก่อนเวลา 8.30 น ยังทำไม่ค่อยได้ตามเป้าเลย
3.เรื่องการให้ความรู้ วิชาการทำไปหลายเรื่องในเดือนที่ผ่านมา
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องทั่วไป สบายๆ เป็นเรื่องชีวิต ที่ไม่เกี่ยวกับแพทย์ ผมรู้สึกว่าช่วงนี้จะสนุก เบาๆ และน่าสนใจมาก
***พี่หมอเจม
อายุ 31 ปี จะต้องย้ายกลับบ้านปีหน้า เมษายน คิดแล้วน่าใจหาย เพราะว่าไม่อยากให้พี่ต้องย้าย อยากให้พี่ช่วยทำงานดูแลสุขภาพคนที่นี่ต่อไป แต่พี่ก็ต้องไปเพราะว่าเหตุผลหลายประการ
แต่อุดมการณ์ของพี่คือการเป็นแพทย์ที่ทำงานกับชุมชน งานเชิงรุกจะยังคงอยู่ต่อไป
ผมเคยพูดว่าพี่หมอเจมเป็นพระโพธิสัตย์ ข้างๆผม เพราะว่าพี่ตรวจห้อง4 ผมตรวจห้อง 3 เราอยู่ใกล้กัน คุยกัน ปรึกษากัน ร่วมกันดูแลคนไข้ มีความสุขอย่างยิ่ง เพราะความดีงามของพี่ชายท่านนี้
ผมจะคิดถึงพี่ตลอดไปครับ(อืมขนาดยังไม่จากกันนะเนี่ย..)
**** พี่ผอ..
ต้องย้ายไปเป็นผอ ที่อื่นๆแล้ว พี่จะไปหาประสบการณ์และช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ห่างไกลออกไป เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกครั้งของชีวิต พี่ตั้งคำถามว่าชีวิตคู่เป็นอย่างไรบ้าง ผมตอบว่ามันเป็นความสุขที่สมบูรณ์ คือต้องเรียนรู้ครับ
แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันเพียงปีเดียวแต่ก็มีสิ่งดีๆเกิดขึ้มากมาย
***พี่หมอมุข
อยากให้พี่อยู่ต่อไปด้วยกันไปนานๆ ตอนนี้ไม่แน่ว่าพี่จะอยู่อีกเกิน 2 ปี หรือไม่ เพราะว่าอาจจะไปต่างประเทศกับครอบครัว เพราะว่าผมอยู่กับพี่แล้วสบายใจ ได้เรียนรู้สิ่งดีๆจากพี่มากมาย
มิตรภาพ สิ่งที่พี่เอื้ออารีต่อกัน การช่วยเหลือ น้ำใจที่มากมาย ทำให้รู้สึกว่าพี่อยู่ต่อนะ คนไข้ ชาวบ้านก็ไม่อยากให้พี่ไปไหนนะ เพราะพี่เป็นหมอที่ดี ....
***สุดท้ายก็ผมเอง..
ตอนนี้ไปไหนไม่ได้แล้วละ โดยเฉพาะเรียนต่อ คงไม่มีทางแล้ว คิดว่าคงจะอยู่ที่นี่อย่างน้อย 5 ปี เพราะเจ้าตัวน้อย ภาระเรื่องอื่นๆอีกหลายอย่าง หลังจากนั้น แล้วอาจจะย้ายไปทำงานที่อื่นเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือหาประสบการณ์ ตั้งเป้าว่า อายุ45 ปีคงจะไม่ไหวแล้วละกับการทำงานที่หนักหนาเช่นนี้(หรืออาจจะอยู่ไม่ถึงนะ..)
ชีวิตคงไม่ใช่มีอย่างเดียวที่เราต้องทำ หรืออย่างเดียวที่เราต้องเป็น มีเรื่องราว มีสาระอีกมากมายที่เราต้องเรียนรู้และผ่านไป
ในช่วงท้ายๆนี้คล้ายกับการสุนทรียสนทนา เรื่องคุณจะไปไหน ต่อไปจะทำอะไร มองอนาคตอย่างไร
ขอบคุณพี่ๆทุกคน ขอบคุณการประชุมองค์กรแพทย์วันนี้ วันที่ให้ความรู้สึกที่ดีๆ และอบอุ่นยิ่งนัก.....
สุพัฒน์ ปาย
สวัสดีค่ะ.....
ขอบคุณที่มีเรื่องเล่าดีๆแบบนี้...
เป็นกำลังใจค่ะ...