มีน้องที่ทำงานส่งลิ้งก์จากเวปบอร์ดพันทิพดอทคอมมาให้อ่าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณหมอท่านหนึ่ง ที่ติดเอดส์เนื่องจากรักษาคนไข้ รายละเอียดตามนี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/lumpini/topic/L5615643/L5615643.html
ก้อเลยมีคำถามคุยกันเล่น ๆว่า ระหว่างการที่เรารู้ตัวว่าจะตาย กับตายโดยไม่รู้ตัว อย่างไหนดีกว่ากัน (แน่นอนหล่ะว่ามันไม่ดีทั้งสองอย่าง แต่ชีวิตเราก็คงหลีกเลี่ยงมันไม่ได้แน่ๆ )
น้องที่ทำงานบอกว่า ตายแบ่บไม่รู้ตัวดีกว่านะ แบ่บว่า จู่ ๆ ก็ตายไปเลย จะได้ไม่รู้รับรู้ว่าตัวเองจะต้องตายไป ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจใด ๆ อีก
สำหรับตัวเองคิดว่า ถ้าเลือกได้ (แหะๆ ) ขอรู้ตัวก่อนดีก่านะ แต่ก็ไม่อยากเจ็บป่วย ทรมาน จนตายนะ คือแบ่บ ให้มีเวลาตั้งหลัก จัดการอะไรกับชีวิต แบ่งสมบัติ (และหนี้สิน) รวมทั้งได้ทำใจให้สงบ รอวันตายอย่างสงบ (หวังว่า)
มีเคสหนึ่งที่เป็นน้าข้างบ้าน ก่อนนั้นเป็นหนุ่มเจ้าสำราญมาก กินเหล้า สูบบุหรี่ ..เที่ยวกลางคืน ทำอย่างนั้นจนอายุล่วงเลยเข้าสู่วัยกลางคน ผลจากการทำร้ายตนเองทั้งเหล้าและบุหรี่ ส่งผลให้เป็นมะเร็ง ... ก็เลยต้องหยุดทุกอย่าง ...อยู่บ้าน รักษาตัว
เลยกลายเป็นว่า จากคนที่ไม่เคยทำบุญเลย เดี๋ยวนี้ก็ตื่นแต่เช้า ทำอาหารใส่บาตร ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างพระพุทธรูปเป็นว่าเล่น หนำซ้ำก็ยังศึกษาธรรมมะ ปลูกผัก ปลูกต้นไม้ กลายเป็นพ่อบ้านพ่อเรือนไปเลย .... สำหรับตัวเองถือว่าในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้างที่ได้เห็นแสงสว่างแห่งธรรมในบั้นปลายสุดท้ายของชีวิตที่เหลืออยู่
แน่นอนว่าที่สุดแล้ว ก็คงไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ วันไหน ด้วยเหตุใด การเตรียมตัวพร้อมโดยการทำทุกวันให้ดีที่สุด ทำแต่สิ่งดี คิดถึงแต่สิงดีๆ ย่อมเป็นหนทางหนึ่งในการเตรียมพร้อมสู่บั้นปลายของชีวิตอย่างมีความสุข (อันนี้เตือนใจตนเอง)
สาธุ .. ^____^
If Tomorrow Never ... |
สวัสดีค่ะ
เคยฝันว่าตายเมื่อหลายสิบปีก่อน ตกเครื่องบินตาย รู้ตัวตลอดจนสิ้นใจ มีอาการดังนี้ค่ะ รู้สึกถึงบาดแผล มีความเจ็บปวด และใจสั่งให้ออกจากร่าง จากนั้น รู้สึกโล่ง ขาดความรู้สึกทางกายโดยสิ้นเชิง และคิดว่า คนที่จะตายคือ ร่างกายไม่สามารถให้จิตเราอยู่ต่อได้ คิดว่าไม่น่ากลัวนะคะ
สวัสดีค่ะคุณจินตนา อิ่มรักษา