คำรายวัน ฉบับชาว KM (1) : ไก่ในเข่งตีกัน


ผมไม่อยากเป็นไก่ในเข่ง

บันทึก "คำรายวัน" ฉบับชาว KM  เป็นบันทึกที่รวบรวมคำ สำนวน ที่น่าสนใจ จากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสารต่างๆ มาเขียนแสดงทัศนะไว้เพื่อให้เป็นความรู้ ความคิด และช่วยกันออกความเห็นในแง่มุมที่น่าสนใจ เพื่อให้แตกความคิดเกี่ยวกับคำและสำนวนที่เราใช้สื่อสารกันอยู่ในสังคมไทย  ซึ่งคำ สำนวนเหล่านี้จะสะท้อนภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยขณะนั้น ทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวผ่านคำ สำนวนและแง่มุมความคิดของชาว KM

*************************************************************************

ไก่ในเข่งตีกัน  : สำนวนชวนให้คิดสมานฉันท์

 ************************************************************************

"เคาะแล้ว 157 เขตเลือกตั้ง นายกฯ บ่น 'สนช.' ซักฟอก 

                         ไก่ในเข่งตีกัน-รอวันตาย"  

(พาดหัวข่าว มติชน  29  สิงหาคม 2550)

************************************************************************

             "ไก่ในเข่งตีกัน"   เป็นสำนวนหมายถึง  

    มัวแต่ทะเลาะวิวาทกันโดยไม่รู้ตัวว่ามรณภัยกำลังคืบคลานมาถึงตน

              ที่มาของสำนวนนี้ มาจาก  ท่านเจ้าคุณ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์  ปยุตโต)  เจ้าอาวาสวัดญาณเวสกวัน อ.สามพราน จ.นครปฐม   ท่านเคยกล่าวเตือนสติคนไทยไว้นานแล้วว่า  คนไทยไม่ควรทะเลาะวิวาทกัน  การที่คนไทยทะเลาะวิวาทกันก็เหมือน ไก่ที่อยู่ในเข่งตีกัน โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามันกำลังจะถูกนำไปฆ่า นั่นคือ ...ตีกันเพื่อรอความตาย 

            ไก่ในเข่งตีกันจึงเสมือนคนเขลาเบาปัญญาหาสติไม่ได้ ช่างไม่รู้เลยว่าศัตรูจากภายนอกเขากำลังจะเอาไปเชือดต้มยำทำแกง   ทำให้เราได้สติว่า เหตุไฉนคนไทยจึงต้องเปิดศึกฟาดฟันกันเหมือนไก่ในเข่ง  ในขณะที่บ้านเมืองกำลังย่ำแย่ทั้งพิษเศรษฐกิจที่ดิ่งลงเหว สังคมกำลังจะฟอนเฟะรอให้จัดการแก้ไข ภัยจากศัตรู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังคงรุนแรง เสียชีวิตและทรัพย์สินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน รอให้ต้องจัดการแก้ไขอยู่  นี่กระไรยังมามัวทะเลาะวิวาททางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน   อย่างเรื่อง  นอมินี ก็กำลังจะกลายเป็นปัญหา  ไก่ในเข่งตีกัน อีก 

          ศึกภายนอกยังไม่สงบ  กลับสู้รบก่อศึกภายใน  ประเทศไทยเมื่อไรจึงจะสมานฉันท์ ช่วยกันหาทางออกจากเข่งเพื่อเอาตัวรอด  น่าเวทนา  (รวมทั้งตัวเราซึ่งเป็นประชาชนคนตาดำๆ ด้วย)     

         ครับ สำนวน ไก่ในเข่งตีกัน จึงเป็นสำนวนที่กำลังสะท้อนภาพสังคมไทยในปัจจุบัน ที่จะหันไปสู่ทางตันอีกครั้ง  แบ่งขั้วฟาดฟันเพื่อประโยชน์ตน ไม่เห็นประโยชน์ของชาติบ้านเมือง  

       ชาว KM จะคิดอ่านประการใดดีครับ  ...ผมไม่อยากเป็นไก่ในเข่งเลย  และไม่ต้องการให้คนไทยเป็นไก่ในเข่งด้วยครับ                    

หมายเลขบันทึก: 123203เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2007 22:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

  อาจารย์กรเพชร ค่ะ

   คำนี้ไม่เคยเจอมาก่อนเลยคะ ได้มาอ่านโดยยังไม่รู้ความหมาย ตีความไม่ออกเลยว่าจะภัยอะไรตามมา พอได้มาอ่านเนื้อหาในบันทึกถึงกับอึ้ง ตีความไปยาวขนาดนั้นเลยนะคะ

   ขอบคุณมากค่ะ

คุณมะปรางเปรี้ยวครับ

         สำนวน ไก่ในเข่งตีกัน  นี้ ตอนผมไปฟังคำปาฐกถาของท่านเจ้าคุณผมก็อึ้งเหมือนกันครับ แต่ตอนนั้นเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษากับพัฒนาสังคมไทยอะไรทำนองนี้ครับ  ไก่ในเข่งตีกันเพราะความเขลาเอาแต่ประโยชน์ตน ถ้าต้องการให้ไก่เลิกตีกันหันมาช่วยกันออกจากเข่ง ก็ต้องให้การศึกษาอบรม ต้องมีผู้นำที่ฉลาดและผู้ตามก็ต้องสมานฉันท์ หันมาร่วมมือร่วมใจออกจากเข่ง  เข่ง ก็คือสังคมที่เป็นปัญหา  เข่ง  คือวังวน วงจรอุบาทว์  ที่เต็มไปด้วยคอรัปชั่น มุ่งฟาดฟันกันลืมตาย เข่ง คือ ความเขลาเบาปัญญา

          ทำให้นึกถึง  นิทานเรื่อง  นกกระจาบฝูงหนึ่งเห็นแก่ประโยชน์บินลงมากินเมล็ดข้าวที่นายพรานล่อไว้ทำให้ฝูงนกติดตาข่ายของนายพราน นกกระจาบไม่มีความสามัคคี เอาแต่เกี่ยงกันออกแรง ทะเลาะวิวาทกัน จึงไม่สามารถออกจากตาข่ายได้ รอนายพรานให้มาจับ พลันนกกระจาบผู้นำก็สามารถเตือนสติฝูงนกได้ จึงพากันช่วยออกแรงบินยกตาข่ายขึ้นแล้วหนีออกไปได้อย่างปลอดภัย  ฟังแล้วคุ้นๆ ไหมครับ

 

นูรไลลาและภรทิพย์
หนูไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินสำนวนนี้ ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น ขอบคุณคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท