สามโลกของมนุษย์กับชีวิตประจำวัน


เมื่อผมเดินออกไปนอกบ้าน  ผมมองเห็นคนเดินไปเดินมาฝักใฝ่  บ้างก็ไปซื้อกับช้าว  บ้างก็ไปชอ็บปิ้งในห้างสรรพสินค้า  บ้างก็ไปโรงเรียน  ไปมหาวิทยาลัย  บ้างก็ไปห้องสมุด  บ้างก็ไปห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์  บ้างก็ไปสนามมวย  ไปสนามฟุตบอล  บ้างก็ไปโรงหนัง  โรงละคร  บ้างก็ไปร้านหนังสือ  ไปร้านกาแฟ ไปดื่มเหล้า  ดื่มเบียร์ สูบบุหรี่ ....... หรือจนกระทั่ง เสพยาบ้า  ยาอี  ฯลฯ

ไปเพื่อ "ดู"  เพื่อ "ฟัง"  เพื่อ "กิน" เพื่อ "ดมกลิ่น" หรือเพื่อ "จับต้องลูบคลำ"

ไปเพื่อ "โลกทางกาย และอารมณ์" มากกว่า "โลกของปัญญา" เป็นส่วนใหญ่  คือ เพื่อแสวงหาความสุขระยะสั้นเป็นสำคัญ

เมื่อผมดูทีวี  ผมเห็นรายการข่าว  ละคร  เพลง  มวย  ฟุตบอล  โฆษณา ........... 

ก็ล้วนแต่ รายการเพื่อ "บุกรุก" ทางตา  ทางหู  ทางปาก ทางจมูก  และทางผิวกาย เพื่อ "ให้เกิดความสุขชั่วคราว" เป็นสำคัญ

โดยเฉพาะ "มวย"  และ "ฟุตบอล"  หรือ "การกีฬาทั้งปวง" นั้น คนให้ความสนใจกันมาก  จนทำให้นักการเมืองบางคนใช้กลวิธีนี้เพื่อเรียกความนิยมจากมหาชนด้วยการเป็นโต้โผจัดรายการมวย  รายการกีฬากันเป็นลำเป็นสัน 

ทำให้ผมนึกถึงพวกโรมันในอดีต  ที่ผู้ปกครองบ้านเมืองพากันสร้างสนามกีฬากันอย่างมโหฬาร  จัดการซื้อพวกทาสมาฝึกการต่อสู้  ไว้ต่อสู้กันให้คนดู  ทำให้คนชอบ  หลงไหล  และพลอยนิยมชมชอบผู้ปกครองไปด้วย  แสดงว่า  คนปัจจุบันกับคนในอดีตหลายร้อยปีมาแล้วมีความคิดพอๆกัน  คือมองเห็นจุดอ่อนของมนุษย์ ว่าคนส่วนใหญ่ "หาความสุขระยะสั้น"  โลกทางกายและทางอารมณ์จึง"ถูกบุกรุก" มาก ที่สุด  และต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน 

อย่างไรก็ดี  พวกที่ไปวัด  ไปฟังปาถกถา  ไปชมนกชมไม้ ฟังดนตรีคลาสสิคเพื่อประเทืองโลกทางปัญญา  ก็มีไม่น้อย  แต่เทียบกับฟุตบอล  มวย  ไก่ชน  วัวชน  บ่อนการพนัน  .....  แล้ว  ยังห่างไกลกันเหลือเกิน

นี่กระมัง  ที่เรียกกันว่า  โลกียโลก  หรือ  โลกแห่งโลกียวิสัย ?

ด้วยการ "บุกรุก" จุดอ่อนของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คือ "โลกของกายและโลกของอารมณ์" !!

หมายเลขบันทึก: 122735เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2007 15:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ดร.ไสว...

อ่านบันทึกนี้ของอาจารย์ ทำให้อาตมาคิดถึง ปรัชญามงคลสูตร์ื   ที่เขียนจบไปแล้ว ....

โดยบอกว่าในบั้นปลายของชีวิตนั้น การประพฤติธรรมเสมือนกับ การเป็นอยู่กับความลึกลับ กล่าวคือ มีความคิดเห็นหรือมุมมองแตกต่างไปจากคนวัยกลางคนและหนุ่มสาว ซึ่งบางประการพวกเขาก็ยากที่จะเข้าใจ หรือบางครั้งก็รับไม่ค่อยได้ ... ประมาณนี้

เจริญพร

ขอบคุณครับ พระคุณเจ้า  อันที่จริง  โลกของกายเป็นบันไดขั้นแรกของโลกของปัญญา  แต่เมื่อเกิดปัญญาขึ้นแล้ว  ก็เป็นเหตุให้มีความคิดเปลี่ยนแปลงต่อไปเรื่อยๆ ครับ  แต่ถึงอย่างไร  เราก็ต้องอาศรัยบันไดขั้นต้นอยู่ดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท