ดูท่าแข็งขัน....เมื่อปลายงบ...เมื่อวานผมมีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมสัมมนา เรื่อง “การปลูกไม้ใช้หนี้” ร่วมกับพี่น้องเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่ไปร่วมงานอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็นพ่อเมือง...ท่านสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร (ท่านทรงศักดิ์) เกษตรและสหกรณ์จังหวัด (คุณณรงค์ฤทธิ์ อ่อนช้อย) เกษตรจังหวัด นายอำเภอสะตึก เกษตรอำเภอสะตึก เกษตรอำเภอแคนดง เกษตรตำบลทุกตำบล และพี่น้องเกษตรกรกว่า 250 คน จากจำนวนดังกล่าวพบว่ากว่าร้อยละ 20 ที่มาประชุมสัมมนาในครั้งนี้คือ...พี่น้องเกษตรกรที่เป็นประชากรในการศึกษาเกษตรประณีตของผม การประชุมมีขึ้นตั้งแต่ 10.00 -15.00 น. ณ มหาชีวาลัย ตำบลหัวฝาย กิ่งอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ (ศูนย์พ่อคำเดื่อง ภาษี, ปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์)
โครงการปลูกไม้ใช้หนี้คืออะไร...?? ? อย่าพึ่งสับสนนะครับซึ่งผมจะขอกล่าวโดยสรุปก็คือว่า “โครงการปลูกไม้ใช้หนี้” เป็นโครงการหนึ่งของรัฐที่ขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรปลูกป่า รักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดทั้งปลูกไม้โตเร็วเพื่อจะได้ตัดสำหรับสร้างเป็นรายได้ต่อไป แต่ในช่วงที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวยังไม่ได้ถูกขับเคลื่อนลงสู่การปฏิบัติในรัฐบาลชุดนี้ แต่เมื่อถูกทวงถามจากกลุ่มแกนนำพี่น้องเกษตรกร รัฐจึงได้หยิบยก และนำขึ้นมาปัดฝุ่นเพื่อพิจารณา และสั่งการให้ดำเนินการโดยด่วนทั่วประเทศและให้ดำเนินให้ทันการณ์ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2550
ถามว่า....จะทันการณ์ไหมในการที่จะดึงงบประมาณมาใช้ให้ทันปี 2550 หลายคนก็คุยกันครับว่า...ยากส์...เงินหลวงนะครับไม่ใช่เงินส่วนตัว...แต่คนของรัฐก็พยายามที่จะตอบแบบข้างๆ คูๆ ว่าได้แน่นอน ขอเพียงว่าให้ผู้นำชุมชนไปทำประชาคมในตำบลมา ให้ได้รายชื่อสมาชิกมา 200 คน แนบรายงานการประชุม รายชื่อคณะกรรมการ แบบเสนอโครงการที่เสนอผ่านนายอำเภอเห็นชอบ แล้วส่งไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรัฐ (คณะกรรมการ) จะได้พิจารณาอนุมัติงบประมาณมาให้ดำเนินงาน 400,000. บาทต่อโครงการสำหรับที่จะดำเนินการตามที่เสนอขอต่อไป
เห็นความยุ่งยากในขั้นตอนในการดำเนินงานแล้วชักถอดใจ....หลังจากที่ประชุมได้ผ่านไปเรียบร้อยจึงได้นั่งคุยกับกลุ่มพี่น้องเกษตรประณีตต่อครับว่า...โครงการนี้จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ...หลายคนก็บอกว่าคงลำบาก หลายคนก็บอกว่ายากเกินไป...หลายคนบอกว่าปีนี้คงไม่ทันแน่ๆ...และเมื่อรวมๆ กันแล้วจึงเกิดคำถามว่า...ที่ผ่านมารัฐบาลหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบไปทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ดำเนินการตั้งแต่ต้นปี...ถ้าจะเป็นแบบนี้เกษตรกรก็คงจะต้องจนต่อไป ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาได้...ดังนั้นจึงขอวิงวอนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้โปรดมีความจริงใจเสียทีเถอะครับในการที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยอย่างจริงจัง... รอไม่ไหวแล้ว... เป็นเสียงของสมาชิกเครือข่ายฯ ท่านหนึ่งที่อุทานออกมา หลังจากนั้นก็ได้เสนอแนะกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์เกษตรประณีตด้วยกันว่า ถ้าจะรอหน่วยงานของรัฐคงไม่ไหวหรอกเราต้องช่วยตนเอง ช่วยกันเองจะดีกว่า และจะได้ไม่เสียเวลา หากเรามีเมล็ดพันธุ์ก็เอาไปหยอดหรือปลูกเลย หากไม่มี กรมป่าไม้ก็พอที่จะขอได้อยู่บ้างและในขณะเดียวกันเราต้องเน้นไม้ที่โตเร็ว ....ไม้อะไรล่ะที่โตเร็ว...เป็นเสียงสอดแทรกจากเพื่อนสมาชิกด้วยกันเอง ท่านจึงตอบว่า “ไม้ที่โตเร็ว คือไม้ที่ปลูกเร็ว” นั่นก็หมายความว่าไม้อะไรก็ได้ขอให้เรารีบปลูกแล้วต้นไม้มันก็จะโตวันโตคืนนั่นเอง... จากประเด็นดังกล่าว...จะเห็นได้ว่ากระบวนคิดของคนที่ผ่านกระบวนการพัฒนาด้านการจัดการความรู้มาก่อน (กลุ่มเครือข่ายเกษตรประณีต) จะลงมือปฏิบัติโดยไม่รีรอขอความช่วยเหลือจากใคร หรือรอก็ส่วนน้อย เพราะนั่นหมายความว่าเขามีความรู้ และความตระหนักในสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคตในระดับหนึ่ง ในขณะเดียวกันพี่น้องที่ไม่ค่อยได้ผ่านกระบวนการจัดการความรู้ และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความตระหนักถึงประโยชน์ และคุณค่าของป่าไม้ สิ่งแวดล้อมก็จะไม่เกิด หรือเกิดน้อย ต้องรอคอยความหวังต่อไปจากรัฐบาล เขาให้เงินมาเมื่อไหร่นั่นแหละถึงจะทำ หรือถึงจะปลูก และหากเป็นเช่นนั้นท่านคิดว่าความยากจนจะเป็นอย่างไร ? จะหมดไปจากคนที่ทำอาชีพเกษตรหรือไม่ และที่สำคัญแนวคิดดีๆ แบบนี้เราจะขยายให้มากขึ้นได้อย่างไร? ขอบคุณครับ อุทัย อันพิมพ์ 22 สิงหาคม 2550
นมัสการหลวงพี่บูลย์
มีต้นตะกูจำหน่ายราคาถูก รีบติดต่อหาผมด้วยนะครับ
083-3313701
อยากได้ข้อมูลที่เกี่ยวกับโครงการปลูกต้นไม้ใช้หนี้เยอะๆ
การปลูกต้นไม้ใช้หนี้ ณ วันนี้ การดำเนินการของรัฐบาลไปถึงไหนแล้วครับ