การดูแลผิวยามไปว่ายน้ำ


การดูแลผิวยามไปว่ายน้ำ
 คงเคยเห็นฝรั่งยามมาเที่ยวชายทะเลเมืองไทยนะครับ ว่ายน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนผึ่งแดดจนตัวแดง เป็นกุ้งเผา ทำแบบนี้ผิวไหม้แดดแน่นอน และยังทำให้เกิดมะเร็งของผิวหนังง่ายขึ้น หลังๆก็เห็นคนไทยบางคนนิยมอาบแดดเช่นกัน ต้องระวังนะครับนอกจากนั้นการโดนแดดจัดจะทำให้ผิวหนังเหี่ยวแก่และเกิดริ้วรอยของ กระและฝ้า ได้ง่ายขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัญหาความงามที่สาวไทยหวั่นวิตกกันมาก จึงไม่ควรว่ายน้ำ กลาง แดดจัด หากจะว่ายก็ต้องใช้ยากันแดดทาเสียก่อนและก็ต้องระลึกว่าถึงทายากันแดด ก็ป้องกันผลเสีย ของแสงแดดไม่ได้ทั้งหมด หลายท่านที่ไปว่ายน้ำดับร้อนจะเกิดผื่นผิวหนัง อักเสบจากการแพ้สารเคมี ในตัวยากันแดดและครีมหรือ น้ำมันทาผิวที่ใช้ ก่อนหรือหลังว่ายน้ำนั่นแหละครับ

       หลายท่านคงสังเกตว่าหลังไปว่ายน้ำแล้ว ผมจะแห้งกรอบ บางท่านว่ายน้ำกลางแดดเปรี้ยง นาน ๆ ผมจะเปลี่ยน สีเป็นสีแดงได้ บางคนที่มีผมสีค่อนข้างอ่อน หากไปว่ายน้ำในสระที่ใส่จุนสีมาก ๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรค พบว่าผมอาจมีสีออกเขียวได้ สำหรับท่านที่มีผมยาวและดูแลรักษายากอยู่แล้วก็ควรใส่หมวกว่ายน้ำด้วยนะครับ

       ต้องระลึกไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก,ว่ายน้ำในทะเลสาบ, ในแม่น้ำ, ในทะเลหรือในห้วยหนองคลองบึงที่ใดก็ตาม น้ำแต่ละชนิดนั้นอาจมีผลเสียต่อผิวพรรณได้ครับ เพราะในน้ำอาจมีเชื้อโรคขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า, สาหร่าย, หนอนพยาธิ, พืช, ปะการัง, หินแหลมคมและสารเคมีจากการกำจัดน้ำโสโครกต่าง ๆ ดังนั้นหากผิวหนังกำลังมีบาดแผลอยู่ ก็ต้องงดเล่นน้ำจะปลอดภัยกว่านะครับ บางท่านหลังจากไปว่ายน้ำมาจะมีอาการคันหู, ปวดหูจนถึงมีน้ำหนองไหลออกมา ทั้งนี้เพราะน้ำจะเข้าไปขังอยู่ในหูทำให้ผิวหนังชั้นนอกเปื่อย เชื้อโรคจึงลุกลามเข้าสู่ผิวหนังได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบของหู จึงควรหายางอุดหูมาใช้เวลาว่ายน้ำหรือหากมีน้ำค้างอยู่ในหู ก็ให้พยายามเขย่าน้ำออก อาจโดยการกระโดดขึ้นกระโดดลง โดยเอียงศีรษะให้หูด้านที่มีน้ำขังอยู่ด้านล่าง นอกจากนั้นก็ยังอาจใช้นิ้วมือกดรูหูเพื่อทำให้เกิดแรงดูด อาจทำให้น้ำไหลออกมาได้ แต่ถ้าทำแล้วหูยังอื้ออยู่ก็ต้องพบแพทย์ล่ะครับ อย่าได้เอาไม้เอาสำลีไปแหย่หูเอง เพราะหูอาจยิ่งอักเสบง่าย ดีไม่ดีเยื่อแก้วหูทะลุขึ้นมาก็แย่แน่ครับ

       บางคนว่ายน้ำแล้วสวมชุดว่ายน้ำเฉอะแฉะอยู่นาน ก็อาจเกิดการติด
เชื้อราที่ขาหนีบ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าสังคังได้ นอกจากนั้นก็ยังอาจติดเชื้อราตามง่ามนิ้วเท้าได้ด้วย หากไปว่ายน้ำตามหนองตามทะเลที่มีตัวอ่อนของพยาธิบางชนิดแหวกว่ายอยู่ ผิวหนังอาจถูกตัวอ่อน
ของพยาธิชอนไช เห็นเป็นเส้นแดง ๆ คดเคี้ยวตามผิวหนังได้

     น้ำในสระว่ายน้ำบางแห่งมีคลอรีนผสมอยู่สูงมาก หากว่ายน้ำแล้วอาจเกิดตาแดงแสบและเคืองตามากหรืออีกทีถ้าไปว่ายน้ำในคลองที่สกปรก ตาก็อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อได้เช่นกัน จึงควรสวมแว่นตากันน้ำเข้าตาก่อนไปว่ายน้ำ

     ที่โชคร้ายหน่อย คือไปว่ายน้ำแล้วอาจถูกอิฐ, ถูกหิน, ถูกหนาม, ถูกปะการังบาดเอา พวกนี้ต้องทำ
แผลให้สะอาด มิฉะนั้นผิวของคุณก็อาจติดเชื้อโรคได้ เรื่องของแมงกะพรุนไฟก็เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหายามไปว่ายน้ำทะเล ต้องเรียนว่าแผลแมงกะพรุนไฟนั้นหายยากมากและมีโอกาสเกิดแผลเป็นสูง ช่วงปีที่ผ่านมาผมมีคนไข้เด็กที่พ่อแม่พาไปเล่น banana boat แล้วถูกสะบัดให้ตกเรือ หลายคนปะทะเข้ากับแมงกะพรุนไฟ แล้วเกิดแผลเป็นมาจนบัดนี้ เพื่อป้องกันการเสียโฉม จึงต้องไม่ว่ายน้ำทะเลหากไม่แน่ใจว่าปลอดภัยจากแมงกะพรุนไฟ 100%

    
หลังจากไปว่ายน้ำมาแล้ว ควรอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด หากเป็นคนผิวแห้งก็ควรใช้ครีมหรือน้ำมันทาผิวชโลมลูบไล้ตามผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูแล้วตามด้วยครีมนวดผม เพื่อรักษาสภาพเส้นผมไม่ให้แห้งกรอบ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่แห้งสนิทอย่าทนฝืนสวมชุดว่ายน้ำที่เฉอะชื้นอยู่นาน ๆ หากผิวหนังมีบาดแผลก็ต้องทำความสะอาดบาดแผลให้เรียบร้อย และต้องไม่ว่ายน้ำกลางแดดจัด เหล่านี้จะทำให้มีผิวสวยยามไปว่ายน้ำดับร้อนได้นะครับ

(ที่มา นิตยสาร "แพรว" 10/3/43)

คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 119963เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2007 12:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท