บันทึกการเรียนรู้ Facilitator รุ่น 1


เริ่มเปิดแคมป์วันแรก “เห็นทุกคนมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย”

14 ส.ค. 50

                เริ่มเปิดแคมป์วันแรก ตอนเก้าโมงเช้าของวันที่ 14 มีพวกเราหลายคนที่มาก่อนมานั่งกินมาม่า แล้วก็เล่นเกมที่โบว์เอาติดมือมา เป็นเกมที่เป็นเหล็กรูปร่างแปลกๆคล้องกันอยู่ แล้วให้หาทางเอาออก เพลินดีนะเกมนี้ช่วยให้เวลาผ่านไปได้เร็วขึ้น  อุ๊เป็นคนแรกที่แก้เกมได้ก่อนใคร เกมนี้เป็นเกมที่ช่วยในการฝึกสมาธิได้ดีทีเดียว

                ประมาณเก้าโมงแก่ๆ พวกเราก็มารวมตัวกันครบ มีคนแวะมาเยี่ยมเยียนเป็นกำลังใจให้เราด้วย โอ้มาก่อนตั้งแต่เก้าโมงแล้ว แล้วก็ตามด้วยคุณธีรวิทย์  เราเริ่มต้นกันด้วยข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน(ทำเหมือนคนแต่งงานกันเลย)  ได้มาทั้งหมด 8 ข้อ

  1. กิจกรรมของเราเริ่มต้น 9.00 ตรงเป๊ะ และเลิกเวลา 17.00 น.
  2. เรื่องอาหารการกิน กินเมื่ออยาก
  3. อาหารกลางวัน กินร่วมกันที่โรงอาหาร
  4. การใช้โทรศัพท์มือถือให้เปิดระบบสั่น และคุยโทรศัพท์นอกห้อง
  5. ถ้ามีโทรศัพท์ภายในเข้ามาที่ห้อง ISO ให้น้องๆโน้ตไว้ให้แล้วเอาโน้ตแปะกระจกไว้ เราจะไปดูกันเอง
  6. ทางเดินเข้าห้องเรียนรู้ของเราให้ใช้ประตูห้องสมุดเข้ามา และถ้ามาถึงก่อนเวลาให้ตรงมาห้องเรียนรู้ได้เลย ไม่ต้องอยู่ในห้อง ISO
  7. Book brief จัดเวียนกันมาเล่าเรื่องในหนังสือให้เพื่อนฟัง ตามลำดับดังนี้
    1. พี่ไก่
    2. พี่แนม
    3. นุ้ย
    4. คุณสมศักดิ์
    5. คุณสุริยา
    6. พี่โอ๋
    7. นิ่ม
    8. อี๊ด(เพ็ญ)
    9. อี๊ด(ปารณี)
    10. อุ๊
    11. โบว์
  8. จัดเวียนกันเป็นผู้สร้างบรรยากาศ เช่น เปิดเพลง สร้างความครึกครื้น เวียนย้อนหลังจากลำดับของ Book brief

หลังจากได้ข้อตกลงร่วมกันเราก็มีการทบทวนถึงวัตถุประสงค์ที่เรามารวมกัน

แล้วก็ให้เราเขียนความคาดหวังของแต่ละคนลงใน post-it แล้วแปะไว้ที่หน้าห้อง พอจบแคมป์เราจะมาดูกันว่าเราได้ตามที่หวังไว้รึเปล่า หรือว่า….เกินความคาดหวัง

                และแล้วก็มาถึงเวลาเริ่มกิจกรรมแรกของเราคือ Mind map เราแจกอุปกรณ์อันได้แก่ สีชอล์ค กระดาษ คู่มือ How to mind map ให้กับทุกคน ให้ทำความรู้จัก Mind map และหัดทำด้วยตัวเอง หัวข้อเราก็มีกำหนดไว้บ้าง แค่ 4 ข้อสั้นๆ

  • ประสบการณ์/ความรู้/ความถนัด
  • ค่านิยมของตัวเอง (Personal value)
  • จุดอ่อน/จุดแข็ง
  • เป้าหมายในชีวิต

ก็กำหนดไปอย่างนั้นแหละ จริงๆแล้วอยากให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง ค้นหาตัวเองให้เจอ  ตอนนี้เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว แต่ละคนแยกย้ายกันไปอ่านคู่มืออย่างเงียบๆ เงียบเชียบจริงๆ

อีก 10 นาทีต่อมา มีเสียงคุยกันแล้ว ดีจัง! เริ่มสงสัยกับโจทย์กัน เพราะตอนแรกให้โจทย์ว่าคุณค่าของตัวเอง งง!เลย แม้แต่คนให้โจทย์ก็งง ก็แหม adopt เค้ามา! ฮิ ฮิ แต่พอเราเริ่มคุยกันเราก็รู้ว่าจริงๆแล้วมันคือ ค่านิยม แน่ะ ! ฟังคุ้นเคยเข้าใจง่ายขึ้นเยอะ อย่างน้อยก็มีตัวอย่างจากค่านิยมองค์กร นี่แหละการคุยกันมันทำให้เกิดเกลียวความรู้

            ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว บางคนออกอาการเหนื่อยหน่าย หน้าเครียด ถอนหายใจบ่อยๆ อดทนหน่อยนะ ทุกคน อย่าเครียด เหนื่อยนักก็พักก่อน แต่โดยรวมๆแล้วทุกคนยังดูโอเคอยู่นะ เข้าใจว่ากิจกรรมนี้มันเงียบๆไม่สนุกสนานคึกคักอะไร แค่อยู่กับตัวเอง……. คิด……. จินตนาการ…..

เที่ยงครึ่งแล้ว ได้เวลาไปทานข้าว วันนี้เราทานข้าวร่วมกับคุณพรชัย  คุณสมเกียรติ คุณธีรวิทย์ คุณทวีศักดิ์ อาหารมื้อนี้รวมกันได้ 15 คน (เกือบเป็น The last supper ซะแล้ว ดีนะที่มากันครบ) ทานข้าวกันไป คุยกันไป ก่อนแยกกัน คุณสมเกียรติอวยพรให้พวกเราทุกคน เรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลิน

                เราเข้ามารวมกันประมาณบ่ายสองโมง มีแขกมาเยี่ยมเราอีกแล้ว คุณสุข นั่นเอง เราไม่ปล่อยให้คุณสุขลอยนวล จับมาถ่ายรูปหมู่กับเราซะเลย

พอคุณสุขกลับ เราก็เริ่มเล่นเกมกัน(คิดเอาเองสดๆตอนกินข้าว)เป็นเกมที่ใช้ฝึกฝนการคิดเชื่อมโยง โดยมีคำทั้งหมด 5 คำ แม่น้ำ ดอย ส้มตำ ข้าว ทราย ให้เวลาคำละ 1 นาที เพื่อเขียน mind map ออกมา ใครสามารถเชื่อมโยงได้มากที่สุดก็จะได้แต้มไป 1 แต้ม (เราสะสมแต้มกันในแคมป์ด้วย ตอนจบแคมป์ค่อยมาดูแต้มรวม) วันนี้ได้แต้มกันไปหลายคนเลย มีคุณสุริยา คุณสมศักดิ์ พี่ไก่ พี่แนม พี่อี๊ด นิ่ม อุ๊     คุณสมศักดิ์ได้แต้มในหัวข้อ ทราย เพราะเชื่อมโยงว่าทรายใช้สร้างตึก แล้วตึกก็มี โลตัส ฯลฯ จากโลตัส ก็เชื่อมโยงอีกเพียบเลย คุณสมศักดิ์เล่นไปถึงสินค้าอุปโภค บริโภคทั้งหลายที่ขายในโลตัส เลยได้คะแนนชนะขาดทำไปได้ 30 กว่าข้อ (ทำไปได้!)

            เริ่มเขียน Mind map กันต่อ ช่วงบ่ายมีหลายคนเริ่มไหลลื่น หลายคนเริ่ม แป้ก! คิดไม่ออก ก็เปลี่ยนบรรยากาศมาคุย เดินดูผลงานของคนอื่น ได้เห็นเทคนิคทางศิลป์แบบเจ๋งๆ หลายแบบ ทั้งการไล่สี การขูดสี และตื่นตา ตื่นใจกับประสบการณ์ของหลายๆ คน ทั้งเป็นนักกีฬา นักกิจกรรม นักวิจัยสารพัด  หลายคนใช้สีสันรูปภาพได้ดีมาก สดใส เช่น โบว์  อุ๊ บางคนเน้นข้อความเป็นหลัก เนื่องจากไม่ถนัดงานศิลป์จริงๆ เช่น โอ๋, นุ้ย, อี๊ด(ปารณี)

บางคนยังลังเล จะเขียนลงกระดาษจริงเลยดี หรือเขียนร่างลงในกระดาษก่อนดี แต่ไม่เป็นไร มีเวลา ตั้ง  3 วัน

ช่วงบ่าย แก่ๆ เราเริ่มอยากกินอะไรนอกโรงงาน ทีมหาเสบียงคือ แนม อุ๊ อี๊ด (ปารณี) อาสาออกไปจัดหา ทั้งผลไม้    ไอติม ขนมแล้วแต่ใครจะสั่ง เข้ามากินกัน เป็นการเบรค และผ่อนคลาย จากการเขียนและใช้สมองซีกซ้าย-ขวาพร้อมๆ กันมาเป็นเวลานาน แล้วซักพัก ก็กลับไปเขียน Mind map กันต่อ

                ตอนสี่โมงครึ่ง เราหยุดเขียน Mind map แล้วก็แชร์ความรู้สึกของวันแรก และสิ่งที่ค้นพบในวันนี้

 ทุกคนแลกเปลี่ยนกันอย่างออกรสชาติมากๆ และเห็นตรงกันว่าการใช้ Mind map ทำให้เราได้ฝึกสมองทั้ง 2 ส่วน เข้าใจการทำงานของสมองมากขึ้น และเหมือนได้เห็นจิตวิญญาณของตนเอง (อันนี้คุณสุริยาบอก)

เรามีแขกมาเยี่ยมเต็มเลย เป็นคุณสมเกียรติ คุณพรชัย และพี่ๆน้องๆในโรงงาน มาร่วมฟังเรา Reflection กัน

 

วันนี้จบลงอย่างมีความสุข ทุกคนสนุกกับ Mind map และเกม Mind map ที่เอามาให้เล่นตอนบ่าย มีหลายคนที่ชอบและประทับใจ

 เห็นทุกคนมีความสุข เราก็มีความสุขไปด้วย

คำสำคัญ (Tags): #facilitator learning camp
หมายเลขบันทึก: 119739เขียนเมื่อ 15 สิงหาคม 2007 11:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การเก็บคะแนน ใน ค่าย

เป็นแนวคิดจาก พวกฟินแลนด์ ในค่าย Team academy

คะแนน  อาจจะมาจาก  โครงงาน   การอ่านหนังสือ  ด้วยก็ได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท