วันพระที่สอง
พระท่านเทศน์เรื่อง "ปาก" ปากเป็นอวัยวะเล็ก ๆ ที่ต้องทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ในตอนนี้จะยกตัวอย่างหน้าที่สำคัญสัก 2 อย่าง คือ
หนึ่ง ปาก ทำหน้าที่กินอาหาร ทั้งคนและสัตว์ต่างก็ใช้ปากทำหน้าที่กินอาหารเพื่อทำให้ร่างกายสามารถดำเนินอยู่ได้อย่างเป็นสุข มีข้อน่าสังเกตความแตกต่างระหว่างการกินของคนและสัตว์ก็คือ สัตว์จะกินอย่างมูมมาม ไม่คิดที่จะต้องเตรียมหรือหาวิธีการที่จะทำให้เรียบร้อย
ส่วนคนมีสมองสามารถไตร่ตรองหาวิธีการกินให้เรียบร้อยไม่มูมมามเยี่ยงสัตว์อื่น ๆ หากคนเรากินโดยไม่ใช้สมองไตร่ตรองก็คงไม่ต่างจากสัตว์ คนยังใช้การกินที่เห็นแก่ตัวเช่นการกินบ้านกินเมืองซึ่งสัตว์ต่างต่างไม่ปฏิบัติกัน ละอายใจกันซะบ้าง...
สอง ปาก ทำหน้าที่ พูด การที่ลมออกจากปากก็แบ่งเป็น 3 ชนิดคือ ลมหวาน หมายถึง ความไพเราะ, ลมหอม หมายถึง ความถูกต้องเป็นจริง, ลมเหม็น หมายถึง ความหยาบคาย ไม่สุภาพ
ดังนั้น คนเราต้องไตร่ตรองการปล่อยลมปากของตนเองทุกครั้งไป
การพูดที่ดีมีหลักอยู่ 3 ข้อ คือ การพูดที่อ่อนหวานสุภาพ, การพูดโดยไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือนร้อน และการพูดให้ถูกต้องตามกาลเทศะ
วันนี้ คุณใช้ "ปาก" ทำหน้าที่ถูกต้องแล้วหรือยัง?....
ทำให้คิดได้ว่า...
การดูคน ดูแต่เพียงลมปากไม่ได้ เพราะอาจมีจริต “วันนี้ คุณใช้ปาก ทำหน้าที่ถูกต้องแล้วหรือยัง?” คือ การสอนให้คนมีจริตในการพูด ไม่ได้บอกว่ามีจริตแล้วไม่ดี แต่อยู่ที่กาลเทศะ-ควรไม่ควรเสียมากกว่า
เพียงแต่คิดว่า คำพูดไม่ใช่การแสดงผลที่ดี เพราะอาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่สมองประมวลก็ได้ แต่การแสดงผลที่แม่นยำกว่า น่าจะเป็นพฤติกรรม ดูคนต้องดูที่การกระทำ..จริงมั๊ย?
นี่จะกลายเป็นพูดมากเดี๋ยวปากจะมีสีหรือเปล่า...ฮา