Conductorเขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2550 22:27 น. ()
แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2555 20:37 น. ()
Dr. Mansour Javidan ได้ตีพิมพ์บทความ "Forward-Thinking
Cultures" ใน Harvard Business Review ฉบับเดือน July/August
2007 ได้ยกเอาการศึกษาของ World Economic Forum โดยใช้ตัวเลขระหว่างปี
1998-2005 ของรายได้ประชาชาติต่อหัวประชากร ระดับของนวัตกรรม ความสุข
และความเชื่อมั่นต่อสังคมและเศรษฐกิจ เป็นแกนตั้ง เรียกว่าแกน
competitiveness --
ส่วนแกนนอนเป็นผลจากการสำรวจผู้บริหารระดับกลางหมื่นเจ็ดพันตัวอย่างใน
61 ประเทศ แล้วจับมาพล๊อต ได้เป็นตารางนี้ครับ

Source: Mansour Javidan, "Forward-Thinking Cultures,"
Harvard Business Review (July/August 2007)
ประเด็นที่ผมสนใจคือทำไมเมืองไทยจึงพยายามอย่างยิ่งยวด
ที่จะไม่มองไปข้างหน้า เรื่องของแผนงาน/ทิศทาง
เป็นเรื่องที่มีไว้ประดับหน่วยงาน
ทรัพยากรทั้งหลายต่างทุ่มเทไปแก้ไขปัญหาของอดีต
เนื่องจากมีการเรียกร้องมากในปัจจุบัน แต่การแก้ไขนั้น
กลับไม่กล้าแตะที่ต้นเหตุ จึงไม่เคยแก้ไขอะไรได้สำเร็จ
เพราะมัวแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่นั่นแหละ
แผนงานสำหรับอนาคตจึงถูกละเลยไป และไม่ใช่ "ผลงาน" ที่วัดได้
แล้ววันนี้ เมืองไทยมีอนาคตหรือไม่มีครับ
ความเห็น
"แล้ววันนี้ เมืองไทยมีอนาคตหรือไม่มีครับ"
Short answer, Thailand will always have tomorrow - or future for that matter.
Will the future be bright or fright, that's another story.
Let's use this NYT article "New Thai Literary Puzzler Raises Questions" as an index on "Forward Thinking Cultures" ..
The article is about “Thaksin: Where Are You?” book. As expected, it's not a good question to ask "a bunch of panicky people."
Granted, this could been a self-serving book to both the author and the subject matter. If "they" can't think beyond basic human rights in "freedome of expression". Don't think "they" can think forward.
Index to forward thinking? Negative one (-1)
สวัสดีค่ะ
ขอตอบตามความเห็นส่วนตัว ว่ามีค่ะ แต่ใจเย็นหน่อยค่ะ