tupa
นางสาว เยาวเรศ เจือจันทร์

เรื่องเล่าขานของปูแป้ง


ยินดีต้อนรับ UKM 11 สู่เมืองตักสิลานคร

มีเรื่องเล่าขาน  กันตั้งแต่โบร่ำโบราณถึงเรื่องปูแป้ง  หรือ "ปูทูลกระหม่อม" ชื่ออย่างเป็นทางการที่ สมเด็จพระเทพฯ  พระราชทานให้   เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ  10 กว่าปีก่อน  ที่อำเภอนาดูนนี้มี นายอำเภอมาใหม่ไม่ทราบว่าหล่อเหมือนในละครหรือเปล่า มาอยู่ใหม่ก็อยากจะพัฒนาให้อำเภอดีขึ้น บังเอิญชาวบ้านมาเล่าให้ฟังเป็นปูที่แปลกสวยงาม อยู่ที่ป่าดูนลำพัน ในอำเภอนาเชือก นอกจากปูจะแปลกแล้ว ป่าก็ยังแปลกเพราะนอกป่าเป็นที่แห้งแล้งทั่วไปหมด ยกเว้นในป่าเป็นที่ชุ่มชื้น ดินดำสนิท มีต้นไม้ใหญ่ และก็มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เหมือนโอเอซิส กลางทะเลทราย

นายอำเภอด้วยความที่อยากให้พัฒนาให้อำเภอเจริญ ก็เลยจะยกระดับให้มีการท่องเที่ยวเยอะ ๆ จึงสนใจปูแป้ง เรื่องอาถรรพ์ก็เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง นายอำเภอคนใหม่ก็เลยเดินทางไป "ป่าดูนลำพัน" เพื่อไปเอาปูแป้งมาดู หลังจากขับรถออกมาได้ไม่เท่าไหร่ รถยนต์เกิดแหกโค้งหน้า "ป่าดูนลำพัน" เสียชีวิต ชาวบ้านก็เลยเล่าลือกันว่าท่านไม่ขอกับ "ศาลปูตา" ที่อยู่ใน "ป่าดูนลำพัน" เสียก่อนเป็นการไม่เคารพสิ่งที่ดูแลรักษาป่า ทำให้ต้องสังเวยชีวิต ชาวบ้านยิ่งเชื่อทำให้ไม่มีใครกล้ากินอีกเลย เล่ากันว่า สมัยก่อนชาวบ้านก็กินปกติ และสาเหตุที่เรียกว่า "ปูแป้ง" เพราะเวลาสุกจะมีสีขาว ไม่เหมือนปูทั่วไปจะมีสีสม

เรื่องราวเล่าขานยิ่งดังไปทั่วประเทศในขณะนั้นทำให้เป็นที่สนใจกันทั่วประเทศ "สมเด็จพระเทพฯ" จึงพระราชทานนามตั้งแต่บัดนั้นจนวันนี้ชาวบ้านไม่กล้ากินเพราะกลัวอาถรรพ์ "น้องแขก" เล่าให้ฟังว่าสมัยเด็กชอบเข้าไปนั่งเล่นเพราะเย็น และสงบ ถ้าหากจะดู "ปูแป้ง" ก็มีวิธีไม่ใช่ขุด ๆ ๆ แต่มีวิธีที่คลาสสิคกว่านั้น ถ้าหากเราเข้าไปจะเห็นเป็นรูปู ลึกและชันจะใช้หญ้าที่ใบตรงซึ่งเป็นอาหารของ "ปูทูลกระหม่อม" แหย่ลงไปในรู ปูจะขึ้นมา แต่ถ้าใช้วัสดุอย่างอื่นปูจะไม่สนใจ แต่ถ้าหากใครแวะเวียนไป อย่าไปทำแบบนั้นเลยนะคะ เพราะปัจจุบันนี้มีเจ้าหน้าที่จัดการมาให้เราดูแล้ว และการที่เราเหยียบย่ำเข้าไป ยิ่งทำให้ป่าเสื่อมโทรมจากรอยเื้ท้า

อยากจะมาชมความสวยงามของปูน้ำจืดที่สวยที่สุดในโลกหรือยังคะ   พรุ่งนี้จะเป็นไกด์นำเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ในจังหวัดมหาสารคามต่อนะคะ

หมายเลขบันทึก: 118959เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 22:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับคุณ tupa

     มีการใช้คำคลาดเคลื่อน ควรแก้ไขให้ถูกต้องตามราชาศัพท์  บรรทัดที่ ๒ และ ๓ ครับ คำว่าพระบาทสมเด็จฯ

ขอบคุณ  คุณดิศกุล  เกษมสวัสดิ์ นะคะ  แก้ไขใหม่แล้วไม่รู้ว่าจะใช้คำนี้ได้หรือเปล่า  ช่วยแนะนำด้วยนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

  • ออตเคยไปจัดค่ายที่นั้นด้วยครับ
  • ปูสวยดี น่าจะเป็นสัตว์ป่าน้อ อยู่ในป่าได้
  • นานแล้วที่ไม่ได้ไป ไม่รู้เป็นไงบ้าง จำนวนลดลงหรือเปล่า

แวะเข้ามาชมครับ สวยดี

จะเป็นอะไรไหมครับ

หากผมมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับคุณครับ

เพราะผมเป็นคนในพื้นที่ผมรู้ดีว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

ชาวบ้านที่นั้นไม่เคยที่จะกิน ปุแป้งเลยด้วยซำนะครับ

แม้กระทั้งจะเข้าไปในป่าในอดีตยังไม่กว่าเลยนะครับ และเรื่องราวไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ ที่จะมาผสมมันเข้ากับละครหรือสามารถมาพูดล้อเล้นนะครับ

จงอย่าเอาสิ่งศักดิ์ในพื้นที่ของผมมาทำแบบบนี้อีกนะครับ

นี้ไม่ใช้เรื่องเล่นนะคับ ผมหวังดีเป็นอย่างมากครับ

และมีเรื่องราวที่ว่าทำไมปุถึงอยู่ตั้งแต่ที่นั้นเท่านั้นนะครับ

ทั้ง ๆ ที่ปูเป็นสัตว์ครึ้งบกครึงนำ เป็นเรื่องราวที่ลึกซึ่งมากกว่าที่ใรจะเข้าใจ

สามาถรอยู่ได้เพียง ในป่าแห่งนี้เท่านั้น

แต่นั้นเป้นเพียงอถรรพ์แรกเท่าน้น และมีรายต่อไปอีกอย่างมาก นะครับ

เท่าที่ผมจำได้มีเพียง 6 คน เท่าที่ผมทราบนะครับ แต่เรื่องราวในอดีตที่ลึกซึ่งและเป้นเรื่องราวมากมายเกินกว่าที่ผมจะเล่าให้เป็นเรื่องราวแล้วให้ใครก็ไม่รู้มาอ่านนะครับ

มากมายหลายคน

แล้วเป้นที่สงสัยอย่างมากนะครบ

ว่าทำมั้ยป่าแห่งนี้ภายนอกป่าจะเเห้งแล้งสักเพียงไหน

แต่เมื่อเราเข้าไปในป่าทำมั้ยถึงชุมชื้นอยู่ตลอดเวลา

เรามีคำตอบ แต่เราขอเก็บเป็รเรื่องราวในพื้นที่นะครับ

หรือบ้างคนในพื้นที่อาจจจะไม่รู้

รู้เพียวบ้างวงศ์ตระกูลเท่านั้นนะครับ

แต่เราไม่อยากเล่าอะไรมากมายไปมากกว่านั้นนะครับ

แต่ผมขอยื้อยันนะครับ

ว่าเป็นมากกว่าพ้นที่ท่องเทียวเท่านั้น

สำหรับเราเป้นมากกว่านั้น

และเป็นเหมื่อนทุกอย่างของคนที่นั้นก็ว่าได้

คุณเป้นคนจังงหวัดไหนครับ

ขอบคุณมากนะครับกับเรื่องราว ที่เล่าให้ฟังนะครับ

ปเนเรื่องจริงท่สนุกนะครับ แต่เรารู้ว่า.... มากแค่ไหน

ดูแลตัวเองด้วยนะครับ

การแลกเปลี่ยนเรียนรุ้เป็นสิ่งที่ดีค่ะ.. แต่การที่นำเรื่องเล่าขานของปูแป้งมาเขียนบล๊อกนั้น ไม่ได้เป้นการคิดลบลู่ค่ะ สิ่งที่นำมาเพื่อบอกเล่าในสิ่งที่น่าสนใจในจังหวัดมหาสารคามให้กับชาวบล๊อกได้รับทราบ และเรื่องที่ได้นำมาเล่าก็เป็นการค้นคว้ามาจากโลกของ Cyber หากมันเป็นเรื่องไม่จริงอย่างไร ก็ต้องขอโทษชาวบล๊อกด้วยเช่นกัน ขอบคุณ คุณ paew ด้วยนะคะ ที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในสิ่งที่ดิฉันเองก็ไม่เคยรู้ ถึงแม้ดิฉันจะเป็นคนจังหวัดไหนก็ตาม แต่ก็ยังอยากจะเล่าเรื่องราวที่ได้รับทราบ และคิดว่าเป็นสิ่งที่น่าเผยแพร่ ที่ชาวมหาสารคามใช้เป็นสัญลักษณ์ เช่น เสื้อ มัสคอสของกีฬา มาบอกกล่าวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้อะไรมันเสียหายและลบลู่ ในเรื่องที่เกิดขึ้น ขอบคุณนะคะสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่หวังดี และดิฉันจะดูแลตัวองค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท