ขับรถ ห่างคันหน้าเท่าไรดี


สถาบันพัฒนาพฤติกรรมการขับรถแบบสมิธ (Smith) แห่งรัฐเทกซัส สหรัฐฯ วิจัยพบว่า การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าที่ดีคือ ‘4 วินาที’

พวกเราคงจะมีประสบการณ์ได้เห็น หรือได้ยินได้ฟังเรื่องรถชนกันมาแล้วไม่มากก็น้อย วันนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับการขับรถให้ปลอดภัยมาฝากครับ... <p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal">สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรถชนกันได้แก่ การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าน้อยเกินไป...</p> <p style="margin: 12pt 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>

ท่านอาจารย์วณัฐสุข สงวนศิริ กล่าวว่า สถาบันพัฒนาพฤติกรรมการขับรถแบบสมิธ (Smith) แห่งรัฐเทกซัส สหรัฐฯ วิจัยพบว่า การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าที่ดีคือ ‘4 วินาที

สาเหตุที่ระยะห่างควรเป็นระยะเวลา ไม่ใช่ระยะทาง เนื่องจากระยะเบรคจะแปรตามความเร็วรถ และการตอบสนองของคนขับ

<p></p>

รถที่ขับเร็วจะใช้ระยะเบรคมากกว่ารถที่ขับช้า คนขับที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ช้า เช่น คนเมา คนง่วง ฯลฯ จะใช้ระยะเบรคมากกว่าคนขับที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้เร็ว·        1 วินาทีแรก > มีไว้ให้เห็น คิด ทำ (เบรค)·        วินาทีที่ 2-3 > ระยะเบรค

ถ้าสภาพถนนเปียกแฉะ โดยเฉพาะเมื่อฝนตกลงมาใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งฝุ่นละออง และน้ำ ทำให้ลื่นมากกว่าเวลาอื่นๆ

วิธีนับ วินาทีง่ายๆ ให้ใช้สูตร หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม หนึ่งพันสี่...” เนื่องจากการนับคำ 3 พยางค์จะใช้เวลาประมาณ 1 วินาทีพอดี

การฝึกเว้นระยะห่าง 4 วินาทีที่ดีควรรอให้รถคันหน้าแล่นผ่านจุดคงที่ เช่น เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ฯลฯ เพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิง (reference) แล้วฝึกนับ หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม หนึ่งพันสี่ หนึ่งพันห้า หนึ่งพันหก...” ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถของเราแล่นผ่านจุดคงที่เดียวกันกับคันหน้า

ถ้าระยะห่างน้อยกว่า 4 วินาที เช่น นับได้ หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสองก็ถึงจุดคงที่ หรือจุดอ้างอิงแล้ว แสดงว่า ระยะห่างน้อยไป จำเป็นต้องเพิ่มระยะทาง เช่น ขับให้ช้าลง เพื่อเพิ่มระยะห่างจากคันหน้า ฯลฯ

ถ้าระยะห่างมากกว่า 4 วินาที เช่น นับได้ หนึ่งพันหนึ่ง หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม หนึ่งพันสี่ หนึ่งพันห้าแสดงว่า ระยะห่างมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเร่งความเร็ว เพื่อให้ใกล้คันหน้ามากกว่านี้... ปลอดภัยไว้ก่อนน่าจะดี

เมื่อฝึกอย่างนี้บ่อยๆ จะช่วยให้เราเป็นนักขับที่ดีขึ้น... นอกจากนั้นควรระวังไม่ลดความเร็วกระทันหัน เช่น เมื่อจะเลี้ยว ฯลฯ ควรให้สัญญาณคันหลังล่วงหน้าอย่างน้อย 4 วินาที ไม่เลี้ยวทันทีโดยไม่ให้สัญญาณล่วงหน้า เพื่อให้คนขับรถคันหลังปรับตัวได้ทัน

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนที่เพิ่ง ร้อนมา เช่น เพิ่งโมโหหรือหงุดหงิด ฯลฯ อะไรมาก่อนขับรถ มีความเสี่ยงอุบัติเหตุสูงกว่าคนที่ไม่ได้เพิ่ง ร้อนมา

ถ้าเราเพิ่ง ร้อนมาอาจจะต้องหาวิธีคลายเครียดเสียก่อน วิธีหนึ่งที่น่าจะลองใช้คือ เดินเร็วๆ สัก 10 นาที สวดมนต์ก่อนออกรถ หรือจะร้องเพลงในรถ ฯลฯ ก็อาจช่วยได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุไว้ก่อน

ถึงตรงนี้ขอให้พวกเรามีความสุข และความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนครับ <p>ขอแนะนำ...                                                     </p>

ขอแนะนำ...                                                    

    แหล่งที่มา:                                      

  • ขอขอบพระคุณ > ท่านอาจารย์วณัฐสุข สงวนศิริ. รู้จักมาตรา 40. กรุงเทพธุรกิจ BizWeek. 24-30 พฤศจิกายน 2549. หน้า D2.
  •  นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > 8 สิงหาคม 2550.

</span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></span></font></span></span>

หมายเลขบันทึก: 118124เขียนเมื่อ 8 สิงหาคม 2007 19:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ผมขับระหว่างจังหวัด คิดว่าคงมากกว่า 4 วินาทีครับ บางครั้งก็ได้ถึง 4 นาทีก็เคยเจอ
  • ในเมืองใหญ่ น่าจะยาก
  • แต่ในกรุงเทพคงยากกระมังครับ
  • สมมติว่าความเร็วเฉลี่ย 60 กม/ชม เวลา 4 วินาทีก็คือ 67 เมตร
  • ในกรุงเทพ รถขับติดกันมาก ระยะห่างน้อยกว่า 1 วินาที ดูเหมือนจะเป็นมาตรฐานไปแล้ว
  • เห็นแล้วก็ได้แต่คิดว่า คราวหน้าคงไม่ถึงทีเราโดน...

กราบสวัสดีตรับ

* ขอมูลการศึกษานี้ดีมากเลยครับ

จะนำไปลองเทียบระยะที่ตนเองปฏิบัติอยู่ (สงสัยของผมจะห่างเป็นนาที) 

* เทคนิคนับวินาที ก็เป็นความรู้ใหม่ ขอบตุณครับ

* คุณหมอมีข้อมูล กรณีข้ามถนนอย่างปลอดภัย รถกำลังมา ห่างกี่นาที จะดีครับ

 

ขอขอบคุณอาจารย์ wwibul และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ชีวิตเรามักจะเป็นอย่างนี้ครับ...
  • คือ เรามักจะไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุด ทว่า... ได้สิ่งที่ดีรองลงไป

ขอขอบคุณอาจารย์พันคำ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ข้อมูลในการข้ามถนนนี่... ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ
  • ขอเดาว่า อย่างน้อยก็น่าจะเป็น 4 วินาที

อย่างไรก็ตาม...

  • 8 วินาทีน่าจะปลอดภัยกว่า เพราะเป็นการฝากชีวิตไว้กับคนอื่น ซึ่งน่าจะปลอดภัยน้อยกว่าฝากชีวิตไว้กับตัวเราเอง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท